DR และ DRx สร้างพอร์ตลงทุนระดับโลก กระจายการลงทุนอย่างสะดวกสบาย

2 พ.ค. – ในยุคที่โลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่นักลงทุนไทยจำนวนมากได้ให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม การลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นต่างประเทศ ก็อาจมาพร้อมกับความท้าทายหลายประการ เช่น ความยุ่งยากและขั้นตอนในการทำธุรกรรม ซึ่งรวมถึงการที่ต้องทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินต่างประเทศ การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ และประเด็นเกี่ยวกับภาษี เป็นต้น


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เรียกว่า DR (Depositary Receipt) และ DRx (Fractional Depositary Receipt) ซึ่งเป็นใบแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์หรือหุ้นของบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุน โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย DR และ DRx ได้อย่างสะดวกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยเงินบาท ผ่านบัญชีที่เปิดกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ฯ คล้ายกันกับการซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไป ไม่ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศหรือสับเปลี่ยนสกุลเงินหรือโอนเงินระหว่างประเทศ ช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุน จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

DR และ DRx มีกลไกการอ้างอิงมูลค่ากับหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยที่ผู้ออก DR และ DRx จะไม่ใช่บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ในต่างประเทศ แต่จะทำหน้าที่เป็นผู้ที่ถือหลักทรัพย์ต่างประเทศด้วยการซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศมาเก็บไว้ และส่งผ่านสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากการลงทุนให้แก่ผู้ถือตราสาร DR และ DRx เนื่องจาก DR และ DRx เป็นใบแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซึ่ง 1 หน่วยของใบแสดงสิทธิอาจเทียบเท่ากับ หน่วยของหลักทรัพย์อ้างอิงหรือน้อยกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับการกำหนดอัตราแปลงสภาพ เช่น 10 DR: 1 หลักทรัพย์อ้างอิง หมายถึง DR 10 หน่วยเทียบเท่ากับหุ้นอ้างอิง 1 หุ้น หรือ 2,000 DRx: 1 หลักทรัพย์อ้างอิง หมายถึง DRx 2,000 หน่วย เทียบเท่ากับหุ้นอ้างอิง 1 หุ้น เป็นต้น ดังนั้น ผู้ลงทุนควรตรวจสอบอัตราแปลงสภาพเพื่อให้สามารถประเมินราคาซื้อขาย DR และ DRx ที่เหมาะสมโดยเปรียบเทียบกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิงได้ การออกแบบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ก็เพื่อทำให้การลงทุนเข้าถึงได้ด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่าการซื้อหุ้นต่างประเทศโดยตรง โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในต่างประเทศที่อาจมีราคาต่อหุ้นค่อนข้างสูง นอกจากนี้ โดยทั่วไป ผู้ออก DR และ DRx หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย จะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ของ DR หรือ DRx นั้น ๆ ด้วย เพื่อช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องในการซื้อขายให้แก่ผู้ลงทุนอีกด้วย


จุดเด่นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งของ DR และ DRx คือ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก โดยสำหรับ DR สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 1 หน่วย DR ซึ่งปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นเพียงไม่กี่บาท และมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายคล้ายกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป ในขณะที่ DRx สามารถลงทุนแบบเศษหุ้น (Fractional Share) โดยซื้อขายเป็นจำนวนบาทหรือจำนวนหน่วย DRx ก็ได้ และผู้ให้บริการโดยทั่วไปมักจะเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพียง 0.16% (ไม่รวม VAT) ผู้ลงทุนจึงสามารถเข้าถึงการลงทุนได้อย่างสะดวกสบาย แม้มีเงินทุนจำกัด และยังอาจเลือกทยอยสะสมหน่วยลงทุนในระยะยาวแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging หรือ DCA) ได้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่มีวินัย โดยเน้นลงทุนเป็นจำนวนเงินที่เท่ากันอย่างสม่ำเสมอแม้สภาวะตลาดอาจมีความผันผวน ซึ่งจะช่วยในการถัวเฉลี่ยต้นทุนของการลงทุนระยะยาว เช่น ลงทุนเป็นจำนวนเงิน 500 บาท เท่า ๆ กันทุกเดือน เพื่อสะสมการลงทุนในหุ้นชั้นนำระดับโลก เป็นต้น (ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนแบบ DCA ได้ที่ https://www.setinvestnow.com/th/beginner/growing-portfolio-dca)

นอกจากความสะดวกสบายแล้ว DR และ DRx ยังเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์การลงทุนที่การออกและเสนอขายถูกกำกับดูแลภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผู้กำกับดูแลมีการออกกฎระเบียบที่ชัดเจนเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้ลงทุน โดยมีแนวทางกำกับดูแล อาทิ ผู้ออก DR และ DRx ต้องเป็นสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง ต้องมีหลักทรัพย์อ้างอิงอยู่ครบถ้วนเต็มจำนวนที่ออก DR และ DRx มีการติดตามข่าวสารของหลักทรัพย์อ้างอิงและเผยแพร่ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ให้ผู้ลงทุนทราบ และมีการระบุข้อกำหนดสิทธิของผู้ลงทุนที่ชัดเจนในกรณีที่ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิคล้ายคลึงกับการเป็นผู้ถือหุ้นโดยตรง เช่น สิทธิได้รับเงินปันผล สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน เป็นต้น กลไกเหล่านี้มีขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนว่า การลงทุนใน DR และ DRx นั้นมีความน่าเชื่อถือและได้รับการดูแลอย่างครบถ้วนตามสิทธิที่นักลงทุนพึงได้รับ สำหรับภาระภาษีที่เกี่ยวกับการลงทุนใน DR และ DRx นักลงทุนบุคคลธรรมดาจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% จากเงินปันผลที่ได้รับ โดยไม่ต้องนำเงินได้ข้างต้นไปคำนวณรวมเพื่อเสียภาษีอีก

ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมี DR และ DRx จดทะเบียนซื้อขายอยู่จำนวน 24 และ 10 หลักทรัพย์ ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2567) ครอบคลุมดัชนีและหุ้นสำคัญจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งตลาดที่พัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ และตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพ อย่างจีนและเวียดนาม โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ DR ที่อ้างอิงกับดัชนีหลักทรัพย์ (Index) ผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงกับหุ้นรายตัว (Single Stock) เช่น Alibaba, Tencent, BYD, XIAOMI, Pingan, Netease, Baidu จากจีน, Singapore Airlines จากสิงคโปร์ และ ASML จากยุโรป และผลิตภัณฑ์ DRx ที่อ้างอิงหุ้นขนาดใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เช่น Apple, Tesla, Microsoft, NVIDIA, Alphabet, Meta, Amazon, Starbucks, Netflix และ Booking Holdings ด้วยทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายทั้งในแง่ของประเทศและกลุ่มอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ DR และ DRx จะช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีคุณภาพจากทั่วโลกได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีได้


อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน DR และ DRx ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจให้ดี คล้าย ๆ กับการพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ทั้งในด้านปัจจัยพื้นฐานและความผันผวนของราคาหลักทรัพย์อ้างอิง ซึ่งเป็นผลจากผลประกอบการ แผนธุรกิจ คู่แข่ง และความเสี่ยงต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจและตลาดการเงิน นอกจากนี้ DR และ DRx ยังมีความเสี่ยงเพิ่มเติมจากอัตราแลกเปลี่ยนในทำนองเดียวกับการลงทุนต่างประเทศโดยตรง แม้จะมีการซื้อขายด้วยเงินบาทเนื่องจากราคาหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหลักทรัพย์ รวมถึงอาจพิจารณาจัดพอร์ตเพื่อกระจายการลงทุนในหลายประเทศและหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม และพิจารณาการดำเนินงานและการให้บริการของผู้ออก DR และ DRx ที่มีความน่าเชื่อถือ ตลอดจนมีรูปแบบ เงื่อนไข และวิธีการในการจัดการสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากการลงทุนใน DR และ DRx ตามที่ผู้ออกระบุไว้ สำหรับนักลงทุนที่สนใจ การเริ่มลงทุนใน DR และ DRx นั้นค่อนข้างสะดวก คล้ายคลึงกับการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการ โดยสำหรับ DR สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทุกช่องทางเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป และสำหรับ DRx สามารถซื้อขายผ่านช่องทาง Streaming Mobile Application กับโบรกเกอร์ผู้ให้บริการซื้อขาย DRx กว่า 27 แห่ง โดยแจ้งความประสงค์เพื่อซื้อขาย DRx ด้วยตนเอง เพียงกดปุ่ม My Menu ในแอพพลิเคชั่น Streaming เลือกเมนู DRx และกดปุ่ม “Request DRx Trading”

ในโลกยุคปัจจุบัน การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายเป็นแนวทางที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง DR กับ DRx เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและกระจายการลงทุนไปยังหลายกลุ่มอุตสาหกรรมในหลายประเทศได้อย่างสะดวก ทั้งในตลาดประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ พร้อมทั้งมีกลไกการกำกับดูแล และความสะดวกในการลงทุน DR และ DRx จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนไทยที่พร้อมจะก้าวไปสู่เวทีการลงทุนระดับโลก ทั้งนี้ สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับ DR และ DRx เพิ่มเติมได้ที่ SET website หรือ www.setinvestnow.com/th/newdr และ www.setinvestnow.com/drx

ข้อมูลดังกล่าวใช้สำหรับให้ความรู้โดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]