กรุงเทพ 30 มี.ค. – บลจ.วี เผย กองทุนรวมตราสารหนี้ภายใต้การจัดการ เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง ระบุบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งและสภาพคล่องสูง ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มการเงิน KTBST มั่นใจการดูแลลูกค้า จะไม่มีการปิดกองทุนหรือหยุดซื้อขาย แนะกองทุนตราสารหนี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนในภาวะตลาดผันผวน
นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ.วี) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดเงินและตลาดทุนที่ผันผวนอย่างมากในช่วงนี้ นอกจากสินทรัพย์อย่างตราสารทุนที่นักลงทุนเทขายอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความกังวลของการชะลอตัวเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ที่ระบาดอย่างรุนแรงไปทั่วโลกแล้ว ยังส่งผลมาถึงการเทขายสินทรัพย์ในตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงกองทุนรวมตราสารหนี้เพื่อถือครองเงินสด ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯและของไทยที่ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วทำให้ผลตอบแทนลดลง บลจ.วี มองว่าเทขายสินทรัพย์ต่างๆ อย่างหนักจะเป็นภาวะช่วงระยะสั้นๆ โดยคาดว่ามาตรการของรัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมทั้งของประเทศไทยที่รับมือในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ทั้งการอัดฉีดเงินเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจและการเงินต่างๆ จะทำให้ผลกระทบต่อกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้จะลดลง
ทั้งนี้ บลจ. วี มองว่า หากพิจารณาจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของตราสารหนี้แล้ว ถือว่า เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดีในช่วงนี้เนื่องจากการปรับตัวลงของราคาตราสารทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเริ่มปรับตัวขึ้น ในส่วนของกองทุนรวมตราสารหนี้ภายใต้การจัดการ ของ บลจ.วี เน้นการคัดเลือกตราสารที่มีสภาพคล่องสูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยปัจจุบันกองทุนยังเปิดรับคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนตามปกติ และภายใต้แนวคิดของกลุ่มการเงิน KTBST ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นสำคัญ ดังนั้น กองทุนจะไม่หยุดทำการซื้อขายและจะไม่มีการดำเนินการปิดกองทุนตราสารหนี้แต่อย่างใด นอกจากนี้ ด้วยการสนับสนุนของกลุ่ม KTBST และพันธมิตรของ บลจ.วี คาดว่าจะช่วยเอื้ออำนวยให้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.วี จะดำเนินไปตามปกติ
“ด้วยความผันผวนของสินทรัพย์จากการระบาดที่รุนแรงของ COVID-19 ที่อาจทำให้นักลงทุนเกิดความตกใจบ้าง แต่ บลจ.วี คาดว่าด้วยมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ออกมาสนับสนุนตลาดเงินตลาดทุน ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ยังสามารถลงทุนได้ต่อเนื่อง แม้อัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มปรับตัวลง แต่หากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ถึงจุดสูงสุดแล้ว คาดว่าการเทขายสินทรัพย์ต่างๆจะเริ่มลดลงและแรงซื้อของนักลงทุนจะเริ่มลับมาในสินทรัพย์ต่างๆ ในระยะถัดไป ”นายอิศรากล่าว.-สำนักข่าวไทย