“พิชัย” พร้อมเจรจาสหรัฐ ลุยขยาย “คุณสู้ เราช่วย”

ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ 1 พ.ค.- “พิชัย” พร้อมเจรจาสหรัฐ คาดจีดีพีไตรมาสแรกโต 2.5% รับหนักสุดในไตรมาส 3 มุ่งขยายแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” กลุ่มลูกหนี้ 1 หมื่นบาท/ราย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดงานงาน “MOF Journey 150 ปี เส้นทางการคลังไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง ว่า สงครามทางการค้ายอมรับว่าส่งผลกระทบกับประเทศต่างๆอย่างรุนแรงทั่วโลก คาดว่าผลสุดท้าย คาดว่าเจรจาร่วมกันได้ และยังมองว่าจีดีพีไตรมาสแรกปี 68 ขยายตัว 2.5 จากนั้น เจอปัญหาหนักสุดช่วงไตรมาส 3 จึดีพีอาจลดลง ถึงแม้ไทยมีภาระหนี้สาธารณะร้อยละ 64 ของจีดีพี แต่รัฐบาลกู้เงินในประเทศสัดส่วนร้อยละ 98 และกู้ต่างประเทศเพียงร้อยละ 1 จึงไม่มีปัญหาความเสี่ยงการกู้เงินต่างประเทศ


เพื่อรองรับปัญหาสงครามทางการค้า โดยใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ รองรับการฟื้นเศรษฐกิจไทยในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้า โดยเฉพาะการลงทุนป้องกันปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม การยกระดับภาคเกษตร เพื่อนำมามาผลิตเพื่อการส่งออก การปรับปรุงสนามบิน แหล่งท่องเที่ยว รองรับการท่องเที่ยวขายตัว รวมถึงการผลักดันภาคเอกชน ทั้งนักลงทุนและต่างชาติลงทุนให้มากขึ้น ดังนั้นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้ใช้เงินจากรัฐบาลเพียงด้านเดียว สำหรับการปรับงบปี 69 ต้องหารือในชั้นกรรมาธิการในสภาเพื่อปรับงบประมาณมารองรับ สัดส่วนการกู้เงินมาใช้อาจไม่สูงมากนัก

หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการ ”คุณสู้ เราช่วย“ สำหรับกลุ่มลูกหนี้ 1 แสนบาท/ราย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้มีปัญหาหนี้ NPL ยอดหนี้ 10,000 บาท/ราย โดยแบ่งกลุ่มเป็น แบงก์รัฐ ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่ม Non Bank คลังจึงเตรียมหารือกับนายแบงก์ทุกกลุ่ม คาดว่าในช่วง 2 เดือนหนี้ จะนำร่องแก้ปัญหาหนี้กับแบงก์รัฐ เพื่อปรับเงื่อนไข เสนอครม.พิจารณาในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ หลังจาก ธ.ออมสิน แก้ปัญหาได้แล้ว 4 แสนราย ธ.ก.ส. แก้ปัญหา 2.5 แสนราย สำหรับกลุ่ม Non Bank เน้นกลุ่มลูกค้า บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล วงเงินประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท


เมื่อรัฐบาลแก้ปัญหากลุ่มลูกหนี้รายย่อย 3 ล้านราย จากลูกหนี้กลุ่มเป้าหมาย 5.4 ล้านราย สำหรับกลุ่มหนี้คงค้างกว่า 1 แสนบาท/ราย จำนวน 2 ล้านราย จึงมุ่งให้ธนาคารเจ้าของบัญชี ใช้วิธีปรับโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้มากกว่า 1 ล้านบาท/ราย นับว่ามูลหนี้สูงถึง 5 แสนล้านบาท จึงต้องใช้แนวทางเจรจา ปรับโครงสร้างหนี้ หากสรุปแผนทั้งหมด จะทยอยเสนอ ครม.พิจารณา เพื่อเร่งแก้ปัญหาหนี้รายย่อยระดับมูลหนี้ต่ำกว่าเฟสแรก ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”

