“พิชัย” พร้อมเจรจาสหรัฐ ลุยขยาย “คุณสู้ เราช่วย”

ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ 1 พ.ค.- “พิชัย” พร้อมเจรจาสหรัฐ คาดจีดีพีไตรมาสแรกโต 2.5% รับหนักสุดในไตรมาส 3 มุ่งขยายแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” กลุ่มลูกหนี้ 1 หมื่นบาท/ราย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดงานงาน “MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง ว่า สงครามทางการค้ายอมรับว่าส่งผลกระทบกับประเทศต่างๆอย่างรุนแรงทั่วโลก คาดว่าผลสุดท้าย คาดว่าเจรจาร่วมกันได้ และยังมองว่าจีดีพีไตรมาสแรกปี 68 ขยายตัว 2.5 จากนั้น เจอปัญหาหนักสุดช่วงไตรมาส 3 จึดีพีอาจลดลง ถึงแม้ไทยมีภาระหนี้สาธารณะร้อยละ 64 ของจีดีพี แต่รัฐบาลกู้เงินในประเทศสัดส่วนร้อยละ 98 และกู้ต่างประเทศเพียงร้อยละ 1 จึงไม่มีปัญหาความเสี่ยงการกู้เงินต่างประเทศ


เพื่อรองรับปัญหาสงครามทางการค้า โดยใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รองรับการฟื้นเศรษฐกิจไทยในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า โดยเฉพาะการลงทุนป้องกันปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม การยกระดับภาคเกษตร เพื่อนำมามาผลิตเพื่อการส่งออก การปรับปรุงสนามบิน แหล่งท่องเที่ยว รองรับการท่องเที่ยวขายตัว รวมถึงการผลักดันภาคเอกชน ทั้งนักลงทุนและต่างชาติลงทุนให้มากขึ้น ดังนั้นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้ใช้เงินจากรัฐบาลเพียงด้านเดียว สำหรับการปรับงบปี 69 ต้องหารือในชั้นกรรมาธิการในสภาเพื่อปรับงบประมาณมารองรับ สัดส่วนการกู้เงินมาใช้อาจไม่สูงมากนัก

หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการ ”คุณสู้ เราช่วย“ สำหรับกลุ่มลูกหนี้ 1 แสนบาท/ราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้มีปัญหาหนี้ NPL ยอดหนี้ 10,000 บาท/ราย โดยแบ่งกลุ่มเป็น แบงก์รัฐ ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่ม Non Bank คลังจึงเตรียมหารือกับนายแบงก์ทุกกลุ่ม คาดว่าในช่วง 2 เดือนหนี้ จะนำร่องแก้ปัญหาหนี้กับแบงก์รัฐ เพื่อปรับเงื่อนไข เสนอครม.พิจารณาในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ หลังจาก ธ.ออมสิน แก้ปัญหาได้แล้ว 4 แสนราย ธ.ก.ส. แก้ปัญหา 2.5 แสนราย สำหรับกลุ่ม Non Bank เน้นกลุ่มลูกค้า บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล วงเงินประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท


เมื่อรัฐบาลแก้ปัญหากลุ่มลูกหนี้รายย่อย 3 ล้านราย จากลูกหนี้กลุ่มเป้าหมาย 5.4 ล้านราย สำหรับกลุ่มหนี้คงค้างกว่า 1 แสนบาท/ราย จำนวน 2 ล้านราย จึงมุ่งให้ธนาคารเจ้าของบัญชี ใช้วิธีปรับโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้มากกว่า 1 ล้านบาท/ราย นับว่ามูลหนี้สูงถึง 5 แสนล้านบาท จึงต้องใช้แนวทางเจรจา ปรับโครงสร้างหนี้ หากสรุปแผนทั้งหมด จะทยอยเสนอ ครม.พิจารณา เพื่อเร่งแก้ปัญหาหนี้รายย่อยระดับมูลหนี้ต่ำกว่าเฟสแรก ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”

