คมนาคม สั่งเข้มทุกหน่วยงานรับเดินทางสงกรานต์ 2567

กรุงเทพ 2 เม.ย.- “สุริยะ” เช็กลิสต์ความพร้อม สั่งเข้มทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจากการประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงคมนาคม ว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ติดตามผลการดำเนินการจากข้อสั่งการที่มอบให้หน่วยงานในสังกัด ไปดำเนินการภายใต้แผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ของกระทรวงคมนาคม ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 ระยะเวลารวม 7 วัน ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน”

นายสุริยะ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน จึงคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรเข้า – ออกกรุงเทพมหานคร รวม 17,141,489 คัน แบ่งเป็น การจราจรบนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์ รวม 6,985,530 คัน และการจราจรบนทางพิเศษ รวม 10,155,959 คัน สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ คาดว่าประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสารสาธารณะ และเครื่องบิน รวม 16,908,078 คน-เที่ยว แบ่งเป็น การเดินทางภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 13,397,591 คน-เที่ยว การเดินทางระหว่างจังหวัด 2,047,695 คน-เที่ยว และการเดินทางระหว่างประเทศ 1,693,727 คน-เที่ยว
มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล


  1. ให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ดังนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางบนทางพิเศษ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 จากเดิม 5 เส้นทาง เป็น 6 เส้นทาง ได้แก่ – ทางพิเศษฉลองรัช ทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี – สุขสวัสดิ์) จะยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระยะเวลารวม 7 วัน (ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567)
    • ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษอุดรรัถยา จะยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระยะเวลารวม 3 วัน (ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2567)
      กรมทางหลวง (ทล.) ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ หมายเลข 7 (กรุงเทพมหานคร – เมืองพัทยา) และหมายเลข 9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน) ระยะเวลารวม 7 วัน (ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567)
  2. กรมทางหลวง (ทล.) เปิดใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ช่วงปากช่อง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา
    4 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ระยะทาง 77 กิโลเมตร และเปิดใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 ช่วงด่านนครปฐม
    ฝั่งตะวันตก – ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 50 กิโลเมตร
  3. ให้ประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนมาใช้ถนนสายรองของกรมทางหลวงชนบท (ทช.)
    และ ทล. เพื่อลดปริมาณจราจรที่หนาแน่นของถนนสายหลัก ได้แก่ เลี่ยงการเดินทางสู่ภาคเหนือ สามารถใช้ทางหลวงชนบท สาย สห.4035 สห.5040 และ ชน.4050 แทนถนนสายเอเชียหมายเลข 32 ช่วงสิงห์บุรีไปชัยนาท และทางหลวงชนบท สาย สพ.4059 และ ชน.4054 แทนทางหลวงหมายเลข 340 จากนนทบุรีไปชัยนาท ในส่วนของทางเลือกในการเลี่ยงการเดินทางสู่ภาคอิสาน สามารถใช้ทางหลวงชนบท สาย นม.1016 และ นม.3052 แทนถนนมิตรภาพ ช่วงมวกเหล็กถึงวังน้ำเขียว เป็นทางเลือกในการเดินทางสู่จังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งทางหลวงหมายเลข 201 ทางหลวงหมายเลข 2369 และทางหลวงหมายเลข 2246 แทนถนนมิตรภาพ ช่วงสระบุรีถึงโคราช และทางหลวงชนบท สาย สบ.4051 และ สบ.3021 แทนถนนพหลโยธิน ช่วงวังน้อยถึงสระบุรี เป็นทางเลือกในการเดินทางสู่ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับการเลี่ยงการเดินทางสู่ภาคใต้ สามารถใช้ถนนกัลปพฤกษ์ – ราชพฤกษ์ – นครอินทร์ แทนถนนกาญจนาภิเษก และทางหลวงชนบท สาย สส.2021 (ถนนไทยแลนด์ริเวียร่า) จากช่วงคลองโคนถึงชะอำ เพื่อแทนถนนเพชรเกษม ช่วงแยกวังมะนาวไปชะอำได้
  4. การบริหารจัดการจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างถนนพระราม 2 และถนนบรมราชชนนี จะต้องหยุดการก่อสร้างทางและคืนพื้นผิวจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างอย่างปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และปิดจุดกลับรถหรือเลื่อนจุดกลับรถออกจากบริเวณการจราจรติดขัดและจุดคอขวด และให้ทดลองบริหารจัดการจราจรในช่วงวันที่ 6 – 8 เมษายน 2567 เพื่อจะรับทราบผลกระทบจากการดำเนินการบริหารจัดการจราจร
  5. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดำเนินการขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งหลีกเลี่ยง
    การขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง ในกรณีที่มีความจำเป็น ต้องใช้รถ ให้เดินรถได้เฉพาะช่องเดินรถซ้ายสุดเท่านั้น เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ในรถของตนเอง ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT- GPS และแจ้งเตือนผู้ขับรถ เมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด และกำชับผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ขอให้วางแผนการรับ – ส่งสินค้าให้ไม่กระทบต่อการเดินทางของประชาชน เพื่อร่วมป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) มีการออกประกาศห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนบางสาย รวมทั้งถนนพระราม 2 ช่วง กม.15 – กม.53 ในช่วงวันที่ 11 – 13 และ 15 – 16 เมษายน 2567
    มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
  6. เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัด คค. ที่รับผิดชอบเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนโดยเฉพาะในประเด็นการเกิดอุบัติเหตุของระบบขนส่งสาธารณะจะต้องเป็นศูนย์ ต้องไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดและไม่เกินชั่วโมงทำงาน สำหรับผู้ประจำรถโดยสาร ผู้ประจำเรือโดยสาร พนักงานขับรถไฟ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจผู้ขับต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้ตรวจสอบความพร้อม ณ สถานประกอบการ ตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอด ตรวจความพร้อมของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ตามรายการตรวจ Checklist ตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ
    และผู้ขับรถ (Rest Area) และเพิ่มความถี่ในการออกตรวจจับความเร็วของรถโดยสารสาธารณะในเส้นทางสายหลักทั้งขาเข้า/ออก ตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถจากข้อมูลระบบ GPS แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง จัดผู้ตรวจการให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสารบนรถโดยสารประจำทาง เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการกำกับ
    การทำงานของบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (Transport Safety Management : TSM) และมีมาตรการเรียกรถโดยสารสองชั้นมาตรวจสอบย้ำความปลอดภัย (Check Sure for safety) ดังนี้
    1) รถโดยสารสองชั้นทุกคัน ที่จะนำมาใช้วิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องตรวจให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่
    7 เมษายน 2567 2) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกเอกสารรับรองผลการตรวจเพื่อเก็บไว้ประจำรถประกอบการตรวจสอบ 3) หากพบรถไม่พร้อมจะมีการสั่งพ่นข้อความ ว่า “ห้ามใช้”
  7. กำชับให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เข้มงวดกับผู้ให้บริการการบินโดยเฉพาะในกรณีเครื่องล่าช้าและจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับในกรณีที่มีการเลื่อนเที่ยวบินหรือยกเลิกเที่ยวบิน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ได้กำชับให้สายการบินเตรียมความพร้อมให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเพิ่มเที่ยวบินพิเศษรวม ๑๐๔ เที่ยวบิน พร้อมปรับเพดานค่าโดยสารลง 20% (เฉพาะในส่วนของเที่ยวบินพิเศษรวม 104 เที่ยวบิน) ซึ่งสามารถรองรับได้จำนวนถึง 17,874 ที่นั่ง
  8. ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้พิจารณาบริเวณ/พื้นที่ที่จะมีการตั้งเต็นท์อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยควรมีระยะที่ปลอดภัยจากขอบทาง/เขตทางเพื่อลดโอกาส
    การเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ประจำจุดให้บริการ โดย สนข. จะเสนอแนะเพิ่มเติมในการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล ให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่พิจารณาเรื่องระยะห่างที่เหมาะสมในการตั้งเต็นท์ เพื่อตรวจสอบให้มีระยะห่างจากไหล่ทาง ขอบถนน มีการตั้งกรวยจราจรคาดแถบสะท้อนแสงเพื่อเป็นจุดสังเกตในระยะไกล ให้ผู้ขับขี่ทราบล่วงหน้า เพื่อให้มีความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
  9. มอบหมายให้ ทล. ทช. และ กทพ. ดำเนินการตรวจสอบไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่รับผิดชอบ
    ทุกสายทางเรียบร้อย และจัดเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ/แก้ไขไฟฟ้าส่องสว่างที่ขัดข้องในช่วงการดำเนินโครงการก่อสร้าง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการเดินทาง และให้ทุกหน่วยงานในสังกัด คค. ดำเนินการตรวจสอบเตรียมความพร้อมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทุกตัวให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา
  10. ให้หน่วยงานในสังกัด คค. ที่รายงานข้อมูลอุบัติเหตุเข้าสู่ระบบรายงานข้อมูลอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม (TRAMS) ตามแนวทางปฏิบัติให้ทันเวลาเพื่อสรุปข้อมูลรายงานให้ผู้บริหารทราบภายในช่วงเช้าของทุกวัน
  11. การเดินทางทางน้ำ จะต้องตรวจสอบโป๊ะ/ท่าเรือต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยต้องมีความปลอดภัยอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ . 513 .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]