กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – PEA พร้อมตัดไฟเมียนมาทันทีหากกระทบความมั่นคง โยนฝ่ายความมั่นคงฟันธงกระทบฯ หรือไม่ จ่อถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสัปดาห์หน้า พร้อมเผยขายไฟชายแดนเมียนมา 5 จุด มีรายได้ 0.2% เท่านั้น
นายประดิษฐ์ เฟื่องฟู รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โฆษกประจำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยถึงประเด็นร้อน เกี่ยวกับการซื้อขายไฟฟ้าบริเวณชายแดนแม่สาย ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการยาเสพติด กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะ 2 จุดสำคัญ คือ พื้นที่แม่สอด ขายไฟไปยังเมียวดี และพื้นที่แม่สาย จ.เชียงราย ขายไฟไปยังท่าขี้เหล็ก ว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2539 เห็นชอบหลักการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณหมู่บ้านที่ใกล้กับเขตชายแดนของประเทศไทย โดยไม่ต้องขออนุมัติในระดับนโยบายอีก ซึ่งปัจจุบัน PEA จ่ายกระแสไฟฟ้าให้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 5 จุด ดังนี้
- บ้านเจดีย์สามองค์ – เมืองพญาตองซู รัฐมอญ บริษัท Mya Pan Investment and Manufacturing Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- บ้านเหมืองแดง – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- สะพานมิตรภาพไทย – พม่า – เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- สะพานมิตรภาพไทย – พม่า แห่งที่ 2 อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง บริษัท Nyi Naung Oo Company Limited และ Enova Grid Enterprise (Myanmar) Company Limited ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- บ้านห้วยม่วง – อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มีบริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited (SMTY) ผู้ได้รับสัมปทานจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โดยคู่สัญญาทุกจุดซื้อขายไฟฟ้าเป็นผู้ได้รับสิทธิสัมปทานการซื้อขายไฟฟ้าจากรัฐบาลของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งผ่านการรับรองความถูกต้องและความน่าเชื่อถือด้านเอกสารจากกระทรวงการต่างประเทศ และ PEA ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของไทยในพื้นที่ก่อนจำหน่ายไฟฟ้าไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ส่วนกรณีการงดจ่ายไฟฟ้าหรือบอกเลิกสัญญา มี 2 กรณี ได้แก่ 1. คู่สัญญาดำเนินการผิดสัญญา เช่น ไม่ชำระค่าไฟฟ้าตามกำหนด หรือไม่วางหลักประกันสัญญา และ 2.กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
“ในการจ่ายไฟฟ้าให้กับพื้นที่ชายแดนเมียนมา ทั้ง 5 จุด PEA ยืนยันดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ครบถ้วน แต่ไม่สามารถดำเนินการตัดไฟโดยพละการได้ ดังนั้นจะต้องมีเอกสารยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานความั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ ตอบกลับมาว่ามีการจ่ายไฟให้กับคอลเซนเตอร์ หรือ ผู้ใช้ไฟฟ้ามีการกระทำที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย หรือ กระทบความมั่นคงของไทย จึงจะสามารถตัดไฟได้ ซึ่ง PEA ไม่สามารถตีความเองได้ว่าการใช้ไฟดังกล่าวกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบการค้าชายแดน ชาวบ้าน และอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากปิดโดยพละการก็อาจจะมีการลุกฮือปิดด่านก็เป็นได้ โดยเมื่อปลายปี 2567 ได้ทำหนังสือสอบถามหน่วยงานความมั่นคงแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ยืนยัน PEA พร้อมตัดกระแสไฟฟ้าได้ทันที หากพบว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย แต่ทั้งนี้ PEA ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบการใช้ไฟในเมียมาเองได้ ” นายประดิษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม PEA ได้ส่งหนังสือขอหารือกับทุกหน่วยงานเที่ยวเกี่ยวข้องภายในสัปดาห์หน้า เพื่อหาแนวทางดำเนินการ สำหรับการจ่ายไฟฟ้าให้กับชายแดนเมียนมาทั้ง 5 จุด PEA มีรายได้เพียงปีละ 800 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 0.2% เท่านั้นเมื่อเทียบกับการจ่ายไฟฟ้าทั่วประเทศไทย ที่มีรายได้ปีละ 6 แสนล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา PEA ยกเลิกจุดซื้อขายไฟฟ้า 3 จุดดังนี้
1.ที่บ้านวังผา อ.แม่ระมาด – บ.ก๊กโก๋ อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง 2.บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง – อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ในปี 2566 เนื่องจากกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ขอให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้ง PEA ดำเนินการระงับการจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ 2 จุดดังกล่าว 3.พื้นที่ อ.เชียงแสน – เมืองพงษ์ จ.ท่าขี้เหล็ก ปี 2567 เนื่องจากคู่สัญญาผิดนัดชำระค่าไฟฟ้า
นอกจากชายแดนเมียมาแล้ว PAE ยังจ่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะเดียวกันกับอีก 2 ประเทศ คือ กัมพูชา 9 จุด และ สปป.ลาว อีก 4 จุด ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน. -517-สำนักข่าวไทย