ตลาดผลิตหนังฟื้นจากโควิด 3 ปี รายได้พุ่งกว่า 3.3 หมื่นล้าน

นนทบุรี 19 พ.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยตลาดผลิตภาพยนตร์ฟื้นจากโควิดจริง ยอดรวม 3 ปี รายได้พุ่งกว่า 3.3 หมื่นล้าน จับตาซีรีส์วายบูมหนัก สร้างธุรกิจเกิดใหม่อีกเพียบ พร้อมช่วยชูอุตสาหกรรมหนังไทยเป็น Soft Power ดันจาก Local สู่ Global

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า กรมฯได้วิเคราะห์ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ขึ้นแท่นดาวเด่นเด้งแบบก้าวกระโดด 4 เดือนแรกของปี 2567 ทุนจดทะเบียนทะยานขึ้นกว่า 146.44% เทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ประกอบกับอัตราการจดทะเบียนตั้งใหม่ปี 2566 โตแซงปีก่อนหน้า ทั้งจำนวนและทุนจดทะเบียนเพิ่มถึง 20% และเห็นรายได้ปี 2565 ชัดเจนกว่า 12,895.15 ล้านบาท พิจารณาย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) ฟันรายได้รวม 33,009.84 ล้านบาท จับตาซีรีส์วายช่วยพลิกอุตสาหกรรมหนังไทยให้เป็นโอกาสของธุรกิจบันเทิง นำเสนอคอนเทนต์ตรงใจผู้บริโภค ตอกย้ำความเสรีและเคารพความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย ซึ่งซีรีส์วายเป็นเนื้อหาที่มีศักยภาพสูงสามารถทำตลาดในต่างประเทศได้ รวมถึงยังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับธุรกิจประเภทอื่นๆ ทั้งด้านธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจสถานที่จัดการแสดง ธุรกิจโฆษณา ทั้งนี้ ซีรีส์วายยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนอย่างดีเพื่อช่วยจับคู่ธุรกิจ และเชื่อมโยงสินค้าไทยให้แทรกซึมอยู่ในซีรีส์วาย จนกลายเป็น Soft Power ของไทยและระดับโลก


“ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและเป็นที่น่าสนใจและสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น เมื่อพิจารณาย้อนหลังกลับไป 3 ปี (2564-2566) ที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 การจัดตั้งใหม่และทุนการจดทะเบียนของธุรกิจผลิตภาพยนตร์มีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 มีธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่จดทะเบียนนิติบุคคลจำนวน 137 ราย ทุนจดทะเบียน 258 ล้านบาท เติบโตจากปี 2565 ถึง 20% และปี 2567 ในช่วง 4 เดือนแรก (มกราคม-เมษายน) มีจำนวน 56 ราย เติบโตขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และทุนจดทะเบียน 195.18 ล้านบาท เติบโตขึ้น 146.44% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566”นางอรมนกล่าว

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่จดทะเบียนนิติบุคคลจนถึงปัจจุบัน (30 เมษายน 2567) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,442 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 7,387.97 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กจำนวน 1,383 ราย (95.91%) มูลค่าทุน 4,843.07 ล้านบาท ธุรกิจขนาดกลางจำนวน 55 ราย (3.81%) มูลค่าทุน 1,629.91 ล้านบาท และขนาดใหญ่ 4 ราย (0.28%) มูลค่าทุน 915 ล้านบาท โดยธุรกิจจะตั้งอยู่ตามพื้นที่เศรษฐกิจที่มีกลุ่มประชากรหนาแน่นเพื่อความสะดวกในการติดต่อและเจรจาธุรกิจอย่างภาคกลาง เหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวิเคราะห์การเติบโตของธุรกิจผลิตภาพยนตร์ผ่านข้อมูลผลประกอบการรายได้และกำไร พบว่ารายได้ในปี 2565 อยู่ที่ 12,895.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32% จากปี 2564 ที่มีรายได้ 9,761.54 ล้านบาท และรายได้รวมย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) สร้างรายได้รวม 33,009.84 ล้านบาท


ทั้งนี้ การพลิกวิกฤตของอุตสาหกรรมหนังไทยให้กลับมาทำกำไรได้ในครั้งนี้คือสัญญาณเชิงบวกในการฟื้นตัวของธุรกิจ เป็นผลมาจากการพัฒนาธุรกิจให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น การนำเสนอมุมมองใหม่ๆ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์เนื้อเรื่องในรูปแบบซีรีส์วายที่กำลังเป็นกระแสความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และมีศักยภาพสูงในการทำตลาดต่างประเทศ สอดรับกับสังคมไทยที่เปิดกว้างและเคารพในความหลากหลายทางเพศ การออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งทำให้ประเทศไทยเกิดมุมมองที่ดีในสายตาต่างชาติการสื่อสารอัตลักษณ์ของความเป็นไทยกับเสรีภาพทางเพศผ่าน Content ซีรีส์วายจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการยอมรับจากนานาชาติและสร้างเศรษฐกิจเติบโตได้อีกทาง โดยซีรีส์วายไม่ใช่แค่ธุรกิจผลิตละครหรือหนังไทยเท่านั้น แต่ยังสร้างความสำคัญและมูลค่าให้กับธุรกิจอื่นๆ ตามมาด้วย อาทิ เมื่อดูซีรีส์จบแต่ธุรกิจยังไม่จบแค่นั้นยังสร้างมูลค่าให้ตัวนักแสดงต่อเนื่องจากนักแสดงกลายเป็น Influencer ที่มีอิทธิพลทางความคิดของแฟนคลับ มีการจัดกิจกรรม Fan Meeting ซึ่งทำให้เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอื่นต่อไปอีก ทั้งธุรกิจให้บริการสถานที่จัดงาน ธุรกิจรับจัดงานแสดง ธุรกิจผลิตของชำร่วย การตามรอยสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ เพลงประกอบซีรีส์ มากไปกว่านั้นธุรกิจโฆษณาที่แฝงไปกับซีรีส์ก็ยังได้รับอานิสงส์ดีให้ธุรกิจโตตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งเสริมการทำธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตซีรีส์วาย รวมถึงอุตสาหกรรมหนังไทยให้มีความสะดวกในดำเนินธุรกิจการจับคู่ธุรกิจ การเสนอขายซีรีส์ให้แก่ตลาดต่างประเทศ พร้อมเชื่อมโยงสินค้าชุมชนและบริการของไทยให้ปรากฏอยู่ในเนื้อหาของซีรีส์เพื่อเป็นการเผยแพร่ภูมิปัญญาของไทยให้กลายเป็นกระแสนิยม หรือ Soft Power แก่แฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีผู้ประกอบการชุมชนที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ ได้ผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคซีรีส์วาย อาทิ อาลัวขนมไทย สมุนไพรหอมระเหย น้ำมันนวดสมุนไพร ถั่วลายเสืออบกรอบ และสุราพื้นถิ่น ซึ่งเป็นสินค้าที่พร้อมเป็น Soft Power ของไทย โดยกรมฯได้และประสานกับกลุ่มผู้ผลิตซีรีส์วายเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าชุมชนผ่านบทละครหรือหนังให้เป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายให้กับสินค้าชุมชนไทยได้ต่อไป ดังนั้น ซีรีส์วายจึงไม่ใช่แค่ธุรกิจผลิตหนังเท่านั้น แต่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะกระเพื่อมเศรษฐกิจไทยให้กระจายไปทั่วโลกได้อีกด้วย.-514.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]