กรุงเทพฯ 8 ธ.ค. – บลจ.วรรณ มองตลาดหุ้นไทยมี downside เริ่มจำกัด หลังถูกเทขาย พร้อมร่วมสนับสนุนความยั่งยืนจำหน่ายกองทุนเปิด วรรณ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (ONE-THAIESG) วันที่ 8-13 ธ.ค.นี้ ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการของกองทุน
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่าวันนี้ (8 ธ.ค.) ถึงวันที่ 13 ธ.ค.นี้ บริษัทเปิดเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด วรรณ หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (ONE-THAIESG) นโยบายกองทุน ONE-THAIESG เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือองค์กร หรือสถาบันอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ยอมรับว่ามีความโดดเด่นตามมาตรฐานของ ESG ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยกองทุน ONE-THAIESG ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนจะใช้ SETESG TRI เป็นเกณฑ์มาตรฐานสะท้อนความเคลื่อนไหวของราคากลุ่มหลักทรัพย์กลุ่มดังกล่าว
“บลจ.วรรณ ในฐานะสมาชิกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมีความยินดีจะร่วมเสนอขายกองทุน ONE-THAIESG เพื่อสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่ได้รับมาตรฐาน ESG โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมบริหารจัดการรายปี ตั้งแต่วันที่14 ธ.ค.66-13 ธ.ค.67 ทั้งนี้ บลจ.วรรณ จะเปิดเสนอขายเพียง 3 วันทำการระหว่าง 8-13 ธ.ค. เพราะเล็งเห็นถึงจังหวะการเข้าลงทุนในราคาที่ดี ซึ่งกองทุน ONE-THAIESG เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถถือลงทุนได้ในระยะยาว (8 ปี นับวันชนวัน) เพื่อรับสิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านการลงทุนหุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG)” นายพจน์ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ของกองทุน ONE-THAIESG สามารถลงทุนได้มากกว่า 100 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่ผ่านคะแนน SET ESG Ratings ตั้งแต่ A ขึ้นไปและผ่านการคัดเลือกจาก บลจ.วรรณ เรียบร้อยแล้ว บ่งชี้ได้ว่า บริษัทเหล่านี้มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีความน่าเชื่อถือและโอกาสการเติบโต ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้นักลงทุนได้มีโอกาสในการลงทุนในบริษัทที่มีการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาลในกองเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยถัดจากนี้ บลจ.วรรณ มองว่า ตลาดหุ้นไทยมี downside ที่เริ่มจำกัด หลังถูกเทขายมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-4 ธ.ค.66 แตะ 25 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวมาเลยเซียและจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องจะเป็นอีกแรงหนุนในระยะข้างหน้า จากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า นอกจากนี้ การเดินหน้าทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดปัจจุบัน และความชัดเจนโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลช่วยสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุน อย่างไรก็ดี บลจ.วรรณ คาดว่าแรงกดดันจากนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ค่อนข้างจำกัดมากแล้ว หลังจากการประชุมคณะคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งสุดท้ายของปี 2566 ณ วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี สอดคล้องกับบริบททางเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัว แรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บลจ.วรรณ มองว่า ในระดับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันถือว่าอยู่ในจุดที่สูงสุดเรียบร้อย อีกทั้งเฟดมีโอกาสพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งปีหลัง (2567) ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก
นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มการปรับลดผลกำไรบริษัทจดทะเบียน (SET EPS) ในปี 2023 ค่อนข้างจำกัด หลังจากที่ถูกปรับลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนปัจจัยลบจากในและต่างประเทศไปแล้วพอสมควร ขณะที่ Valuation หุ้นไทยเริ่มอยู่ในระดับที่น่าสนใจ (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี) ดังนั้น ในปีหน้า บลจ.วรรณ มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม ESG โดยกองทุน ONE-THAIESG เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกองทุนหุ้นไทยที่น่าสนใจ พร้อมรับสิทธิลดหย่อนทางภาษีเพิ่มเติมสูงสุด 1 แสนบาท หรือไม่เกิน 30% ของรายได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร.-511-สำนักข่าวไทย