เปิดบริการชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – กรมการขนส่งทางบก ครบรอบ 84 ปี เปิดตัวบริการรับชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สะดวกสบาย ทำได้ทุกที่ พร้อมให้บริการแล้ววันนี้


นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานร่วมแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ครบรอบ 84 ปี “ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อการขนส่งที่ปลอดภัย สู่อนาคตที่ยั่งยืน” และร่วมเปิดตัวบริการรับชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบก และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการชำระภาษีรถประจำปีให้ได้รับการบริการที่สะดวก สบาย ลดเวลาการเดินทาง เพิ่มช่องทางในการชำระภาษีรถผ่านระบบออนไลน์ สามารถชำระภาษีรถได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งพร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 84 ปี วันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ในนามของกระทรวงคมนาคม ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณผู้บริหารรวมไปถึงบุคลากรของกรมการขนส่งทางบกทุกท่าน ที่มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจสำคัญและมียุทธศาสตร์ขับเคลื่อนพัฒนาภารกิจที่ต่อเนื่องชัดเจน ตั้งแต่ก่อตั้งหน่วยงานจนถึงปัจจุบันในปีที่ 84 เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนและประเทศชาติโดยรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม มีความมุ่งมั่นในการยกระดับหน่วยงานภาครัฐสู่เป้าหมายการปฏิบัติภารกิจที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคปัจจุบันซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จึงมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ยกระดับพัฒนาในด้านต่าง ๆ โดยการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เพื่อกำกับ ดูแล พัฒนาระบบการขนส่งทางถนน และการให้บริการประชาชน รวมถึงขยายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงคมนาคม อันนำมาซึ่งร่วมมือระหว่างกรมการขนส่งทางบก และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้บริการชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้เป็นผลสำเร็จ ลดภาระด้านเวลาและค่าใช้จ่าย


ในการเดินทางมาใช้บริการที่กรมการขนส่งทางบก สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมทั้งนี้ การร่วมมือกันของทั้ง 2 หน่วยงานในการพัฒนาบริการชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ผ่านแอป “เป๋าตัง”จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนให้มีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาปรับประยุกต์ใช้กับการกำกับ ดูแล พัฒนาระบบการขนส่งทางถนน และการให้บริการประชาชน อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 84 ปี กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นพัฒนาระบบการขนส่งทางถนน ให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ผ่านการควบคุม กำกับ ดูแล บังคับใช้กฎหมายเพื่อทำให้การใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัย รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้หน่วยงานภาครัฐพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนในรูปแบบดิจิทัล เพื่อช่วยลดทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางลดการใช้กระดาษ (Paperless) โดยที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้บูรณาการร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนาช่องทางการทำธุรกรรมการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ โดยตั้งแต่เปิดใช้ระบบดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้บริการออกใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศแล้ว จำนวน 51,257 ฉบับ ซึ่งถือได้ว่าโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ในวันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมมือกันต่อยอดพัฒนาการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้สำเร็จ โดยจากที่แอปฯเป๋าตังในปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านราย ทำให้เชื่อได้ว่าระบบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนรายได้จากการจัดเก็บภาษีรถประจำปีได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการชำระภาษีรถ ให้สามารถทำธุรกรรมทุกขั้นตอนได้ผ่านแอปฯเป๋าตัง ตั้งแต่การยื่นชำระภาษี ชำระเงิน และรอรับเครื่องหมายการเสียภาษีที่บ้านผ่านช่องทางไปรษณีย์ไทย ซึ่งระหว่างที่รอรับการจัดส่งเครื่องหมายฯ ยังสามารถแสดงเครื่องหมายการเสียภาษีผ่านแอปฯ เป๋าตังได้ภายในระยะเวลา 15 วันอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นกรมการขนส่งทางบกและธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมกันต่อยอดไปอีกขั้นโดยการพัฒนาระบบการให้บริการต่ออายุใบอนุญาตขับรถผ่านแอปฯเป๋าตัง ซึ่งระบบดังกล่าวสามารถเปิดให้ประชาชนใช้งานได้ภายในปี 2569 นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการวางระบบสำหรับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจดทะเบียนรถ (e-Service) โดยเป็นการยื่นเอกสารขอจดทะเบียนรถผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดระยะเวลาการจดทะเบียน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และช่วยลดการใช้ป้ายแดงระหว่างรอการจดทะเบียนรถ โดยในปี 2569 จะนำร่องใช้กับการจดทะเบียนรถสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) และรถจักรยานยนต์(รย.12) ก่อนขยายไปยังรถประเภทอื่นๆต่อไป

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย  กล่าวว่า  ความร่วมมือพัฒนาบริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านบริการ KlubRoad บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในครั้งนี้  ตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และธนาคารกรุงไทย ในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย มายกระดับบริการขนส่งดิจิทัล  ต่อยอดจากบริการขอใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศแบบออนไลน์ผ่าน KlubRoad ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 40% ภายในไม่ถึงปี สะท้อนถึงศักยภาพของแพลตฟอร์มและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อบริการดิจิทัลของรัฐ โดยมีการวางระบบ
ซึ่งจะรองรับการขยายไปสู่บริการต่ออายุใบขับขี่แบบออนไลน์ เชื่อมต่อระบบตรวจสุขภาพดิจิทัลในระบบนิเวศด้านสุขภาพ รวมถึงต่อยอดสู่บริการที่เกี่ยวข้องเช่น พ.ร.บ. ประกันภัย และการตรวจสอบคะแนนความประพฤติในการขับขี่แบบครบวงจรในแอปฯ เป๋าตัง และเดินหน้าพัฒนาระบบนิเวศการขนส่งมวลชนผ่านระบบตั๋วร่วม M-Flow, M-Pass และการชำระค่าบริการด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการขนส่งที่สะดวกและทั่วถึง


“ธนาคารให้ความสำคัญกับการสนับสนุนภาครัฐในการพัฒนาบริการด้านการขนส่ง ที่เป็นหนึ่งใน 5 Ecosystems หลัก ที่กรุงไทยมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน โดยนำโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เทคโนโลยีทางการเงินพัฒนา Smart Mobility อย่างเป็นรูปธรรม สร้างระบบนิเวศดิจิทัลด้านยานยนต์ อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการยกระดับการให้บริการของรัฐ และสอดรับกับเป้าหมายของธนาคารกรุงไทยในการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]