SENA เปิดโปรเจ็กต์ “เช่าออมบ้าน” สอดรับภาวะการเงินผู้บริโภค​

กรุงเทพฯ​ 19 พ.ย.​ – กรรมการผู้จัดการ​เสนาฯ​ เผย สภาวะเศรษฐกิจ​ผันผวน ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​กำลัง​ซื้อ​ในธุรกิจ​อสังหาริมทรัพย์​ ประกอบกับยอดปฏิเสธ​สินเชื่อ​ซื้อ​ที่อยู่​อาศัยมีมาก​ กลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาเลือกเช่าที่อยู่อาศัยแทนการซื้อ ล่าสุด​พัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัย “LivNex เช่าออมบ้าน” ผู้​บริโภค​เป็นเจ้าของที่อยู่​อาศัย​ โดยไม่ต้องชำระเงินดาวน์ และไม่ต้องรอการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร


ผศ.​เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน โดยพบว่า​ ยอดการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่รายได้ของประชาชนไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม และภาระหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ หันมาเลือกเช่าที่อยู่อาศัยแทนการซื้อ การเช่าจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการผ่อนชำระระยะยาว และปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ความต้องการซื้อบ้านลดลงคือ อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของรายได้ สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นจากยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลง ซึ่งมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้เริ่มต้นที่ต้องการบ้านราคาประมาณ 1 – 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่เสนาฯ มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด มากถึง 20% หรือกว่า 20,000 ยูนิต

เสนาฯ ได้พัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัย “LivNex เช่าออมบ้าน” โดยมีคอนโดมิเนียม 24 โครงการในทำเลศักยภาพเข้าร่วมโครงการ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมกว่า 800 ยูนิต และผ่านการอนุมัติแล้วกว่า 400 ยูนิต นอกจากนี้ เสนาฯ ยังได้ต่อยอดนวัตกรรม “LivNex Housing” บ้านคุณภาพทำเลดี 22 โครงการ ภายใต้แนวคิด “เช่าออมบ้าน…เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ” ซึ่งไม่ต้องชำระเงินดาวน์ และไม่ต้องรอการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร เพียงเลือกโครงการเสนา ที่ต้องการและทำสัญญาเช่าออมสูงสุด 36 เดือน ก็สามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที พร้อมโอนสิทธิ์เปลี่ยนมือได้ โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.8% เปลี่ยนค่าเช่าเป็นเงินออม ลดเงินต้น และผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงล้านละ 4,100 บาท


ทั้งนี้ เสนาฯ มองเห็นโอกาสในความหลากหลาย จึงขยายโซลูชันการอยู่อาศัยตอบโจทย์ลูกค้าระดับ Premium ด้วย “LivNex Gold” อิสรภาพเหนือระดับของการมีบ้าน ที่ต้องการเป็นเจ้าของบ้านและคอนโด เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบ้านในอนาคตได้โดยไม่เสียวงเงินเครดิต และไม่ต้องผูกมัดกับการกู้ยืมเงิน สะดวกกับบริหารจัดการวงเงินเพื่อลงทุนธุรกิจ อีกทั้งยังได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราสินเชื่อทั่วไป โครงการนำร่องที่เข้าร่วม LivNex Gold ได้แก่ คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ปีติ สุขุมวิท 101 (Piti Sukhumvit 101), โครงการบ้านคุณภาพ เสนา พาร์ควิลล์ 2 รามอินทรา – วงแหวน (SENA Park Ville 2 Ramindra – Wongwaen), เสนา วิลล์ วงแหวน – บางบัวทอง (SENA Ville Wongwaen Bangbuathong) และ เสนา แกรนด์โฮม รังสิต – ติวานนท์ (SENA Grand Home Rangsit – Tiwanon) ตอบรับความต้องการของผู้ที่มองหาความมั่นคงทางการเงินและต้องการสร้างมรดกที่มั่นคงเพื่อส่งต่อให้ครอบครัวในอนาคต

นอกจากนี้ ครั้งแรกของวงการอสังหาไทย เสนาฯ ยังเปิดตัวบิสิเนสโมเดลใหม่ “RentNex” Pay wisely, Live Flexibly การเช่าคอนโดรูปแบบใหม่ เน้นความยืดหยุ่นให้กับผู้เช่า และไม่ผูกพันกับสัญญาเช่าระยะยาว อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้าด้วยบริการสมัครสมาชิก (Subscription Model) ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่มี lifestyle ในการสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Netflix, YouTube Premium, Spotify Premium, Canva Pro ซึ่งเสนาฯ มองว่า “RentNex” จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Generation Rent ที่เน้นการเช่าอยู่ มากกว่าความต้องการซื้อเพื่อเป็นเจ้าของ โดยลูกค้าสามารถเลือกเช่าแบบสมัครสมาชิกได้ง่ายๆ จาก 20 โครงการคอนโดคุณภาพของเสนา ดังนี้