ศาสตราจารย์เกียติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หลังจาก “ทรัมป์” ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับทุกประเทศ นับเป็นโจทย์ใหญ่กับหลายประเทศทั่วโลก ทำให้สงครามทางการค้า กลายเป็นความตึงเครียดของมหาอำนาจโลก มีทั้งสงครามการค้า สงครามการเงิน สงครามเทคโนโลยี สงครามข่าวสาร นำไปสู่การสะสมอาวุธตามมา ย้ำวิกฤติเศรษฐกิจของไทยจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนต้องเตรียมเงินสดในกระเป๋า ต้องเตรียมตัวอย่างซีเรียส สถานการณ์ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นำไปสู่ปัญหาชีวิต ทำให้การใช้จ่ายขัดสนได้ในแต่ละครอบครัว

ดร.สุรชาติ หวั่นวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนปี 40 ในเวอร์ชั่น “ทรัมป์” รัฐบาลต้องเตรียมรองรับหลายด้าน เตรียมภาคการผลิต การผลิตอะไร การผลิตภาคอุตสหากรรม นำเข้า ส่งออก รองรับการปิดตัวของหลายกิจการ การเตรียมการยกระดับภาคเกษตร การนำเข้าเนื้อวัว เนื้อสุกร อีกไม่นานเจอเรื่องนี้อย่างแน่นอน ในปีนี้ต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวน้อยลง รัฐบาลหวังรายได้จากการเข้ามาท่องเที่ยว เมื่อเศรษฐโลกไม่ดี ต่างชาติย่อมเข้ามาท่องเที่ยวลดลงแน่นอน การเตรียมรองรับทุ่มตลาดจากจีน ทะลักเข้าไทย การตั้งโรงงานสวมสิทธิ์ไทย รัฐบาลต้องจริงจังมากกว่านี้ การเตรียมการรองรับอารมณ์หงุดหงิดของสังคมไทย กลายเป็นวิกฤติทางการเมืองไทย นำไปสู่การเตรียมหาเสียงสำหรับพรรคการเมือง นำไปสู่การแจกเงินมากขึ้นในการเลือกตั้ง


ดร.กิริฎา เภาวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ในทุกวิกฤต มีโอกาสเสมอ ขณะนี้จีนตอบโต้สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 125 คุมเข้มนำเข้าแร่ธาตุหายาก 7 ชนิดสำคัญ เช่น ชิ้นส่วนผลิตเครื่องบินรบ การผลิตแบตเตอรรี่ ชื้นส่วนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ดังนั้น ต้องติดตามดูว่าหลัง 90 วันในวันที่ 7 ก.ค.68 หลายประเทศ จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีอย่างแน่นอน สำหรับไทย เมื่อกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออก ยอมกระทบรายได้ของไทยอย่างมาก ยอมรับทั้งสหรัฐและจีน สำคัญกับไทยอย่างมาก จึงต้องกระจายไปยังตลาดอื่นด้วย

ยอมรับสินค้าจากสหรัฐและจีน จะถูกกว่าการผลิตในประเทศ ผู้ประกอบการต้องระวังในจุดนี้ด้วย เพราะสินค้านำเข้าจะเข้ามาตีตลาดในประเทศ เช่น เครื่องจักรอุปกรณ์ เมื่อมีนักลงทุนจีนเข้ามาขยายการลงทุน จะมีการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรมาขยายการลงทุนในไทย นับว่าเหรียญมีสองด้าน อุตสาหกรรมไทยจึงต้องปรับตัวรองรับสิ่งเหล่านี้ ที่จะมีสินค้าจะสหรัฐและจีนเข้ามาไทยมากขึ้น ในสภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน รัฐบาลต้องเตรียมเงินไปช่วยเหลือต่างๆเหมือนปัญหาโควิด-19 ทั่วโลก การแจกเงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย จะใช้เงินไปช่วยเหลือรายย่อย เอสเอ็มอี นับว่าการคลังสำคัญมาก เพื่อไม่ต้องก่อหนี้เพิ่มในอนาคต เพราะการโดนลดเรตติ้งประเทศ กระทบรัฐบาล เอกชนกู้เงินจะได้รับผลกระทบอย่างมาก.-515.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]