ศาสตราจารย์เกียติคุณ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หลังจาก “ทรัมป์” ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับทุกประเทศ นับเป็นโจทย์ใหญ่กับหลายประเทศทั่วโลก ทำให้สงครามทางการค้า กลายเป็นความตึงเครียดของมหาอำนาจโลก มีทั้งสงครามการค้า สงครามการเงิน สงครามเทคโนโลยี สงครามข่าวสาร นำไปสู่การสะสมอาวุธตามมา ย้ำวิกฤติเศรษฐกิจของไทยจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนต้องเตรียมเงินสดในกระเป๋า ต้องเตรียมตัวอย่างซีเรียส สถานการณ์ขณะนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นำไปสู่ปัญหาชีวิต ทำให้การใช้จ่ายขัดสนได้ในแต่ละครอบครัว

ดร.สุรชาติ หวั่นวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนปี 40 ในเวอร์ชั่น “ทรัมป์” รัฐบาลต้องเตรียมรองรับหลายด้าน เตรียมภาคการผลิต การผลิตอะไร การผลิตภาคอุตสหากรรม นำเข้า ส่งออก รองรับการปิดตัวของหลายกิจการ การเตรียมการยกระดับภาคเกษตร การนำเข้าเนื้อวัว เนื้อสุกร อีกไม่นานเจอเรื่องนี้อย่างแน่นอน ในปีนี้ต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวน้อยลง รัฐบาลหวังรายได้จากการเข้ามาท่องเที่ยว เมื่อเศรษฐโลกไม่ดี ต่างชาติย่อมเข้ามาท่องเที่ยวลดลงแน่นอน การเตรียมรองรับทุ่มตลาดจากจีน ทะลักเข้าไทย การตั้งโรงงานสวมสิทธิ์ไทย รัฐบาลต้องจริงจังมากกว่านี้ การเตรียมการรองรับอารมณ์หงุดหงิดของสังคมไทย กลายเป็นวิกฤติทางการเมืองไทย นำไปสู่การเตรียมหาเสียงสำหรับพรรคการเมือง นำไปสู่การแจกเงินมากขึ้นในการเลือกตั้ง


ดร.กิริฎา เภาวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ในทุกวิกฤต มีโอกาสเสมอ ขณะนี้จีนตอบโต้สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 125 คุมเข้มนำเข้าแร่ธาตุหายาก 7 ชนิดสำคัญ เช่น ชิ้นส่วนผลิตเครื่องบินรบ การผลิตแบตเตอรรี่ ชื้นส่วนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ดังนั้น ต้องติดตามดูว่าหลัง 90 วันในวันที่ 7 ก.ค.68 หลายประเทศ จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีอย่างแน่นอน สำหรับไทย เมื่อกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออก ยอมกระทบรายได้ของไทยอย่างมาก ยอมรับทั้งสหรัฐและจีน สำคัญกับไทยอย่างมาก จึงต้องกระจายไปยังตลาดอื่นด้วย

ยอมรับสินค้าจากสหรัฐและจีน จะถูกกว่าการผลิตในประเทศ ผู้ประกอบการต้องระวังในจุดนี้ด้วย เพราะสินค้านำเข้าจะเข้ามาตีตลาดในประเทศ เช่น เครื่องจักรอุปกรณ์ เมื่อมีนักลงทุนจีนเข้ามาขยายการลงทุน จะมีการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรมาขยายการลงทุนในไทย นับว่าเหรียญมีสองด้าน อุตสาหกรรมไทยจึงต้องปรับตัวรองรับสิ่งเหล่านี้ ที่จะมีสินค้าจะสหรัฐและจีนเข้ามาไทยมากขึ้น ในสภาวะเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน รัฐบาลต้องเตรียมเงินไปช่วยเหลือต่างๆเหมือนปัญหาโควิด-19 ทั่วโลก การแจกเงินไม่ใช่คำตอบสุดท้าย จะใช้เงินไปช่วยเหลือรายย่อย เอสเอ็มอี นับว่าการคลังสำคัญมาก เพื่อไม่ต้องก่อหนี้เพิ่มในอนาคต เพราะการโดนลดเรตติ้งประเทศ กระทบรัฐบาล เอกชนกู้เงินจะได้รับผลกระทบอย่างมาก.-515.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย