สงขลา 12 มิ.ย.-ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช จับห้องเย็นในหาดใหญ่ ซุกซ่อนชิ้นส่วนไก่ผิดกฎหมาย น้ำหนักกว่า 7 ตัน มูลค่ากว่าสามแสนบาท
พันเอกรวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชกล่าวว่า มอบหมายให้พันตำรวจโทอัครเดช ปิ่นทองพันธ์ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคลองแงะ จังหวัดสงขลานำกำลังเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ตรวจค้นห้องเย็นต้องสงสัย เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ในตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 2 แห่ง
จากการตรวจสอบห้องเย็นแห่งที่หนึ่ง พบซากอกไก่ น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม มูลค่า 63,600 บาท ไก่ทั้งตัวน้ำหนัก 500 กิโลกรัม มูลค่า 25,000 บาท น้ำหนักรวม 1,700 กิโลกรัม มูลค่ารวม 88,600 บาท บรรจุภัณฑ์ระบุแหล่งกำเนิดในประเทศไทย แต่ยังนำเอกสารการเคลื่อนย้ายมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ได้อายัดสินค้าไว้ พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าของสินค้านำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงแหล่งที่มาต่อเจ้าหน้าที่
ส่วนห้องเย็นแห่งที่สอง ตรวจพบขาไก่ 1,000 กิโลกรัม มูลค่า 70,000 บาทและตับไก่ 5,004 กิโลกรัม มูลค่า 250,200 บาท มีบรรจุภัณฑ์ระบุแหล่งกำเนิดจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสิ้น 6,004 กิโลกรัม มูลค่ารวม 320,200 บาท
เจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ประกอบการว่า กระทำความผิดดังนี้
1)นำเข้าสินค้าปศุสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษตามมาตรา 68 จำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2)ไม่มีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ภายในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษตามมาตรา 71 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3)ไม่มีใบอนุญาตทำการค้าและหากำไรในลักษณะคนกลางซึ่งซากสัตว์ อันเป็นความผิดตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง จำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าวส่งมอบและดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับสินค้าที่ยึดเป็นของกลาง ไม่มีการระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคระบาดสัตว์ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ รวมถึงความปลอดภัยด้านอาหารของผู้บริโภคและเศรษฐกิจด้านปศุสัตว์ภายในประเภทด้วย.-512.-สำนักข่าวไทย