“TikTok for OTOP” เฟสแรก ยกระดับทักษะดิจิทัล OTOP กว่า 530 ราย

กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – กรมพัฒนาชุมชน จับมือ TikTok เผยโครงการ “TikTok for OTOP”เฟสแรก ยกระดับทักษะดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการ OTOP กว่า 530 ราย สินค้ากว่า 1,600 รายการ เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล หนุนธุรกิจท้องถิ่น


ภายใต้โครงการสนับสนุนท้องถิ่นของ TikTok ด้วยการลงทุนมูลค่า 12.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (SMB) มากกว่า 120,000 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจเหล่านี้สู่ตลาดออนไลน์ ช่วยให้พวกเขาเติบโตได้ในยุคดิจิทัล TikTok ได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน ภายใต้กระทรวงมหาดไทย ต่อยอดความมุ่งมั่นในระดับภูมิภาค ในการเข้าถึงตัวแทน OTOP กว่า 530 ราย จากทั่วประเทศ เพื่อมอบทักษะด้านดิจิทัล รวมถึงเครดิตการโฆษณาและการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจ พร้อมตอบโจทย์ความท้าทายที่ต้องก้าวตามให้ทันเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

TikTok ได้นำผู้ประกอบการ OTOP กว่า 530 ราย พร้อมสินค้ากว่า 1,600 รายการเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซในการดำเนินการระยะแรก ผ่าน TikTok Shop ที่ช่วยตอบโจทย์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมมอบทักษะความรู้ด้านดิจิทัลที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านธุรกิจให้กับธุรกิจ OTOP ผ่านแนวคิด Smart Economy และ Smart People ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินโครงการ TikTok for OTOP ภายใต้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน พันธมิตรคนสำคัญผู้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มและผู้ประกอบการในชุมชน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกรมพัฒนาชุมชนในการทำให้ ‘เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา


นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – Thailand, TikTok กล่าวว่า TikTok ให้ความสำคัญในการสนับสนุนชุมชนตามโครงการสนับสนุนท้องถิ่น (Support Local Programme) เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล TikTok เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจของสินค้า OTOP จึงต้องการยกระดับความสามารถ และปลดล็อกโอกาสให้กับผู้ประกอบการ OTOP ให้สามารถนำสินค้าที่มีคุณภาพมาอยู่บนแพลตฟอร์มเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเติบโต และเข้าสู่การเป็นสังคมเศรษฐกิจแบบดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ
 
การดำเนินการในระยะแรก คือการเดินหน้าพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการ OTOP ผ่านการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลในชุมชนต่างๆ ใน 5 ภูมิภาค การสอนเปิดร้านใน TikTok Shop พร้อมหลักสูตรขายยังไงให้ปัง การประกวดสร้างคอนเทนต์ขายสินค้ากับแคมเปญ #ช้อปได้ทุกถิ่น ที่เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบได้มีโอกาสในการร่วมงานกับครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม TikTok ในการกระตุ้นยอดขายให้แก่ร้านค้าและสร้างการรับรู้สินค้าในกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ทั่วประเทศ

นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าเพื่อพัฒนาให้ธุรกิจและสินค้า OTOP มีความทันสมัยและสามารถเติบโตมากยิ่งขึ้น พร้อมแข่งขันในเวทีระดับประเทศและระดับโลก กรมพัฒนาชุมชนจึงให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นอย่างมาก โดยได้ร่วมมือกับ TikTok เพื่อทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทยได้อย่างมหาศาล ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยแสดงออกถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่ดีงามของแต่พื้นที่ได้เป็นอย่างดี
 
โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการ TikTok for OTOP สามารถปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลได้เป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมเศรษฐกิจแบบดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังแสดงออกถึงการปลดล็อกโอกาสให้กับสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับนานาชาติที่มาพร้อมศักยภาพอันแข็งแกร่งในเรื่องของการสร้างรายให้แก่ชุมชนและประเทศ ซึ่งสามารถสร้างรายได้กว่า 8.5 ล้านบาท ให้กับ OTOP จำนวน 300 รายการทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 3 เดือน
 
นายฤทธิชัย ปันจันตา แบรนด์ สมุนไพร สุเมธแผนโบราณ มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากผ่านการ Live สดขายสินค้าบน TikTok กล่าวว่า ทักษะทางดิจิทัลที่ได้รับจากการฝึกอบรมโดย TikTok และกรมพัฒนาชุมชน ไม่เพียงทำให้เข้าใจถึงการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดทางสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ และเปิดโอกาสทางอาชีพให้กับคนในชุมชน ได้เรียนรู้ทักษะทางดิจิทัลมากขึ้น ได้รับความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค และข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่มีประโยชน์ สามารถนำมาต่อยอดกับธุรกิจของเราได้
 
นายอัครวิทย์ เมฆเจริญ แบรนด์ Netafruit แบรนด์ผลไม้อบแห้งระดับพรีเมียมได้ใช้ประโยชน์จากรูปแบบการทำคอนเทนต์วิดีโอสั้นของ TikTok เพื่อทำการตลาด กล่าวว่า โครงการนี้สามารถช่วยให้เข้าถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและเครื่องมือต่างๆ และได้รับความรู้ที่จากการฝึกอบรม ซึ่งไม่เพียงเสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่รู้จักในระดับประเทศช่วยให้มีฐานลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]

ผู้ต้องหา 2 รายสุดท้าย คดีตึก สตง.ถล่ม เข้ามอบตัว ยืนยันความบริสุทธิ์

สน.บางซื่อ 19 พ.ค. – บริษัท ว.และสหายฯ ผู้ต้องหาคดีตึก สตง. ถล่ม 2 รายสุดท้าย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางซื่อ ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ เพราะดูแลแค่เรื่องของระบบไฟฟ้าและประปา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคาร นายพลเดช กรรมการบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด และนางประณีต ในฐานะนิติบุคคล บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจได้ออกหมายจับ 17 หมายจับ และผู้ต้องหาส่วนใหญ่ 15 ราย เดินทางเข้าพบตำรวจ ก่อนจะถูกนำตัวฝากขังต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ที่ส่งทนายความขอเลื่อนเข้าพบมาเป็นวันนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากต้องการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจ นายพลเดช เปิดเผยว่า ไม่กังวลว่าวันนี้อาจจะไม่ได้ประกันตัว และต้องเข้าเรือนจำ เพราะเป็นกระบวนการขั้นตอนของตำรวจ วันนี้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และได้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมายืนยัน พร้อมต่อสู้คดี ขณะที่นางประณีต […]

ฆ่าดีเจเตเต้

รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

19 พ.ค. – รวบแล้ว 1 ผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” คาดวันนี้ (19 พ.ค.) จะมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกอย่างน้อย 3 คน หลังวานนี้ (18 พ.ค.) พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกทิ้งกลางไร่อ้อยเมืองกาญจนบุรี ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบก่อนหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ออกมาอัดคลิปลงเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชาย วานนี้ (18 พ.ค.) พบกลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อย เชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยเวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยคนที่เจอศพคือน้าชายของนายกอล์ฟ ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ เป็นผู้ชายนอนตะแคง […]

อุตุฯ เผยไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย