ยอดตั้งนิติบุคคลตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนพ.ย.66 ยังขาขึ้น

นนทบุรี 26 ธ.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจัดตั้งนิติบุคคลตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือน พ.ย.66 ยังเติบโตสูงขึ้นตามปัจจัยหนุนหลายด้าน คาดการณ์ยอดทั้งปี 84,000 – 86,000 ราย และมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งอยู่ที่ประมาณ 550,000 – 600,000 ล้านบาท ประเมินปี 67 หลายธุรกิจฟื้นตัวมั่นใจยังจดทะเบียนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 90,000 รายได้แน่


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยถึงยอดจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ทั่วประเทศ ประจำเดือน พ.ย. 66 มีจำนวน 5,979 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 3.57% (พ.ย.65) แต่ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาคิดเป็น 10.05% (ต.ค.66) สอดคล้องกับมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ ในเดือนพฤศจิกายน จำนวน 25,272.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 25.93% (พ.ย.65) แต่ ลดลง จากเดือนที่ผ่านมาคิดเป็น 7.12% (ต.ค.66) โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 490 ราย คิดเป็น 8.20% ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 436 ราย คิดเป็น 7.29% รองลงมา และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 267 ราย คิดเป็น 4.46% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ทำให้ภาพรวมจัดตั้งธุรกิจใหม่ 11 เดือนของปี 66 มีจำนวน 81,291 ราย เพิ่มขึ้น จากปี 65 ถึง 12.16% โดยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนพ.ย.66 ยังคงเป็นไปตามช่วงเวลาของการจดทะเบียนจัดตั้งที่จะมีแนวโน้มการจดจัดตั้งสูงในช่วงต้นปีและลดลงในช่วงปลายปี โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 6,226 ราย คิดเป็น 7.66% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 6,047 ราย คิดเป็น 7.44% รองลงมา และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร
จำนวน 3,841 ราย คิดเป็น 4.73% ตามลำดับ โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ใน 11 เดือนของปี 66 เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 33.83% (11 เดือนแรกปี 65) เนื่องจากในเดือนมี.ค.66 มีการควบรวมกิจการในธุรกิจสื่อสาร โทรคมนาคมและธุรกิจประกันวินาศภัย รวมทั้งมีการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งและโรงแรม


อย่างไรก็ตาม หากดูยอดจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนพ.ย.66 มีจำนวน 2,608 ราย ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (พ.ย.65) คิดเป็น 2.83% แต่ เพิ่มขึ้น จากเดือน
ที่ผ่านมา (ต.ค.66) คิดเป็น 16.43% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 17,374.03 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 194 ราย คิดเป็น 7.44% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 131 ราย คิดเป็น 5.02% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 80 ราย คิดเป็น 3.34% ตามลำดับ ทำให้ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ 11 เดือนตั้งแต่ม.ค.-พ.ย. 66 มีจำนวน 17,858 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 107,728.90 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,680 ราย คิดเป็น 9.41% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 915 ราย คิดเป็น 5.12% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 511 ราย คิดเป็น 2.86% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่เติบโต ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยเฉพาะการสนับสนุน Soft Power ของรัฐบาล และนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่นๆ สะท้อนจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เติบโต 1.04 เท่า ธุรกิจจัดน าเที่ยว เติบโต 69.35% จากการจัดงานเทศกาลที่ส าคัญในทุกพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร เติบโต 36.34% จากการผลักดันอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์และให้ชาวต่างประเทศได้รู้จักอาหารไทยมากยิ่งขึ้น ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเติบโต 1.56 เท่า ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด เติบโต 30.69% โดยใน 11 เดือนแรกปี 66 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 45.58% มีสัดส่วนคิดเป็น 8.59% ของจำนวนธุรกิจ
ที่จัดตั้งทั้งหมดใน 11 เดือนแรกปี 66

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 66 จะอยู่ที่ประมาณ 84,000 – 86,000 ราย และมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งอยู่ที่ประมาณ 550,000 – 600,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 67 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวในหลายๆด้านจะส่งผลทำให้ยอดจัดตั้งนิติบุคคลใหม่เพิ่มขึ้น โดยจะมียอดเกินกว่า 90,000 รายขึ้นไป.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย