ขนส่งย้ำรถป้ายแดงต้องจดทะเบียนภายใน 30 วัน

กรุงเทพฯ 14 ม.ค.- กรมการขนส่งทางบก ย้ำตั้งแต่ 1 ม.ค.นี้ รถป้ายแดงต้องจดทะเบียนภายใน 30 วันนับจากวันรับรถ  


นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบกดำเนินมาตรการเข้มงวดกวดขันการใช้ป้ายแดงอย่างเข้มข้นจริงจัง เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสและเป็นช่องว่างให้กลุ่มมิจฉาชีพนำรถไปใช้ก่อปัญหาอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและยากต่อการควบคุมกำกับดูแลการใช้รถใช้ถนน ซึ่งตามมาตรการเข้มงวดกวดขันการใช้ป้ายแดงกำหนดระยะเวลาที่อนุญาตให้ใช้ป้ายแดงได้เป็นการชั่วคราวไม่เกิน 30 วัน นับจากวันรับรถ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับให้เจ้าของรถดำเนินการจดทะเบียนรถให้เรียบร้อย ซึ่งหากมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนสามารถดำเนินการจดทะเบียนรถได้แล้วเสร็จภายใน 1 วันทำการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ตรวจการทั้งส่วนกลางและภูมิภาคจะตรวจสอบในทุกพื้นที่เข้มข้นจริงจัง หากพบผู้ฝ่าฝืนใช้รถป้ายแดงเกินระยะเวลาที่กำหนด มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 6 ฐานใช้รถที่ยังไม่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท 


ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงขอความร่วมมือผู้จำหน่ายรถอำนวยความสะดวกในการเตรียมเอกสารดำเนินการจดทะเบียนรถ รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ซื้อรถเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้ป้ายแดงได้เป็นการชั่วคราวระหว่างรอการจดทะเบียนรถเท่านั้น โดยต้องใช้ควบคู่กับสมุดคู่มือประจำรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก และผู้จำหน่ายรถต้องระบุวันที่ผู้ซื้อรับรถให้ชัดเจนเพื่อเป็นหลักฐานตรวจสอบการใช้ป้ายแดง พร้อมทั้งต้องจัดทำรายงานข้อมูลการรับรถส่งกรมการขนส่งทางบกเป็นประจำทุกเดือน ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะให้บริการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 หรือตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 หากพบว่ามีการใช้รถป้ายแดงมาให้บริการผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการลงโทษขั้นเด็ดขาดทันที เพราะนอกจากจะเป็นความผิดตามกฎหมายฐานใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการให้บริการ ประชาชนจะไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ 

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้รถป้ายแดงหรือรถที่ยังไม่จดทะเบียนทำให้ยากต่อการตรวจสอบเจ้าของรถที่แท้จริง ทำให้ที่ผ่านมาพบว่ามีการนำรถป้ายแดงมาใช้ก่ออาชญากรรม ทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม และกรณีทำป้ายปลอมเพื่อนำไปติดรถที่ได้มาด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงปัญหาป้ายแดงปลอมทั้งที่มีการประกาศขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา เข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารทางราชการปลอม มีโทษถึงขั้นจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฉะนั้นมาตรการเข้มงวดการจดทะเบียนรถจึงเป็นทั้งมาตรการเพื่อการแก้ไขและมาตรการในเชิงป้องกันการกระทำความผิด กรมการขนส่งทางบกจึงดำเนินการเข้มงวดจับกุม ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อกำหนดการใช้รถป้ายแดงที่ถูกต้อง จนกว่ากฎหมายการยกเลิกป้ายแดงจะมีผลใช้บังคับ เพื่อประชาชนทุกคนได้ใช้รถที่ปลอดภัยอย่างมั่นใจ-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง