ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชวนลงทุนซิม-ตู้เติมเงิน

บก.ปคบ. 6 ธ.ค.-ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชักชวนลงทุนซิมและตู้เติมเงิน อ้างสิทธิ กสทช. พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท


นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ พร้อมด้วยนายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโค้ พาตัวแทนผู้เสียหาย 8 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจบก.ปคบ. หลังถูกบริษัทแห่งหนึ่งชักชวนหลอกลงทุนซิมและตู้เติมเงิน อ้างสิทธิ กสทช. พร้อมเปิดข้อมูลมีคนดังเอี่ยวทำการตลาด พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

นายแทนคุณ กล่าวว่า ปรากฏภาพผู้บริหารของบริษัท K4 ถ่ายภาพร่วมกับฟิล์ม, นายสามารถ ซึ่งผู้บริหารหญิงคนนี้ถือเป็นมาดามท่านหนึ่งของบริษัทดังกล่าว วันนี้มีผู้เสียหายมาด้วยเพื่อนำพยานหลักฐานเชื่อมโยงพฤติกรรมของฟิล์ม ซึ่งจะเกี่ยวข้องอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ติดตามดู แต่เท่าที่ทราบมีบทบาทสำคัญพอสมควร ไม่ใช่แค่เซ็นเตอร์เพียงอย่างเดียว มีคลิปในการเชิญชวนต่าง ๆ ด้วยหรือไม่ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เสียหายสมัครใจร่วมลงทุนด้วย จึงนำหลักฐานพร้อมผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามการกระทำของดารานักแสดง


นายแทนคุณ กล่าวว่า ทั้งนี้ พบว่าบริษัทดังกล่าวมีปัญหาตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเบิกถอนได้ ลักษณะคือการจำหน่ายซิมและเครื่องเติมเงินที่รับการรับรองจาก กสทช. ด้วยใบอนุญาตประเภทที่ 1 โดยใช้ใบอนุญาตนี้ในการขยายผลเชิญชวนกล่าวอ้างในที่ต่าง ๆ เสมือนเป็นใบอนุญาตในการลงทุนและขาย ซึ่งการขายซิมตู้เติมเงินไม่ผิดแต่ประเด็นการทำในลักษณะเชิงลูกโซ่หรือไม่ คือมีการเชิญชวนให้มีการลงทุนในอัตราส่วนเริ่มต้นที่ไม่มากในจำนวนเงิน 5,000 บาท และได้คืนมา 3 เท่า คือ 15,000 บาท โดยมีกำหนดคืนในระยะเวลา 500 วัน จะได้เงินคืนตามสัดส่วนที่ได้มีการลงทุนไป กสทช.ได้อนุญาตให้บริษัทดังกล่าวทำตรงนี้ แม้จะเคยมีหนังสือเตือนไปที่บริษัทว่าห้ามนำเรื่องของการอนุญาตในครั้งนี้ไปทำเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่ก็ยังมีการชักชวนเชิญชวนจนกระทั่ง ไม่สามารถคืนเงินมาได้ 2 เดือนแล้ว โดยมีการอ้างว่าปรับปรุงระบบ

นายแทนคุณ กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้มีการข่มขู่ผู้เสียหายผ่าน Open Chat ว่าจะแจ้งความกลับ และจะไปร้องก็ สคบ. ว่าผู้เสียหายที่มาดำเนินการต่าง ๆ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ตั้งข้อสังเกต 3 ส่วนคือ 1. ความเกี่ยวโยงของ กสทช. ที่มีต่อบริษัทนี้ว่ามีส่วนร่วมและรู้เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร 2. บริษัทดังกล่าวที่มีปัญหาในลักษณะนี้จะเข้าข่ายผิดกฎหมายในข้อหาใดบ้าง ซึ่งจะต้องให้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายก่อนว่าจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ 3.ศิลปินมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

นายเกรียงไกรมาศ ได้ตั้งคำถามไปถึง กสทช. ว่าใน กสทช.มีเทวดาด้วยหรือไม่ เพราะมีการออกใบอนุญาตให้กับบริษัทนี้ ก่อนบริษัทจะนำไประดมทุนกับประชาชนจนได้รับความเสียหาย และทางรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาเปิดเผยหลังการตรวจสอบเส้นเงินของนายสามารถพบว่ามีเส้นเงินโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัท และบริษัทดังกล่าวนำรถประจำตำแหน่งไปให้นายสามารถใช้ นอกจากนี้ยังปรากฏภาพศิลปิน ดารา คนดัง นักการเมืองอยู่ด้วยจำนวนมากจะมีความเกี่ยวข้องอย่างไร ทั้งนี้มีผู้ใหญ่ใน กสทช. 3 คนเซ็นรับรองว่า บริษัทดังกล่าวเป็นธุรกิจที่ถูกต้อง และใช้แผนของการขายตรงมาระยะยาวมากๆ


นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า การแอบอ้างหรือการใช้ กสทช.ในการกระทำความผิดแบบนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าทาง กสทช. ควรจะร่วมเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในฐานะหน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลเรื่องนี้และเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเยียวยาผู้เสียหาย และจะต้องตรวจสอบกรณีที่นายเกรียงไกรมาศได้ตั้งคำถามว่าจะมีเทวดาอีกหรือไม่ เพราะหน่วยงานที่กำกับดูแลและออกใบอนุญาตต่างๆ จะถูกตั้งข้อสังเกตเหมือนกัน เมื่อดูแผนธุรกิจแล้วพอจะเข้าใจว่าเป็นการชักชวนร่วมลงทุน

ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีแม่ทีมของบริษัทได้มาชักชวนโดยสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการให้เข้าไปร่วมประชุม ซึ่งก่อนการประชุมจะมีดารานักแสดงมาโชว์ก่อน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือจากนั้นจะให้โค้ชเข้ามาบรรยาย โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2566 บริษัทดังกล่าวได้มีการเปิดตัวที่ กสทช. โดยมีผู้ใหญ่ใน กสทช.มาร่วมแสดงความยินดีด้วย ทั้งนี้ก่อนเข้าร่วมลงทุนตัวเองได้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ พบว่ามีซิมใช้งานได้จริง มีใบอนุญาตรับรอง แต่เมื่อเข้ามาได้เพียงเดือนกว่าก็ไม่สามารถทำธุรกรรมเบิกถอนได้

ขณะที่นายบรรพต ผู้เสียหายอีกราย ซึ่งเป็นนายกสมาคมแพทย์แผนไทยส่งเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า ตัวเองถูกชักชวนให้ร่วมลงทุน จนสูญเงินไป 40,000 บาท ทั้งนี้เตือนไปถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในต่างจังหวัด เพราะหากเห็นเพียงใบรับรองจาก กสทช.อาจหลงเชื่อได้ทำให้ต้องเสียทรัพย์สินมากมายเหมือนตัวเอง. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม