กรุงเทพฯ 23 มี.ค.-กระทรวงพาณิชย์เผยสถิติการเติบโตสตาร์ทอัพไทย ช่วง
2 ปีที่ผ่านมา มีสตาร์ทอัพที่สามารถประกอบธุรกิจได้จริงแล้วกว่า 1,500 ราย ระบุกลุ่มสตาร์อัพที่มีโอกาสเติบโตได้มากในปี
2561 มี 6 กลุ่ม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี
นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
ทางสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) เปิดเผยว่า ปี 2559 –
2560 มีกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพไทยที่สามารถประกอบธุรกิจได้จริงแล้วกว่า
1,500 ราย และมีมูลค่าทรัพย์สินในตลาดรวมกว่า 53,000 ล้านบาท โดย 6
กลุ่มสตาร์ทอัพที่มีโอกาสเติบโตสูงในปี 2561 ได้แก่ สตาร์ทอัพด้าน E-Commerce โดยปีที่ผ่านมาตลาดอีคอมเมิร์ชทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง
2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.1 ของขนาดตลาดค้าปลีกทั้งหมด
และในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 2.81 ล้านล้านบาท ตามด้วยสตาร์ทอัพด้าน FinTech สตาร์ทอัพด้าน AgriTech สตาร์ทอัพด้าน EdTech สตาร์ทอัพด้าน E-Service และสตาร์ทอัพด้าน Internet
of Things : IoT
นายสกนธ์ กล่าวว่า ปีนี้
กระทรวงพาณิชย์ยังมีมาตรการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ และกลุ่มธุรกิจเริ่มต้น ได้แก่
1.การสร้างขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจ สู่การเป็น Trading Nation 2.การใช้อาเซียนเป็นฐานไปสู่เวทีโลก
(ASEANOne) 3:
การส่งเสริมธุรกิจให้เข้าสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่า (Value Creation Economy) 4:
ส่งเสริมธุรกิจบริการที่สอดคล้องกับ Global New Demand และ 5:
การส่งเสริมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (New Trade Infrastructure)
ทั้งนี้ NEA ได้เดินหน้าพัฒนากว่า 150
กิจกรรม ภายใต้ 5 หลักสูตร เช่น New Economy
Amplifier หลักสูตร New Economy Foundation จะสร้างความเข้มแข็งให้กับนักธุรกิจหน้าใหม่
โดยตั้งเป้าผลักดันให้ผู้ประกอบการ
และผู้มีความต้องการดำเนินธุรกิจใหม่เข้าร่วมกิจกรรมให้ได้มากกว่า 100,000 ราย ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจรายละเอียด
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทรศัพท์ 02 507 7999 หรือ www.nea.ditp.go.th , facebook.com/nea.ditp.-สำนักข่าวไทย