ถก รมต.การค้าฮ่องกง ดันอาหาร-ผลไม้-ข้าวไทยและหนังดึงรายได้เข้าประเทศ

ฮ่องกง 11 มี.ค.-รมว.พณ.ถกรัฐมนตรีพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง เปิดทางสะดวกผู้ประกอบการไทย สินค้าและบริการไทยเข้าสู่ตลาดฮ่องกง พร้อมดึงฮ่องกงใช้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายการค้า ลงทุนสู่อาเซียน ชมจัดงาน FILMART สุดเจ๋ง เผยไทยนำผู้ประกอบการเข้าร่วม 27 บริษัท เล็งจับมือ HKTDC สร้างโอกาสทางการค้าระหว่างกันต่อ ระบุยังขอฮ่องกงช่วยหนุน Soft Power ของไทย ทั้งอาหาร ผลไม้ ข้าว และบริการไทย


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายแอลเจอร์นอน เยา (Mr. Algernon Yau) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง ที่โรงแรม MIRA ฮ่องกง โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วม ว่า ได้หารือถึงแนวทางการสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย  แลกเปลี่ยนข้อมูลสินค้าและบริการ ในการเปิดตลาดฮ่องกง และเชิญชวนผู้ประกอบการฮ่องกงที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศและโอกาสทางธุรกิจสำหรับไทยและฮ่องกง อีกทั้งหากการค้าระหว่างไทยและฮ่องกงมีข้อจำกัดในอนาคต ก็ได้ขอให้ทางฮ่องกงช่วยอำนวยความสะดวกด้วย เพื่อจะให้การเกิดการส่งเสริมธุรกิจและเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้เติบโตไปด้วยกันมากขึ้น 

ทั้งนี้ ไทยได้ใช้โอกาสนี้ ชื่นชมการจัดงาน Hong Kong International Film & TV Market (FILMART) ที่ฮ่องกงจัดขึ้นซึ่งเป็นงานซื้อขายภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียงานหนึ่ง มั่นใจว่าผู้เข้าร่วมงานจากไทยจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยกระทรวงพาณิชย์ได้นำผู้ประกอบการเข้าร่วมในปีนี้จำนวน 27 บริษัท แยกเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชัน 9 บริษัท ผู้ผลิตรายการและละครโทรทัศน์ 10 บริษัท บริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 8 บริษัท ซึ่งหวังว่าจะเกิดการซื้อขาย และร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการไทยและฮ่องกงในระยะต่อไป


ขณะเดียวกัน ได้หารือถึงการยกระดับความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ที่จะมีการลงนาม MOU กันในการเดินทางเยือนฮ่องกงในครั้งนี้ เพื่อสร้างความร่วมมือใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้า 2) การสนับสนุนกิจกรรมการค้าเพื่อยกระดับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของธุรกิจ SMEs เช่น จัดการฝึกอบรมระหว่างกัน  และ 3) ความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ

นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือฮ่องกงในการสนับสนุนและจัดการ Soft Power ของไทยให้มากขึ้น ทั้งอาหาร ผลไม้ ข้าวหอมมะลิไทย และธุรกิจบริการไทย เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ให้ผู้บริโภคชาวฮ่องกงได้รับทราบ และช่วยสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และยังขอให้ช่วยส่งเสริมการค้าในธุรกิจภาคบริการที่ไทยมีศักยภาพสูง อาทิ ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและบริการสำหรับผู้สูงอายุ ธุรกิจ Startup และการค้นคว้าวิจัยสมัยใหม่ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 7 (คู่ค้าลำดับที่ 13) ของการค้าในปี 2566 มีมูลค่า 13,708 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.94 เทียบกับปี 2565 โดยเป็นการส่งออก ​11,096 ​ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.04 และการนำเข้า ​2,612 ​ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.47 เกินดุลการค้า ​8,483​ ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.43 โดยสินค้าส่งออกของไทยไปฮ่องกงที่สำคัญ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ​ แผงวงจรไฟฟ้า​​ นาฬิกาและส่วนประกอบ​ ข้าว​​​ ผลไม้​​​ และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์​ เป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร