กรุงเทพฯ -บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับกลยุทธ์ใหม่ “Bangchak 100x” 1 ม.ค.69 ตั้งเป้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด มี EBITDA เพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571 ตั้งงบลงทุน 3 ปี รวม 35,000 ล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจหลัก ขยายสู่โครงสร้างพื้นฐานอนาคต และรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน ท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์ ราคาพลังงานที่ไม่แน่นอน และแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ แม้สังคมโลกจะเร่งผลักดันการลดคาร์บอน แต่รายงานจากหลายสำนักยังชี้ว่าไฮโดรคาร์บอนจะคงเป็นพลังงานหลักของเศรษฐกิจโลกจนถึงปี 2593
ดังนั้น บางจากฯ เร่งเครื่องกลยุทธ์ Bangchak 100x เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน (Return-Focused Investment) ควบคู่กับการขยายการดำเนินงานในระดับสากล ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าในธุรกิจหลักและการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Top Tier TSR) ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงกว่าคู่แข่ง และพร้อมผลักดันให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยการลงทุน เพื่อรองรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงโมเลกุลสะอาด (Clean Molecules – Future Proof) พลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ และตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว
โดยมีแกนยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน คือ
1.การตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทาย มุ่งผลักดันให้ EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571)
2.การขับเคลื่อนสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน (Return-Focused Investment)
3.การยกระดับศักยภาพธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร (Margin Enhancement) ผ่านการปรับโครงสร้างธุรกิจ
4.การสร้างคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) 3 ปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้น เสริมความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโต
โดยจะจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 5 กลุ่มหลัก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด และพลังงานชีวภาพ (Refinery & Marketing and Biofuels) บริหารโรงกลั่นน้ำมันบางจากพระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจากศรีราชาแบบ One Team เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขยายกำลังการกลั่นรวมจาก 265,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2568 เป็น 285,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2571 และมากกว่า 290,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2573 ควบคู่กับการลงทุนใน SAF และ HVO (Hydrotreated Vegetable Oil) รวม 7,000 บาร์เรลต่อวันภายในปี 2570 (SAF 5,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ภายในเดือนมิถุนายน 2569) ในด้านพลังงานชีวภาพ เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเอทานอลเป็น 292 ล้านลิตรต่อปีตั้งแต่ปี 2569 และเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องโรงงานไบโอดีเซลสู่กำลังการผลิตเต็มที่ 330 ล้านลิตรต่อปี เสริมสร้างซินเนอร์ยีระหว่างหน่วยธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ในด้านการตลาด มุ่งขยายสถานีบริการเป็นราว 2,300 แห่งในปี 2568 และมากกว่า 2,300 แห่งภายในปี 2571 พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันจาก 29% ในปี 2568 เป็นมากกว่า 33% ในปี 2573 ควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ทั้งอินทนิลและค้าปลีก โดยตั้งเป้าให้ EBITDA ของธุรกิจนี้เติบโต 3 เท่าภายในปี 2571
2.กลุ่มธุรกิจการค้าน้ำมัน (Trading) กลุ่มธุรกิจหลักใหม่ (new flagship) ถือเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ของบางจากฯ ที่ยกระดับจากบทบาทเดิมในการสนับสนุนโรงกลั่น สู่การเป็นธุรกิจหลักที่สร้างผลตอบแทน โดยมุ่งพัฒนาการซื้อขายพลังงานแบบมีสินทรัพย์รองรับ (asset-backed trading) ใช้ความได้เปรียบจากการมีโรงกลั่นน้ำมัน คลังน้ำมัน และระบบขนส่งที่ครอบคลุมเป็นฐานในการขยายตลาด ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงด้านราคาและปริมาณ ขยายทั้งปริมาณและมูลค่าการซื้อขายในประเทศและภูมิภาค
3.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) ตั้งเป้าเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลางชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ประสบการณ์ระดับสากลจากนอร์เวย์ บริหารแหล่งผลิตให้มีประสิทธิภาพ เสริมความคล่องตัวและกระแสเงินสดมั่นคง พร้อมพิจารณาการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและการเติบโตระยะยาว
4.กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน (Power and Infrastructure) ต่อยอดพลังงานหมุนเวียนสู่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยุทธศาสตร์ (Critical Infrastructure) ได้แก่ ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ โดยตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 7,000 ล้านบาท ภายในปี 2571 ผ่านการบริหารพอร์ตเพื่อเพิ่มผลตอบแทนและหมุนเวียนทุน (Return & Capital Recycling)
5.กลุ่มธุรกิจใหม่และโฮลดิ้งส์ (New Businesses and Holdings) มุ่งสร้างการเติบโตผ่านการขยายศักยภาพธุรกิจหลัก ทั้งด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจการกลั่นและการตลาด ควบคู่กับการลงทุนใหม่มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคต โดยเน้นการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ทันสมัย และการพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ อาทิ Bio-LNG, Nuclear Fusion, กรีนแอมโมเนีย และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ ตลอดจนเทคโนโลยีชีวภาพและระบบแบตเตอรี่ เพื่อเสริมพลังให้ธุรกิจหลัก ขยายโอกาสใหม่ และสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับกลุ่มบริษัทบางจาก
บริษัทฯ มีการจัดสรรงบลงทุนในช่วงปี 2569–2571 วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก ขยายสู่โครงสร้างพื้นฐานอนาคต และรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน.-517.-สำนักข่าวไทย