กรุงเทพฯ 9 เม.ย.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในนำทีมตรวจเช็คสถานีกลางบางซื่อและหมอชิต2เพื่อสำรวจดูราคาสินค้าตามร้านค้าสถานีขนส่งก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาไม่ให้ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน ย้ำพื้นที่ใดโก่งราคาสินค้าใช้กฎหมายได้ทันที
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวภายหลังนำคณะออกตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคภายในบริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)และสถานีขนส่งผู้โดยสานกรุงเทพ (หมอชิต2) เพื่อดูแล
รักษาความเป็นธรรมทางการค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567ว่า ช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์จะมาถึงในสัปดาห์นี้ที่จะมีประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในแต่ละสถานีขนส่งเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง โดยกรมการค้าภายในเน้นดูแลไม่ให้เอารัดเอาเปรียบของการจำหน่ายสินค้าและบริการในช่วงเทศกาลทุกพื้นที่ โดยเฉพาะตามสถานีขนส่งต่างๆ ทั่วประเทศ จึงได้สั่งการให้ค้าภายในจังหวัดร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกติดตามและตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าและบริการแบบปูพรมทั่วประเทศเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบจำหน่ายสินค้าที่แพงเกินจริง
ทั้งนี้ หลังจากได้เข้ามาสำรวจตรวจสอบร้านค้าภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และได้พูดคุยสอบถามถึงราคาสินค้าภายในร้านส่วนใหญ่มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้าไว้ชัดเจนและราคาสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นราคาที่สมเหตุสมผลไม่ได้สูงเกินไป แต่ได้กำชับร้านค้าต่างๆภายสถานีดังกล่าวให้จำหน่ายสินค้าอย่างเป็นธรรมไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคโดยเด็ดขาดและยังได้นำคณะไปที่สถานีกลางบางซื่อและได้กำชับร้านค้าต่างๆให้จำหน่ายสินค้าอย่างเป็นธรรมไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากมาตรวจดูสถานีบริการทััง 2 แห่งในวันนี้แล้ว ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสถานีขนส่งทัังในส่วนกลางและภูมิภาคด้วยเพื่อให้ประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้มีความมั่นใจแนวทางการดูแลราคาสินค้าและบริโภคจะไม่มีการโก่งราคาที่แพงเกินจริง โดยในภาพรวมปีนี้ราคาจำหน่ายสินค้าและค่าบริการบริเวณสถานีขนส่งทั้ง 2 แห่งมีราคาเท่ากับปีที่ผ่านมา เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวกะเพรา หมู-ไก่ ไข่ดาว ราคา 50-60 บาท/จาน น้ำเปล่าขวดเพท ขนาด 600 มล. ราคา 7-10 บาท/ขวดเป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ กรมการค้าภายในได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการและร้านค้าต่างๆจะต้องปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือหากมีการค้ากำไรเกินควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ.-514-สำนักข่าวไทย