กรุงเทพฯ 15 มี.ค.-โออาร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันประเทศไทย โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กร (Company Rating) ที่ระดับ “AA+” จากทริสเรทติ้ง (TRIS) ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิตคงที่ (Stable) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนความสำเร็จด้วยผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที 2 ที่โออาร์ ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจาก TRIS สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำของประเทศไทย ที่ระดับ AA+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจ และตอกย้ำความเป็นผู้นำของโออาร์ในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในประเทศไทย และเป็นหลักสำคัญในการกระจายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกลุ่ม ปตท. ตลอดจนมีนโยบายทางการเงินที่มีความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในมุมมองของ TRIS นั้น โออาร์เป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งในการเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและความสามารถในการจัดหาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมทั้งเครือข่ายสถานีบริการและช่องทางกระจายสินค้า รวมไปถึงจุดแข็งของแบรนด์ PTT Station ที่ชูแนวคิด Living Community มุ่งให้สถานีบริการ PTT Station เป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มทุกความสุขและเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ โออาร์ยังมีผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่หลากหลาย รวมทั้งธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดย โออาร์ได้เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการขั้นพื้นฐาน เพิ่มพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้โออาร์มีรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น
การจัดอันดับเครดิตของ TRIS สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจ กระแสเงินสดและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของ โออาร์ในสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของราคาน้ำมัน และการเปลี่ยนผ่านของพลังงานน้ำมันไปสู่พลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้ โออาร์ยังคงพร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีการบริหารจัดการสถานะทางการเงินให้มีความเข้มแข็งและพร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวทาง SDG ในแบบฉบับของโออาร์ทั้งในด้าน “S” หรือ “Small” ที่มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก ด้าน “D” หรือ “DIVERSIFIED” ที่เน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตในทุกรูปแบบผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของโออาร์และด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 อย่างมีประสิทธิภาพ.-517-สำนักข่าวไทย