ไทย-เยอรมนี MOU ความร่วมมือด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศ

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – 8 หน่วยงานลงนาม MOU เพื่อดำเนินการร่วมกันด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศ ภายใต้โครงการ TGC EMC โดยเป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับเยอรมนี เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนใน พ.ศ.2593 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ใน พ.ศ. 2608


หน่วยงานที่ร่วมดำเนินโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGC EMC) มี 8 หน่วยงานซึ่งร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TGC EMC) เพื่อร่วมกันสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือนี้มุ่งที่จะผนึกกำลังทุกหน่วยงานเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนใน พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ใน พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065)

โครงการ TGC EMC ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากแผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) โดยมีองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมขับเคลื่อนโครงการกับหน่วยงานดำเนินโครงการภาครัฐของประเทศไทย 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สํานักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และ กรุงเทพมหานคร (กทม.)


ทั้งนี้ การมีหน่วยงานภาคีจากหลายภาคส่วนทำให้ TGC EMC โดดเด่นด้าน “Sector Coupling” โดยแนวทางนี้ไม่ได้เน้นที่ภาคส่วนใดโดยเฉพาะ แต่มองความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศแบบองค์รวมซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือหลายชั้นในลักษณะข้ามภาคส่วนในการแก้ไข

แนวคิด “Sector Coupling” หรือการบูรณาการภาคส่วนสำคัญเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน คือหัวใจสำคัญของการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและการประชุมเชิงปฏิบัติการที่จัดขึ้น โดยหน่วยงานภาคีไม่เพียงแต่ให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันแบบข้ามภาคส่วนอีกด้วย เพื่อสร้างกรอบความร่วมมือที่ออกแบบสำหรับขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของไทยให้ก้าวไปข้างหน้า

หลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลายภาคส่วนได้ศึกษาแนวคิดและความจำเป็นของความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพิ่มเติมในการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การยกระดับการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศผ่านการดำเนินงานร่วมกันของภาคพลังงานทดแทน คมนาคมขนส่ง และอุตสาหกรรม (Sector Coupling)” การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ประกอบด้วยการบรรยายที่สร้างแรงบันดาลใจจากผู้เชี่ยวชาญในภาคขนส่ง พลังงานหมุนเวียน ชีวมวล และอุตสาหกรรม รวมทั้งการอภิปรายกลุ่มเพื่อหาแนวทางที่เป็นไปได้ของ Sector Coupling สำหรับประเทศไทย


ดร.แอ็นสท์ ไรเชิล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย กล่าวว่า เยอรมนีมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่ออนาคตที่เป็นกลางทางคาร์บอนทั้งในประเทศและผ่านความร่วมมือกับภาคีทั่วโลก TGC EMC ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและเยอรมัน คือตัวอย่างของแนวทางสหวิทยาการที่นำความชำนาญของทั้งสองประเทศมารวมกัน ความร่วมมือข้ามภาคส่วนที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทำหน้าที่เป็นต้นแบบของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุมในทุกด้านที่สำคัญ ตั้งแต่พลังงานและการขนส่ง ไปจนถึงอุตสาหกรรมและชีวมวล

โครงการ TGC EMC จัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านแนวทางการทำงานร่วมกันแบบข้ามภาคส่วน ครอบคลุม และมุ่งเน้นการแก้ปัญหา การบูรณาการที่ครอบคลุมนี้คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคส่วนที่มีผลกระทบสูงให้ประสบความสำเร็จ เราจะสร้างเสริมศักยภาพสูงสุดเพื่ออนาคตที่สะอาดและยั่งยืนยิ่งขึ้นได้ด้วยการเชื่อมโยงภาคส่วนเหล่านี้เข้าด้วยกันเท่านั้น

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า พิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 8 หน่วยงานดำเนินโครงการในวันนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานดำเนินโครงการทั้ง 8 หน่วยงานในการร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ TGC EMC ที่สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทย งานในวันนี้มีความหมายยิ่งกับ TGC EMC เนื่องจากโครงการนี้ย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการที่ครอบคลุมหลายภาคส่วน หรือ “Sector Coupling” เพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนใน ค.ศ. 2050

ทั้งนี้ TGC-EMC กำลังทำงานอย่างแข็งขันในหลายภาคส่วนเพื่อช่วยประเทศไทยพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ ปรับปรุงนโยบาย รวมทั้งนำร่องและขยายเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทุนเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ThaiCI) ซึ่งได้รับงบประมาณเฉพาะ 4 ล้านยูโร (ราว 140 ล้านบาท) จะถูกจัดตั้งเป็นทุนเฉพาะด้านสภาพภูมิอากาศภายใต้กองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับท้องถิ่นของประเทศไทย

การที่แต่ละภาคส่วนทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการลดการปล่อยคาร์บอนนั้นไม่ยังเพียงพอ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องก้าวข้ามพรมแดนของภาคส่วนเรา และเริ่มเชื่อมโยงประสานกัน การทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงแบบบูรณาการเท่านั้นที่จะทำให้เราใช้ศักยภาพให้เต็มที่และบรรลุเป้าหมายได้

คุณอินซ่า อิลเก้น ผู้อำนวยการโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (TCG EMC) กล่าวว่า โครงการ TGC EMC กับหน่วยงานภาคี มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศไทยตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าในการทำงานสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยที่โครงการนี้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายใน ค.ศ. 2050 ของรัฐบาลไทย

พร้อมกันนี้ยังชี้แจงความหมายของธีม “Sector Coupling” ซึ่งเป็นทั้งศูนย์กลางของงานในครั้งนี้และเป็นความพยายามในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลกเพื่อสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง เราให้ความสำคัญกับไฟฟ้าและมุ่งเน้นการเพิ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพียงแค่นั้นไม่ได้ เราต้องนำมาตรการด้านประสิทธิภาพพลังงานมาใช้และขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนในทุกภาคส่วนด้วย

คำบรรยายนี้ ต่อยอดมาจากปาฐกถาผ่านวิดีโอของนายฟิลิป เบห์เรนส์ จากกระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) ซึ่งเน้นย้ำถึงพันธสัญญาและการสนับสนุนที่ไม่หยุดยั้งของกระทรวงฯ ต่อความร่วมมือระหว่างไทยกับเยอรมนีด้านพลังงาน คมนาคม และสภาพภูมิอากาศระหว่างไทย โดยนายเบห์เรนส์ยังได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับ Sector Coupling ในฐานะองค์ประกอบสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืนอีกด้วย. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย