“พิชัย” พร้อมเจรจาสหรัฐ ลุยขยาย “คุณสู้ เราช่วย”

ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ 1 พ.ค.- “พิชัย” พร้อมเจรจาสหรัฐ คาดจีดีพีไตรมาสแรกโต 2.5% รับหนักสุดในไตรมาส 3 มุ่งขยายแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” กลุ่มลูกหนี้ 1 หมื่นบาท/ราย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดงานงาน “MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง ว่า สงครามทางการค้ายอมรับว่าส่งผลกระทบกับประเทศต่างๆอย่างรุนแรงทั่วโลก คาดว่าผลสุดท้าย คาดว่าเจรจาร่วมกันได้ และยังมองว่าจีดีพีไตรมาสแรกปี 68 ขยายตัว 2.5 จากนั้น เจอปัญหาหนักสุดช่วงไตรมาส 3 จึดีพีอาจลดลง ถึงแม้ไทยมีภาระหนี้สาธารณะร้อยละ 64 ของจีดีพี แต่รัฐบาลกู้เงินในประเทศสัดส่วนร้อยละ 98 และกู้ต่างประเทศเพียงร้อยละ 1 จึงไม่มีปัญหาความเสี่ยงการกู้เงินต่างประเทศ


เพื่อรองรับปัญหาสงครามทางการค้า โดยใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รองรับการฟื้นเศรษฐกิจไทยในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า โดยเฉพาะการลงทุนป้องกันปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม การยกระดับภาคเกษตร เพื่อนำมามาผลิตเพื่อการส่งออก การปรับปรุงสนามบิน แหล่งท่องเที่ยว รองรับการท่องเที่ยวขายตัว รวมถึงการผลักดันภาคเอกชน ทั้งนักลงทุนและต่างชาติลงทุนให้มากขึ้น ดังนั้นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้ใช้เงินจากรัฐบาลเพียงด้านเดียว สำหรับการปรับงบปี 69 ต้องหารือในชั้นกรรมาธิการในสภาเพื่อปรับงบประมาณมารองรับ สัดส่วนการกู้เงินมาใช้อาจไม่สูงมากนัก

หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการ ”คุณสู้ เราช่วย“ สำหรับกลุ่มลูกหนี้ 1 แสนบาท/ราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้มีปัญหาหนี้ NPL ยอดหนี้ 10,000 บาท/ราย โดยแบ่งกลุ่มเป็น แบงก์รัฐ ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่ม Non Bank คลังจึงเตรียมหารือกับนายแบงก์ทุกกลุ่ม คาดว่าในช่วง 2 เดือนหนี้ จะนำร่องแก้ปัญหาหนี้กับแบงก์รัฐ เพื่อปรับเงื่อนไข เสนอครม.พิจารณาในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ หลังจาก ธ.ออมสิน แก้ปัญหาได้แล้ว 4 แสนราย ธ.ก.ส. แก้ปัญหา 2.5 แสนราย สำหรับกลุ่ม Non Bank เน้นกลุ่มลูกค้า บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล วงเงินประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท


เมื่อรัฐบาลแก้ปัญหากลุ่มลูกหนี้รายย่อย 3 ล้านราย จากลูกหนี้กลุ่มเป้าหมาย 5.4 ล้านราย สำหรับกลุ่มหนี้คงค้างกว่า 1 แสนบาท/ราย จำนวน 2 ล้านราย จึงมุ่งให้ธนาคารเจ้าของบัญชี ใช้วิธีปรับโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้มากกว่า 1 ล้านบาท/ราย นับว่ามูลหนี้สูงถึง 5 แสนล้านบาท จึงต้องใช้แนวทางเจรจา ปรับโครงสร้างหนี้ หากสรุปแผนทั้งหมด จะทยอยเสนอ ครม.พิจารณา เพื่อเร่งแก้ปัญหาหนี้รายย่อยระดับมูลหนี้ต่ำกว่าเฟสแรก ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”

ศาสตราจารย์เกียติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หลังจาก “ทรัมป์” ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับทุกประเทศ นับเป็นโจทย์ใหญ่กับหลายประเทศทั่วโลก ทำให้สงครามทางการค้า กลายเป็นความตึงเครียดของมหาอำนาจโลก มีทั้งสงครามการค้า สงครามการเงิน สงครามเทคโนโลยี สงครามข่าวสาร นำไปสู่การสะสมอาวุธตามมา ย้ำวิกฤติเศรษฐกิจของไทยจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนต้องเตรียมเงินสดในกระเป๋า ต้องเตรียมตัวอย่างซีเรียส สถานการณ์ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นำไปสู่ปัญหาชีวิต ทำให้การใช้จ่ายขัดสนได้ในแต่ละครอบครัว

ดร.สุรชาติ หวั่นวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนปี 40 ในเวอร์ชั่น “ทรัมป์” รัฐบาลต้องเตรียมรองรับหลายด้าน เตรียมภาคการผลิต การผลิตอะไร การผลิตภาคอุตสหากรรม นำเข้า ส่งออก รองรับการปิดตัวของหลายกิจการ การเตรียมการยกระดับภาคเกษตร การนำเข้าเนื้อวัว เนื้อสุกร อีกไม่นานเจอเรื่องนี้อย่างแน่นอน ในปีนี้ต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวน้อยลง รัฐบาลหวังรายได้จากการเข้ามาท่องเที่ยว เมื่อเศรษฐโลกไม่ดี ต่างชาติย่อมเข้ามาท่องเที่ยวลดลงแน่นอน การเตรียมรองรับทุ่มตลาดจากจีน ทะลักเข้าไทย การตั้งโรงงานสวมสิทธิ์ไทย รัฐบาลต้องจริงจังมากกว่านี้ การเตรียมการรองรับอารมณ์หงุดหงิดของสังคมไทย กลายเป็นวิกฤติทางการเมืองไทย นำไปสู่การเตรียมหาเสียงสำหรับพรรคการเมือง นำไปสู่การแจกเงินมากขึ้นในการเลือกตั้ง


ดร.กิริฎา เภาวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ในทุกวิกฤต มีโอกาสเสมอ ขณะนี้จีนตอบโต้สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 125 คุมเข้มนำเข้าแร่ธาตุหายาก 7 ชนิดสำคัญ เช่น ชิ้นส่วนผลิตเครื่องบินรบ การผลิตแบตเตอรรี่ ชื้นส่วนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ดังนั้น ต้องติดตามดูว่าหลัง 90 วันในวันที่ 7 ก.ค.68 หลายประเทศ จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีอย่างแน่นอน สำหรับไทย เมื่อกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออก ยอมกระทบรายได้ของไทยอย่างมาก ยอมรับทั้งสหรัฐและจีน สำคัญกับไทยอย่างมาก จึงต้องกระจายไปยังตลาดอื่นด้วย

ยอมรับสินค้าจากสหรัฐและจีน จะถูกกว่าการผลิตในประเทศ ผู้ประกอบการต้องระวังในจุดนี้ด้วย เพราะสินค้านำเข้าจะเข้ามาตีตลาดในประเทศ เช่น เครื่องจักรอุปกรณ์ เมื่อมีนักลงทุนจีนเข้ามาขยายการลงทุน จะมีการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรมาขยายการลงทุนในไทย นับว่าเหรียญมีสองด้าน อุตสาหกรรมไทยจึงต้องปรับตัวรองรับสิ่งเหล่านี้ ที่จะมีสินค้าจะสหรัฐและจีนเข้ามาไทยมากขึ้น ในสภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน รัฐบาลต้องเตรียมเงินไปช่วยเหลือต่างๆเหมือนปัญหาโควิด-19 ทั่วโลก การแจกเงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย จะใช้เงินไปช่วยเหลือรายย่อย เอสเอ็มอี นับว่าการคลังสำคัญมาก เพื่อไม่ต้องก่อหนี้เพิ่มในอนาคต เพราะการโดนลดเรตติ้งประเทศ กระทบรัฐบาล เอกชนกู้เงินจะได้รับผลกระทบอย่างมาก.-515.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]