กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – ซีอีโอ SENA ยอมรับภาคอสังหาฯ ยังไม่ฟื้น คนกู้ไม่ผ่าน 70% ปี 68 เปิดโครงการใหม่น้อยสุดเป็นประวัติการณ์ ชี้ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ลุ้นลดต่อ เสนอรัฐเร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง-ผ่อนปรนมาตรการปล่อยสินเชื่อ
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ประเมินทิศทางภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปี 2568 ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจจึงต้องรอดูสถานการณ์ต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ต้องเริ่มจากภาครัฐ ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นหลายมาตรการ ส่วนมาตรการที่จะส่งผลดีต่อภาคอสังหา คือรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้ากลับมาฟื้นตัวได้ ที่มาตรการสำคัญต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับเอกชนและผู้บริโภคว่ามาตรการของรัฐจะออกมาได้ดีและทำได้ดี เพราะหากไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้เอกชนก็ไม่กล้าลงทุนประชาชนก็เก็บเงินสดอย่างเดียว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% เหลือ 1.5% ต่อปี มองว่าจะส่งผลดีทั้งฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค เมื่อมีการลดดอกเบี้ย จะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ที่ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน มีต้นทุนลดลง ส่วนผู้บริโภคที่ซื้ออสังหาฯ และรถ ที่ต้องกู้แบงค์ จะได้บ้านที่ราคาถูกลง เพราะการผ่อนจ่ายราคาบ้านส่วนใหญ่คือการจ่ายดอกเบี้ย แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่าดอกเบี้ยลดลงในอัตราเท่าใด ดังนั้นการลดดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และหวังว่าจะมีการลดเพิ่มอีก
อย่างไรก็ตาม แม้ดอกเบี้ยลดลง แต่วิธีการกู้แบงค์ไม่ได้ดีขึ้น หรือคนยังคงกู้ไม่ผ่าน การลดดอกเบี้ยก็จะช่วยได้ไม่มากนัก จึงอยากให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการเพิ่มเติมดูแลการปล่อยสินเชื่อ พร้อมยอมรับว่าการที่ประชาชนกู้ไม่ผ่านเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะปัจจุบันการซื้อขายอสังหาฯ ขณะนี้พบว่า 70% กู้ไม่ผ่าน เมื่อเกิดการปฏิเสธสินเชื่อ คนไม่สามารถกู้ได้ ผู้ประกอบการยังมีสตอกอยู่ในมือก็ไม่เกิดการลงทุน เศรษฐกิจก็ไม่หมุน พร้อมระบุปี 2568 ธุรกิจอสังหาฯ เปิดโครงการใหม่น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ
“ช่วงที่เหลือของปีนี้ธุรกิจภาคอสังหายังเต็มไปด้วยความท้าทาย ยอมรับว่ายังไม่เห็นตัวแปรที่จะทำให้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ การลดดอกเบี้ยคือการลดราคาสินค้า แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนเงื่อนไขการทำให้ได้สินค้า” ดร.เกษรา กล่าว
ซึ่ง SENA มีโครงการ LivNex “เช่าออมบ้าน” ที่ไม่ต้องชำระดาวน์ ไม่ต้องรออนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร เป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขการทำให้ได้สินค้าเพื่อทำให้คนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น แต่การแก้จากฝั่งผู้ประกอบการได้ผลในระดับหนึ่ง ที่สำคัญคือระดับนโยบายที่จะแก้ปัญหาได้มากขึ้น
ส่วนการเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 2/2568 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.70%- 5.951% ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ย.นั้น มองว่าหุ้นกู้มีความท้าทาย 2 รูปแบบ คือความโปร่งใสของตัวหุ้นกู้ ที่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับหุ้นกู้ที่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส ส่งผลให้ตลาดหุ้นกู้ไม่ได้อยู่ในภาวะเติบโตมากเท่าที่ควร อีกความท้าทายคือ คนซื้อหุ้นกู้เริ่มกังวลกับภาวะบริษัทที่ออกหุ้นกู้ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่มีกลุ่มอุตสาหกรรมไหนที่จะเติบโตได้ดี และ SENA ก็เป็นหนึ่งในนั้น นักลงทุนอาจกังวลได้ว่าเมื่อหุ้นกู้ออกมาแล้วจะคืนเงินได้หรือไม่ ซึ่งก็จะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด.-516-สำนักข่าวไทย