  • เริ่มต้นเช่าเพียง 6,700 บาทต่อเดือน กับโครงการคุณภาพจากเสนา พิเศษสุดกับแพ็กเกจให้เลือกถึง 3 แบบ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ:
    • แพ็กเกจ Silver: เลือกเช่าในโครงการเสนาคิทท์ (SENA Kith) และเสนาอีโคทาวน์ (SENA Eco Town) ที่มีให้เลือกถึง 12 โครงการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักคุณภาพในทำเลสะดวกสบาย
    • แพ็กเกจ Gold: ขยับสู่ระดับที่สูงขึ้น ด้วยการเลือกพักในโครงการเฟล็กซี่ (Flexi) และเสนาคิทท์ (SENA Kith) และเสนาอีโคทาวน์ (SENA Eco Town) พร้อมให้เลือกถึง 16 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในเขตเมือง
    • แพ็กเกจ Platinum: สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่า กับตัวเลือกโครงการนิชโมโน (Niche Mono), เฟล็กซี่ (Flexi) และเสนาคิทท์ (SENA Kith) และเสนาอีโคทาวน์ (SENA Eco Town) รวม 20 โครงการ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความหรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • ให้คุณได้เลือกแผนการเช่าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ พร้อมสัมผัสคุณภาพการอยู่อาศัยจากเสนา ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตในเมือง
  • Flexibility: ยืดหยุ่นสูงสุด เลือกย้าย Location ใหม่ใน Pool Package ที่เลือกไว้แบบ Seamless ไม่ต้องจ่ายมัดจำเพิ่มและไม่ต้องทำสัญญาเช่าใหม่
  • Money Save: รับส่วนลด 20% ของค่าเช่าสะสม 3 ปี เมื่อเปลี่ยนใจซื้อโครงการทั้งหมดใน Pool ของ RentNex
  • Build Credit Status: สร้าง Credit Statement กับ ธอส.
  • ค่าเช่าทุกยูนิต รวมค่าส่วนกลางและค่าน้ำ
  • Better Living: Facilities ครบครัน ทั้ง Fitness สระว่ายน้ำ ที่จอดรถ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบพร้อมอยู่

เสนาฯ เชื่อมั่นว่านวัตกรรมทางการเงิน ทั้ง “LivNex” , “LivNex Gold” และ “RentNex” ไม่เพียงจะช่วยผลักดันโอกาสการเติบโตท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน แต่ยังตอกย้ำพันธกิจหลักในการสร้างโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างแท้จริง ในราคาที่จับต้องได้ เสนาฯ ยึดมั่นหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวคิด ESG โดยมุ่งเน้นผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการผสานนวัตกรรมทางการเงินเข้ากับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1775 https://livnex.sena.co.th , https://rentnex.sena.co.th หรือ และติดตามข่าวสารของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้ที www.sena.co.th, https://www.facebook.com/senadevelopmentpcl . 512 – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เร่งกู้ระเบิดตกค้าง-พิสูจน์กลิ่นศพทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 4 ส.ค. – ตลอดทั้งวัน ชุด EOD ตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปะทะ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พบวัตถุระเบิดและลูกกระสุนปืนใหญ่ตกค้างรวมกว่า 140 ลูก ใน 34 จุด ขณะที่กลิ่นศพทหารกัมพูชา ยังไม่ส่งผลกระทบฝั่งไทย แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันมีกลิ่นจริง ตลอดทั้งวัน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 และตำรวจภูธรพนมดงรัก รวมถึง ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปะทะใน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังสถานการณ์ปะทะสงบลง โดยพบวัตถุระเบิดและลูกกระสุนปืนใหญ่ตกค้างรวมกว่า 140 ลูก ใน 34 จุด หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดให้ข้อมูลว่า ระเบิดส่วนใหญ่ทำงานไปแล้ว เหลือเพียง 7 จุดที่ยังคงอยู่ระหว่างการเก็บกู้ แต่มีบางจุดที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติงานได้ เนื่องจากอยู่ติดแนวชายแดน และอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับทหารทั้ง 2 ฝ่ายที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งสภาพพื้นที่เป็นโคลนตม ทำให้บางจุดลูกระเบิดฝังลึกมาก ทำให้การเก็บกู้ยากลำบาก จึงทำได้เพียงล้อมรั้วแสดงสัญลักษณ์ให้ทราบ เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้ […]

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]