ผลงาน “Quick Win 99 วัน“ลดค่าครองชีพกว่า 7 พันล้านบาท

นนทบุรี 27 ธ.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มผลงาน“Quick Win 99 วัน”หลายมาตรการช่วยเสริมกระจายได้ตรงตามเป้าหมาย โดยเฉพาะลดค่าครองชีพให้กับคนไทยทุกกลุ่มมากกว่า 7,758 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ 12,000 ล้านบาท โดยประกาศปี 67 เดินหน้าลดค่าครองพีชกว่า 30,000 ล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 150,000 ล้านบาท


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการดำเนินงาน Quick Win 99 วัน กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ภายใต้สภาพจำกัดที่ไม่มีงบประมาณปี 2567 ใช้แต่งบฯประจำ 99 วันที่ผ่านมา ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เป็นทีมพาณิชย์ ประสานงานกันอย่างดี เราเข้ามาท่ามกลางปัญหา ทั้งสภาพภูมิอากาศ ภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น แต่เรามีท่านนายกฯที่ทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ทำให้เราไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์เสนอ 7 นโยบายเร่งด่วน กำหนดเป้าเป็น 3 ระยะ 15 เป้าหมาย ภายใน 99 วัน ได้เป็น 3 ซ่อม เพื่อลดช่องว่าง 8 สร้าง เพื่อต่อเติม และ 4 เสริม เพื่อยั่งยืน ระยะที่ 1 “3 ซ่อม เพื่อลดช่องว่าง” ให้คนตัวเล็กทั้งประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ลดค่าครองชีพ เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ พยุงราคาสินค้าเกษตร เสริมความเข้มแข็งในการค้าขาย


1) ลดค่าครองชีพ จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ผ่าน 5 กิจกรรมหลักทั่วประเทศ ลดสูงสุดกว่า 82% ลดค่าครองชีพไปแล้วกว่า 7,758 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 12,000 ล้านบาท

2) ช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งการให้สินเชื่อและชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อก และเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทแก่ชาวนา ชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต๊อก สินเชื่อเพื่อรวบรวมเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและการแปรรูปให้กับชาวไร่มันสำปะหลังและข้าวโพด ช่วยสนับสนุนค่าบริหารจัดการสต๊อกในประเทศให้กับชาวสวนปาล์มน้ำมัน

นอกจากนี้ การเชื่อมโยงผลผลิตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในช่วง 99 วันที่ผ่านมาไปแล้วกว่า 3,369 ล้านบาท กระจายผลผลิตกว่า 9,000 ตัน


3) ช่วยผู้ประกอบการอำนวยความสะดวกการค้า ทำให้เป็น E-Government ใช้เทคโนโลยีบริการประชาชนคาดว่าช่วยผู้ประกอบการได้กว่า 1,250,000 คน โดยพัฒนาระบบจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ การเพิ่มช่องทางจดทะเบียนบริษัทจำกัดมหาชนออนไลน์ การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้ด้วยตนเอง และแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคและไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน 8 ฉบับ อาทิ พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ร.บ. สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ร.บ. สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฏหมายว่าด้วยหอการค้าบางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. … และหาช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่าน 77 กิจกรรมสร้างมูลค่ารวม 20,838 ล้านบาท พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ผ่าน 22 กิจกรรม อาทิ ขายลิขสิทธิ์เพลงฟรีแก่ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก สสว. 3 เดือน และมอบส่วนลดพิเศษ 50 – 55% และกิจกรรมใช้กลยุทธ์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย การอบรมเพิ่มทักษะองค์ความรู้ผู้ประกอบการ ใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อขยายตลาด จาก FTA เป็นต้น

ระยะที่ 2 “8 สร้าง เพื่อต่อเติม” ปรับฐานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ บริหารต้นทุน แปรรูปผลผลิตเพิ่มช่องทางการแข่งขันทางการตลาด สร้างแต้มต่อ เพื่อรองรับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง

1)สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก วางแผนกระจายสินค้าเกษตรล่วงหน้าผ่านช่องทางใหม่ๆ ควบคุมและจัดสรรต้นทุนสินค้าที่จำเป็นให้เกษตรกรช่วยลดต้นทุน

2)สร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการในการแข่งขัน เชื่อมโยงเครือข่าย SMEs ให้บริการข้อมูลเชิงลึกด้านการพาณิชย์

3)สร้างกลไกพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์และทีมไทยแลนด์ ร่วมมือกันขยายตลาดไปต่างประเทศรองรับนโยบายทีมไทยแลนด์ของรัฐบาล

4)สร้างยุทธศาสตร์การค้าชายแดน/ผ่านแดน ตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service:OSS) 8 จังหวัด

5)สร้างยุทธศาสตร์การส่งออกให้สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ใช้นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เจาะตลาดรายมณฑลและตลาดเมืองรอง เพิ่มช่องทางการส่งเสริมสินค้าไทย ผ่านร้าน Thai Select ทั่วโลก

6)สร้างแต้มต่อทางการค้าด้วย FTA เร่งเจรจาตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ก.พ.67 นี้ จะมีการลงนาม FTA กับศรีลังกา ให้ GDP ไทยเพิ่มอีกร้อยละ 0.02 ต่อปี

7)สร้างอาชีพ สร้างโอกาสทางการค้าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านอาหารไทย ภาพยนตร์/เกม การท่องเที่ยวคุณภาพสูง หนังสือ แฟชั่น งานออกแบบ และการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการไทย

8)สร้างความเข้มแข็งของธุรกิจด้วยนวัตกรรม

ระยะที่ 3 “4 เสริม เพื่อยั่งยืน” เสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

1)เสริมกลไกเพื่อรักษาระดับราคาสินค้าเกษตร อย่างครบวงจร วางแผนล่วงหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ

2)เสริมยุทธศาสตร์ของหน่วยงานรองรับการเปลี่ยนแปลง

3)เสริมมาตรฐาน SMEs ไทย ส่งเสริมผู้ประกอบการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จให้เป็นโมเดลกับรายใหม่

4)เสริมขีดความสามารถทางการค้าไทย ได้กำหนดแผนเร่งรัดการส่งออกปี 2567 ผ่าน 417 กิจกรรม คาดว่าสร้างมูลค่าส่งออกกว่า 65,700 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผลงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ทำมา 99 วัน ให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาให้เศรษฐกิจการค้าให้ไปได้ดีมากขึ้น ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันผลักดัน จากนี้ไปจะเห็นผลงานที่มากขึ้นผลิดอกออกผล ให้ประชาชนเดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวัง และในปี 67 จากแนวทาง 3 เดือนที่ผ่านมาจะเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนทั้งประเทศผ่านโครงการธงฟ้าราคาถูก โดยตั้งเป้าหมายจัดงานมหกรรมธงฟ้าในทุกพื้นที่เพื่อให่เข้าถึงประชาชนมากสุดและให้ลดค่าครองพีชตลอดปี 67 กว่า 30,000 ล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากถึงกว่า 150,000 ล้านบาท พร้อมทั้งจะเร่งช่วยเหลือเครือข่ายร้านธงฟ้าที่มีอยู่กว่า 140,000 รายทั่วประเทศในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง ที่กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับกรมไปรษณีย์เข้ามาร่วมขนส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปตามร้านธงฟ้าได้รวดเร็วและต้นทุนไม่แพงจนเกินไป.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย