ซีพีแรม ผนึกกำลังพันธมิตร “ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน” เพิ่มพื้นที่สีเขียว

19 ก.ค. – ซีพีแรม ผนึกกำลังพันธมิตร “ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน” หวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ESG ของประเทศไทย


นายกอบชัย คงทวี ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ซีพีแรม จำกัด จัดทำโครงการ CPRAM GREEN LIFE “ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน” และกิจกรรม “แสนกล้าสู่แสนต้น” พร้อมผนึกกำลังกับ สำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จังหวัดน่าน เครือเจริญโภคภัณฑ์ , ส่วนราชการ และชาวบ้านในพื้นที่ โดยได้รับเกียรติจากนายสมาน กองแก้ว ปลัดจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดังกล่าว พร้อมด้วยและคุณบัญชา โชติกำจร ผู้อำนวยการสำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จังหวัดน่าน เครือเจริญโภคภัณฑ์, หัวหน้าส่วนราชการ, ผู้ใหญ่บ้าน, นักเรียน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสมดุลระบบนิเวศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนทางอาหาร ณ บ้านขุนก๋อง ตำบลทาแม่ลอบ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน 

นายกอบชัย คงทวี ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ซีพีแรม ได้มีการปลูกต้นไม้มาโดยตลอดทั้งภายใน และบริเวณโดยรอบบริษัทในชุมชน รวมถึงพื้นที่ป่า ซึ่งกิจกรรม CPRAM GREEN LIFE “ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน” ในครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังพันธมิตรในทุกภาคส่วน เพื่อมาเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยทำให้ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น สอดคล้องกับปรัชญา 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร พื้นที่ปลูกในครั้งนี้ ครอบคลุม 3 พื้นที่ ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง, สถาบันวิจัยพื้นที่สูงโครงการหลวง (องค์การมหาชน) และศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านขุนก๋อง สังกัดศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอแม่ทา ต้นไม้เพียงต้นเดียวนั้นมีคุณค่ามหาศาล เพราะชีวิตของคนเราจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยต้นไม้ เพราะฉะนั้นหากเราทุกคนหันมาช่วยเพิ่มปริมาณต้นไม้ในเมืองไทยให้มากขึ้น โอกาสที่จะคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ซีพีแรมเชื่อว่า เพราะความร่วมมือ คือรากฐานที่สำคัญของความยั่งยืน


ซีพีแรม ดำเนินโครงการ “CPRAM Green Life” #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 42,000 ต้น บนพื้นที่ 340,000 ตารางเมตร และแจกกล้าไม้ให้กับชาวบ้านและพนักงานไปแล้วกว่า 79,200 ต้น หวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากป่าชายเลน และป่าปก บนผืนแผ่นดินไทยอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ประชาชนและคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการรับกล้าไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ปลูก และปลูกลงดินตลอดจนการดูแลให้ต้นไม้เติบโต กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากชุมชนให้เข้ามาดูแลรักษาและฟื้นฟูทรัพยากร ไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนเท่านั้น แต่ยังให้ป่าไม้ได้คงอยู่ถึงรุ่นลูกหลานสืบไป” . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย