คมนาคม สั่งเข้มทุกหน่วยงานรับเดินทางสงกรานต์ 2567

กรุงเทพ 2 เม.ย.- “สุริยะ” เช็กลิสต์ความพร้อม สั่งเข้มทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจากการประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงคมนาคม ว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ติดตามผลการดำเนินการจากข้อสั่งการที่มอบให้หน่วยงานในสังกัด ไปดำเนินการภายใต้แผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงคมนาคม ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 ระยะเวลารวม 7 วัน ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน”

นายสุริยะ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน จึงคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรเข้า – ออกกรุงเทพมหานคร รวม 17,141,489 คัน แบ่งเป็น การจราจรบนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์ รวม 6,985,530 คัน และการจราจรบนทางพิเศษ รวม 10,155,959 คัน สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ คาดว่าประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสารสาธารณะ และเครื่องบิน รวม 16,908,078 คน-เที่ยว แบ่งเป็น การเดินทางภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 13,397,591 คน-เที่ยว การเดินทางระหว่างจังหวัด 2,047,695 คน-เที่ยว และการเดินทางระหว่างประเทศ 1,693,727 คน-เที่ยว
มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล


  1. ให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ดังนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางบนทางพิเศษ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 จากเดิม 5 เส้นทาง เป็น 6 เส้นทาง ได้แก่ – ทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) จะยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระยะเวลารวม 7 วัน (ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567)
    • ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษอุดรรัถยา จะยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระยะเวลารวม 3 วัน (ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2567)
      กรมทางหลวง (ทล.) ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ หมายเลข 7 (กรุงเทพมหานคร – เมืองพัทยา) และหมายเลข 9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน) ระยะเวลารวม 7 วัน (ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567)
  2. กรมทางหลวง (ทล.) เปิดใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ช่วงปากช่อง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา
    4 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ระยะทาง 77 กิโลเมตร และเปิดใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 ช่วงด่านนครปฐม
    ฝั่งตะวันตก – ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 50 กิโลเมตร
  3. ให้ประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนมาใช้ถนนสายรองของกรมทางหลวงชนบท (ทช.)
    และ ทล. เพื่อลดปริมาณจราจรที่หนาแน่นของถนนสายหลัก ได้แก่ เลี่ยงการเดินทางสู่ภาคเหนือ สามารถใช้ทางหลวงชนบท สาย สห.4035 สห.5040 และ ชน.4050 แทนถนนสายเอเชียหมายเลข 32 ช่วงสิงห์บุรีไปชัยนาท และทางหลวงชนบท สาย สพ.4059 และ ชน.4054 แทนทางหลวงหมายเลข 340 จากนนทบุรีไปชัยนาท ในส่วนของทางเลือกในการเลี่ยงการเดินทางสู่ภาคอิสาน สามารถใช้ทางหลวงชนบท สาย นม.1016 และ นม.3052 แทนถนนมิตรภาพ ช่วงมวกเหล็กถึงวังน้ำเขียว เป็นทางเลือกในการเดินทางสู่จังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งทางหลวงหมายเลข 201 ทางหลวงหมายเลข 2369 และทางหลวงหมายเลข 2246 แทนถนนมิตรภาพ ช่วงสระบุรีถึงโคราช และทางหลวงชนบท สาย สบ.4051 และ สบ.3021 แทนถนนพหลโยธิน ช่วงวังน้อยถึงสระบุรี เป็นทางเลือกในการเดินทางสู่ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับการเลี่ยงการเดินทางสู่ภาคใต้ สามารถใช้ถนนกัลปพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ แทนถนนกาญจนาภิเษก และทางหลวงชนบท สาย สส.2021 (ถนนไทยแลนด์ริเวียร่า) จากช่วงคลองโคนถึงชะอำ เพื่อแทนถนนเพชรเกษม ช่วงแยกวังมะนาวไปชะอำได้
  4. การบริหารจัดการจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนพระราม 2 และถนนบรมราชชนนี จะต้องหยุดการก่อสร้างทางและคืนพื้นผิวจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอย่างปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และปิดจุดกลับรถหรือเลื่อนจุดกลับรถออกจากบริเวณการจราจรติดขัดและจุดคอขวด และให้ทดลองบริหารจัดการจราจรในช่วงวันที่ 6 – 8 เมษายน 2567 เพื่อจะรับทราบผลกระทบจากการดำเนินการบริหารจัดการจราจร
  5. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดำเนินการขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งหลีกเลี่ยง
    การขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง ในกรณีที่มีความจำเป็น ต้องใช้รถ ให้เดินรถได้เฉพาะช่องเดินรถซ้ายสุดเท่านั้น เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ในรถของตนเอง ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT- GPS และแจ้งเตือนผู้ขับรถ เมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด และกำชับผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ขอให้วางแผนการรับ – ส่งสินค้าให้ไม่กระทบต่อการเดินทางของประชาชน เพื่อร่วมป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) มีการออกประกาศห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนบางสาย รวมทั้งถนนพระราม 2 ช่วง กม.15 – กม.53 ในช่วงวันที่ 11 – 13 และ 15 – 16 เมษายน 2567
    มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
  6. เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัด คค. ที่รับผิดชอบเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนโดยเฉพาะในประเด็นการเกิดอุบัติเหตุของระบบขนส่งสาธารณะจะต้องเป็นศูนย์ ต้องไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดและไม่เกินชั่วโมงทำงาน สำหรับผู้ประจำรถโดยสาร ผู้ประจำเรือโดยสาร พนักงานขับรถไฟ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจผู้ขับต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้ตรวจสอบความพร้อม ณ สถานประกอบการ ตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอด ตรวจความพร้อมของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ตามรายการตรวจ Checklist ตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ
    และผู้ขับรถ (Rest Area) และเพิ่มความถี่ในการออกตรวจจับความเร็วของรถโดยสารสาธารณะในเส้นทางสายหลักทั้งขาเข้า/ออก ตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถจากข้อมูลระบบ GPS แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง จัดผู้ตรวจการให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสารบนรถโดยสารประจำทาง เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการกำกับ
    การทำงานของบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Management : TSM) และมีมาตรการเรียกรถโดยสารสองชั้นมาตรวจสอบย้ำความปลอดภัย (Check Sure for safety) ดังนี้
    1) รถโดยสารสองชั้นทุกคัน ที่จะนำมาใช้วิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องตรวจให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่
    7 เมษายน 2567 2) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกเอกสารรับรองผลการตรวจเพื่อเก็บไว้ประจำรถประกอบการตรวจสอบ 3) หากพบรถไม่พร้อมจะมีการสั่งพ่นข้อความ ว่า “ห้ามใช้”
  7. กำชับให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เข้มงวดกับผู้ให้บริการการบินโดยเฉพาะในกรณีเครื่องล่าช้าและจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับในกรณีที่มีการเลื่อนเที่ยวบินหรือยกเลิกเที่ยวบิน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ได้กำชับให้สายการบินเตรียมความพร้อมให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเพิ่มเที่ยวบินพิเศษรวม ๑๐๔ เที่ยวบิน พร้อมปรับเพดานค่าโดยสารลง 20% (เฉพาะในส่วนของเที่ยวบินพิเศษรวม 104 เที่ยวบิน) ซึ่งสามารถรองรับได้จำนวนถึง 17,874 ที่นั่ง
  8. ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้พิจารณาบริเวณ/พื้นที่ที่จะมีการตั้งเต็นท์อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยควรมีระยะที่ปลอดภัยจากขอบทาง/เขตทางเพื่อลดโอกาส
    การเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ประจำจุดให้บริการ โดย สนข. จะเสนอแนะเพิ่มเติมในการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล ให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่พิจารณาเรื่องระยะห่างที่เหมาะสมในการตั้งเต็นท์ เพื่อตรวจสอบให้มีระยะห่างจากไหล่ทาง ขอบถนน มีการตั้งกรวยจราจรคาดแถบสะท้อนแสงเพื่อเป็นจุดสังเกตในระยะไกล ให้ผู้ขับขี่ทราบล่วงหน้า เพื่อให้มีความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
  9. มอบหมายให้ ทล. ทช. และ กทพ. ดำเนินการตรวจสอบไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่รับผิดชอบ
    ทุกสายทางเรียบร้อย และจัดเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ/แก้ไขไฟฟ้าส่องสว่างที่ขัดข้องในช่วงการดำเนินโครงการก่อสร้าง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการเดินทาง และให้ทุกหน่วยงานในสังกัด คค. ดำเนินการตรวจสอบเตรียมความพร้อมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทุกตัวให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา
  10. ให้หน่วยงานในสังกัด คค. ที่รายงานข้อมูลอุบัติเหตุเข้าสู่ระบบรายงานข้อมูลอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม (TRAMS) ตามแนวทางปฏิบัติให้ทันเวลาเพื่อสรุปข้อมูลรายงานให้ผู้บริหารทราบภายในช่วงเช้าของทุกวัน
  11. การเดินทางทางน้ำ จะต้องตรวจสอบโป๊ะ/ท่าเรือต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยต้องมีความปลอดภัยอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ . 513 .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย