กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – โฆษก ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยเดือนเมษายน 2568 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนภาคเอกชน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.5%
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงเศรษฐกิจไทยเดือนเมษายน 2568 ว่า เศรษฐกิจไทยเดือนเมษายนปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนตามการผลิตภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และการลงทุนภาคเอกชน โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมดีขึ้นในหลายหมวด โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์นั่ง สอดคล้องกับยอดขายในประเทศที่ปรับดีขึ้น ขณะที่การผลิตในบางหมวดเพิ่มขึ้นจากการสะสมสินค้าคงคลัง หลังเร่งส่งออกไปในเดือนก่อน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับดีขึ้นบ้าง 2.5% หลังชะลอมากในช่วงก่อนหน้า แต่ยังหดตัวจากปีก่อนซึ่งเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 2.5 ล้านคน รายรับเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมคิดเป็น 5.4% โดยนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในหลายสัญชาติ โดยเฉพาะจากมาเลเซียและตะวันออกกลาง หลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน หลังจากลดลงมากในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับนักท่องเที่ยวยุโรปเพิ่มขึ้นจากวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ และเมื่อนับรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือนมกราคมถึงวันที่ 25 พฤษภาคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 13.9 ล้านคน
สำหรับนโยบายการค้าสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจชัดเจนนัก โดยการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัว การส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯชะลอลงบ้างแต่ยังอยู่ในระดับสูง และเห็นสัญญาณการเร่งนำเข้าในกลุ่มวัตถุดิบและชิ้นส่วนประกอบ ทำให้ประเมินว่าการส่งออกไปสหรัฐฯ น่าจะยังมีแรงส่งในระยะสั้นก่อนมาตรการภาษีจะมีผล โดยประเด็นที่ต้องติดตาม 1) นโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก 2) พัฒนาการของภาคการท่องเที่ยว 3) การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันที่สูงขึ้น และ 4) แรงส่งจากภาคการคลัง
การลงทุนภาคเอกชนเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 2.9% จากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ และหมวดยานพาหนะ โดยหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าทุนในหมวดคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้สำนักงาน และหมวดอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับหมวดยานพาหนะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งและการลงทุนในเครื่องบิน เรือ และหัวรถจักร ด้านหมวดก่อสร้างทรงตัวโดยหมวดที่อยู่อาศัยปรับดีขึ้น ขณะที่หมวดที่มิใช่ที่อยู่อาศัยลดลงตามการก่อสร้างโรงแรมเป็นสำคัญ
การบริโภคภาคเอกชนเดือนเมษายนลดลง 1.5% จากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน จากหมวดบริการที่ลดลงจากหมวดโรงแรมและภัตตาคาร ตามการใช้จ่ายของคนไทยในประเทศและคนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศ อย่างไรก็ดี หมวดสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นจากยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ส่วนหนึ่งจากการส่งมอบรถยนต์ที่สั่งจองในงานจัดแสดงรถยนต์ (Motor Show)
การส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำเดือนเมษายนลดลง 2.1% จากเดือนก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน ตามการส่งออก (1) สินค้าเกษตร ตามการส่งออกยางธรรมชาติไปจีนที่ชะลอลงหลังเร่งไปมากในช่วงก่อนหน้า และการส่งออกทุเรียนไปจีน (2) ยานยนต์ ตามการส่งออกรถกระบะไปออสเตรเลียและอาเซียน ชิ้นส่วนยานยนต์ไปสหรัฐฯ และรถยนต์นั่งไปตะวันออกกลางและอาเซียน และ(3) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จากการส่งออกอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมไปสหรัฐฯ หลังเร่งส่งออกไปในเดือนก่อน
มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.7% จากหมวดสินค้าทุนไม่รวมเครื่องบินตามการนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์รวมถึงหมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ไม่รวมเชื้อเพลิงตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสอดคล้องกับการผลิตและการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม หมวดเชื้อเพลิงปรับลดลงตามปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเป็นสำคัญ
การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัว 31.6% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการเบิกจ่ายเงินบำนาญ ค่าตอบแทนบุคลากร และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ สำหรับรายจ่ายลงทุนขยายตัวตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านสาธารณูปโภคและคมนาคม ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวจากผลของฐานสูงในปีก่อนที่มีการลงทุนในโครงการด้านสาธารณูปโภค
รายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน 0.5% จากด้านราคาเป็นสำคัญ เป็นผลจากอุปทานไทยและโลกที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่หดตัวได้แก่(1) ข้าวขาว ตามอุปทานข้าวทั้งของไทยและของโลกที่เพิ่มขึ้นตามการกลับมาส่งออกข้าวของอินเดีย (2) ทุเรียน ตามการส่งออกที่ลดลงจากความล่าช้าในการตรวจสอบสารตกค้างของตลาดส่งออกหลัก (3) ยางพาราและอ้อย จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และ (4) มันสำปะหลัง ตามความต้องการมันเส้นจากจีน
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบเล็กน้อย 0.22% ตามหมวดพลังงานเป็นสำคัญ จากราคาน้ำมันขายปลีกที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และมาตรการลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าของภาครัฐ สำหรับหมวดอาหารสดลดลงจากผลของฐานสูงในราคาผักและผลไม้ที่มีปัญหาภัยแล้งในปีก่อน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสำเร็จรูป จากการลดการทำโปรโมชันอาหารโทรสั่ง (delivery)รวมถึงเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ตามต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับภาวะตลาดแรงงานโดยรวมปรับดีขึ้นเล็กน้อย 0.3% จากเดือนก่อน ตามจำนวนผู้ประกันตนมาตรการ 33 ที่เพิ่มขึ้นในหลายสาขา โดยเฉพาะเหมืองแร่ ภาคการผลิต โรงแรมและร้านอาหาร อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานรวมและรายใหม่ต่อผู้ประกันตนรวมปรับเพิ่มขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากดุลการค้าเป็นสำคัญ -1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลงตามการส่งกลับกำไรที่น้อยลงของบริษัทต่างชาติในไทยเป็นสำคัญ. -513-สำนักข่าวไทย