กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – คาดราคาทองคำ “ร่วง-ชั่วคราว” ฮั่วเซ่งเฮงระบุยังต้องจับตาการเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับ 9 ประเทศคู่ค้าสำคัญ แนะทยอยสะสมในช่วงที่ราคาลดความร้อนแรง มองแนวรับช่วงสั้น 2,950 – 3,050 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
บริษัท ห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์ว่ากรณีสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงลดภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน โดยภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในฝั่งสหรัฐฯ ลดจาก 145% เหลือ 30% ขณะที่จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณบวกจากจีนเพิ่ม จากกรณีที่จีนเตรียมกลับมารับมอบเครื่องบิน Boeing 737 MAX จากที่ก่อนหน้านี้ได้ระงับการรับมอบไว้ เนื่องจากข้อพิพาทด้านภาษี อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงครั้งนี้ยังต้องรอการเจรจาระดับผู้นำระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งทั่วโลกมองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายสงครามการค้า และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก
ฮั่วเซ่งเฮงประเมินว่า แม้ความเคลื่อนไหวข้างต้นจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก แต่ก็ยังไม่ใช่สภาวการณ์ที่ควรวางใจ โดยช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ยังต้องติดตามการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าว่าจะบรรลุข้อตกลงหรือไม่ ที่สำคัญยังมีความไม่แน่นอนของการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงในการลดภาษีกับสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก โดยลดภาษีศุลกากรลงจาก 5.1% เหลือ 1.8% แต่ยังเหลืออีก 9 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่ยังต้องเจรจา ไม่ว่าจะเป็น แคนาดา เม็กซิโก จีน สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย และเวียดนาม ซึ่งยังมีภาษีนำเข้าสูงสุดถึง 46%
สำหรับความเคลื่อนไหวราคาทองคำที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง โดยมีปัจจัยหลักมาจากสงครามการค้าโลก และเมื่อสงครามการค้าโลกผ่อนคลายลง ราคาทองมีแนวโน้มชะลอความร้อนแรง โดยเมื่อดูจาก Fear & Greed Index เมื่อ 1 เดือนก่อนอยู่ในโหมด Extreme Fear ช่วงเวลานั้นตลาดกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกจะถดถอยจากสงครามการค้าฯ นักลงทุนต่างพากันเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นทอง เงินเยน เงินสวิสฟรังก์ แต่ล่าสุด Fear & Greed Index พุ่งขึ้นเป็น 66 จุด อยู่ในโหมด Greed นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และลดการลงทุนในทองคำ
ในระยะสั้น คาดทองคำยังมีแนวโน้มปรับลงได้อีก โดยอาจปรับฐานลงไปที่แนวรับ 2,950-3,050 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หากราคาทองคำมีการปรับฐานลงทดสอบแนวรับดังกล่าว ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อสะสมของนักลงทุนอีกครั้ง โดยมองว่าระยะยาวมีปัจจัยบวกรออยู่ ประกอบด้วย
- การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางแต่ละประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ
- การเสื่อมค่าของเงินดอลลาร์
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
- แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก (13 พ.ค.) ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 19.80 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 3,247.80 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำร่วงลงกว่า 100 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. หลังข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ และจีนทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยหนุน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. เวลา 08.40 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเวลา 19.40 น. ตามเวลาไทย
ส่วนราคาทองคำในไทย เช้านี้ปรับ 4 รอบ ตามราคา GOLD SPOT ราคาร่วงทุกรอบ จนถึงเวลา 12.00 น. ราคาทองคำร่วงรวม 250 บาท/บาททองคำ ทองแท่งขายออก 50,950 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 51,750 บาท. -511-สำนักข่าวไทย