ซอยสายไหม 26 ธ.ค. – ผู้เสียหายรวมตัวร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเพื่อนบ้านเป็นผู้หญิงอายุ 64 ปี อดีตแอร์โฮสเตทสายการบินชื่อดัง มีพฤติกรรมป่วนสุดเอือมระอา ทั้งเขียนกำแพงบ้าน นำขยะมาทิ้งไว้หน้าบ้าน โยนของ เช่น จาน ชาม ขยะ เข้ามาในบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เข้าไปทำลายทรัพย์สินของหอพักจนถูกตำรวจควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ สุดท้ายได้ปล่อยตัวกลับมา นอกจากนี้ยังชอบตะโกนด่าทอบุคคลที่เดินสัญจรไปมาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีนายนิรันดร์ เกแง้ว ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด รับเรื่อง
นายณัฐพล อายุ 48 ปี ประกอบอาชีพนักบิน เพื่อนบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า ได้ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยที่บ้านพักในชุมชนแห่งนี้ได้ประมาณ 3 ปี ได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช โดยหญิงบุคคลดังกล่าวนี้มักจะเสียงดัง ก่อความเดือดร้อนรำคาญ เช่น ด่าทอ ทุบ เคาะวัสดุ ทุบกำแพงบ้านของตน รวมไปถึงขว้างจาน เอาขยะหรือสิ่งปฏิกูลนำมาสาดเทใส่หน้าบ้าน ทำให้บริเวณหน้าบ้านสกปรก ส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ต้องสร้างระแนงกั้นขึ้นมาเพื่อป้องกัน เมื่อสร้างระแนงกั้นหญิงคนดังกล่าวได้เขียนข้อความบนกำแพงบ้านของตน กล่าวหาว่า บ้านก่อสร้างผิดแบบให้รื้อทิ้งและสร้างใหม่ รวมถึงมีการเขียนข้อความถึงสงครามในประเทศสหรัฐอเมริกา และชอบพกพาอาวุธมีด หรือของมีคมติดตัวไปในที่สาธารณะอยู่ตลอดเวลา
ผู้เสียหายเล่าอีกว่า ครั้งหนึ่งเพื่อนบ้านแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่กล่าวหาว่า บ้านของตนมีการฆาตกรรมซ่อนศพไว้ภายในบ้าน ตำรวจจึงมาตรวจสอบ 6 นาย อยู่ในเครื่องแบบ 2 นาย นอกเครื่องแบบ 4 นาย เมื่อมาถึงตำรวจได้มากดกริ่ง ตัวเองซึ่งนอนหลับอยู่จึงตื่นมาเปิดประตูไปพูดคุยกับตำรวจเพราะว่าได้ติดตู้แดงไว้ที่หน้าบ้านและตำรวจก็ทราบว่าเพื่อนบ้านเป็นอย่างไรจึงรู้ว่ามีคนแจ้งความเท็จ ทั้งนี้ ยังมีความกังวลเพราะบ้านของตนมีผู้พักอาศัยเป็นเด็กเล็กและสตรี เกรงว่าขณะเปิดบ้านหรือขณะเด็ก ๆ เล่นอยู่ในบ้าน หญิงคนดังกล่าวอาจเข้ามาทำร้ายเด็ก อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายและผู้พักอาศัยได้ อีกทั้งไม่ใช่แค่บ้านของตนที่ถูกกระทำ ยังมีครั้งหนึ่งป้ามหาภัย ได้เข้าไปทำลายทรัพย์สินของหอพักจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ และสุดท้ายได้ปล่อยตัวกลับมา
นอกจากนี้ ยังมีบางครั้งเพื่อนบ้านมีการด่าทอบุคคลที่ใช้รถและเดินสัญจรไปมาในละแวกนี้ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ที่ผ่านมาเพื่อนบ้าน เคยเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจดินแดง เกี่ยวกับความเสียหายที่ได้รับ แต่คดีก็ยังเงียบ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายอยู่ด้วยกันได้ด้วยความปรองดองถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตัวเองรวมไปถึงเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจริงๆ
ด้านนางศรันญ์ภัทร อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านอีกราย เผยว่า อยู่มากว่า 20 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว มีคุณแม่ของหญิงคนดังกล่าวนี้ให้ข้อมูลว่า หญิงคนนี้ไม่สบายต้องทานยาตลอด ระหว่างทานยาไม่มีอาการใดๆ จนกระทั่งคุณแม่ของเธอเสียชีวิต เป็นจังหวะที่นายณัฐพล ย้ายมาอยู่พอดี อาการหญิงคนดังกล่าวก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ เกิดเสียงด่าบ่นออกมาจากบ้านทั้งวัน นอกจากนี้หญิงดังกล่าว ยังมีพี่สาวที่พยายามพาไปรักษา แต่ก็ไม่เป็นผลเธอไม่ยอมออกจากบ้าน จึงไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะนี้กลุ่มเพื่อนบ้านกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะยื่นเรื่องไปที่สำนักงานเขตพญาไท ให้เข้ามาตรวจสอบที่บ้านของหญิงดังกล่าวต่อไป เพราะสิ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องที่บ้านของป้าคนดังกล่าวถูกตัดไฟฟ้า แล้วจุดเทียนในตอนกลางคืน กลัวไฟไหม้ลุกลาม มายังบ้านเพื่อนบ้าน
ด้านนายเดชา อายุ 75 ปี ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า มีวันหนึ่งเพื่อนบ้านโยนจานกระเบื้อง หรือเศษกระเบื้องออกมาที่บริเวณหน้าบ้านมีรถจักรยานยนต์ขับมา เศษกระเบื้องเข้าล้อรถทำให้รถล้ม ด้านคนซ้อนที่เป็นผู้หญิงแขนถลอกไปกับถนนจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมามีสามีของผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บได้มาดักรอที่จะทำร้ายเพราะโกรธและไม่พอใจที่ทำให้แฟนสาวได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านในบริเวณนั้นพยายามที่จะห้ามแล้วบอกว่าเขาสติไม่ดี อายุมากแล้วอย่าไปทำร้ายเขาเลย ก่อนที่สามีของหญิงคนดังกล่าวจะกลับออกไป นอกจากนี้นายเดชา ยังเคยคุยกับพี่สาวของป้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านพี่สาวของป้าบอกว่าจะมารับน้องสาวไปอยู่ด้วย แต่จนถึงทุกวันนี้ผ่านมา 10 กว่าวันก็ยังไรวี่แวว
นายนิรันดร์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสาน ผกก.สน.ดินแดง ให้ช่วยลงไปดูพื้นที่ เพราะผู้ก่อเหตุพกพาอาวุธติดตัวอยู่ตลอดเวลาไม่รู้ว่าจะก่อเหตุกับใครเมื่อไหร่ หลังจากนี้จะทำหนังสือถึงสำนักงานเขตในเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ความสะอาด ส่วนการรักษาพยาบาลจะประสานไปยังนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้ามาช่วยดูหาจิตแพทย์และหาแนวทางการรักษาต่อไป. -419- สำนักข่าวไทย