กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – กรมพัฒนาชุมชน จับมือ TikTok เผยโครงการ “TikTok for OTOP”เฟสแรก ยกระดับทักษะดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการ OTOP กว่า 530 ราย สินค้ากว่า 1,600 รายการ เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล หนุนธุรกิจท้องถิ่น
ภายใต้โครงการสนับสนุนท้องถิ่นของ TikTok ด้วยการลงทุนมูลค่า 12.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (SMB) มากกว่า 120,000 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจเหล่านี้สู่ตลาดออนไลน์ ช่วยให้พวกเขาเติบโตได้ในยุคดิจิทัล TikTok ได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน ภายใต้กระทรวงมหาดไทย ต่อยอดความมุ่งมั่นในระดับภูมิภาค ในการเข้าถึงตัวแทน OTOP กว่า 530 ราย จากทั่วประเทศ เพื่อมอบทักษะด้านดิจิทัล รวมถึงเครดิตการโฆษณาและการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจ พร้อมตอบโจทย์ความท้าทายที่ต้องก้าวตามให้ทันเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
TikTok ได้นำผู้ประกอบการ OTOP กว่า 530 ราย พร้อมสินค้ากว่า 1,600 รายการเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซในการดำเนินการระยะแรก ผ่าน TikTok Shop ที่ช่วยตอบโจทย์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมมอบทักษะความรู้ด้านดิจิทัลที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านธุรกิจให้กับธุรกิจ OTOP ผ่านแนวคิด Smart Economy และ Smart People ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินโครงการ TikTok for OTOP ภายใต้การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน พันธมิตรคนสำคัญผู้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างแพลตฟอร์มและผู้ประกอบการในชุมชน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกรมพัฒนาชุมชนในการทำให้ ‘เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – Thailand, TikTok กล่าวว่า TikTok ให้ความสำคัญในการสนับสนุนชุมชนตามโครงการสนับสนุนท้องถิ่น (Support Local Programme) เพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล TikTok เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจของสินค้า OTOP จึงต้องการยกระดับความสามารถ และปลดล็อกโอกาสให้กับผู้ประกอบการ OTOP ให้สามารถนำสินค้าที่มีคุณภาพมาอยู่บนแพลตฟอร์มเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเติบโต และเข้าสู่การเป็นสังคมเศรษฐกิจแบบดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ
การดำเนินการในระยะแรก คือการเดินหน้าพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการ OTOP ผ่านการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลในชุมชนต่างๆ ใน 5 ภูมิภาค การสอนเปิดร้านใน TikTok Shop พร้อมหลักสูตรขายยังไงให้ปัง การประกวดสร้างคอนเทนต์ขายสินค้ากับแคมเปญ #ช้อปได้ทุกถิ่น ที่เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบได้มีโอกาสในการร่วมงานกับครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม TikTok ในการกระตุ้นยอดขายให้แก่ร้านค้าและสร้างการรับรู้สินค้าในกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ทั่วประเทศ
นายชูชีพ พงษ์ไชย รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าเพื่อพัฒนาให้ธุรกิจและสินค้า OTOP มีความทันสมัยและสามารถเติบโตมากยิ่งขึ้น พร้อมแข่งขันในเวทีระดับประเทศและระดับโลก กรมพัฒนาชุมชนจึงให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นอย่างมาก โดยได้ร่วมมือกับ TikTok เพื่อทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นของไทยได้อย่างมหาศาล ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยแสดงออกถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่ดีงามของแต่พื้นที่ได้เป็นอย่างดี
โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการ TikTok for OTOP สามารถปรับตัวเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลได้เป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมเศรษฐกิจแบบดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังแสดงออกถึงการปลดล็อกโอกาสให้กับสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับนานาชาติที่มาพร้อมศักยภาพอันแข็งแกร่งในเรื่องของการสร้างรายให้แก่ชุมชนและประเทศ ซึ่งสามารถสร้างรายได้กว่า 8.5 ล้านบาท ให้กับ OTOP จำนวน 300 รายการทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 3 เดือน
นายฤทธิชัย ปันจันตา แบรนด์ สมุนไพร สุเมธแผนโบราณ มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากผ่านการ Live สดขายสินค้าบน TikTok กล่าวว่า ทักษะทางดิจิทัลที่ได้รับจากการฝึกอบรมโดย TikTok และกรมพัฒนาชุมชน ไม่เพียงทำให้เข้าใจถึงการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดทางสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ และเปิดโอกาสทางอาชีพให้กับคนในชุมชน ได้เรียนรู้ทักษะทางดิจิทัลมากขึ้น ได้รับความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค และข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่มีประโยชน์ สามารถนำมาต่อยอดกับธุรกิจของเราได้
นายอัครวิทย์ เมฆเจริญ แบรนด์ Netafruit แบรนด์ผลไม้อบแห้งระดับพรีเมียมได้ใช้ประโยชน์จากรูปแบบการทำคอนเทนต์วิดีโอสั้นของ TikTok เพื่อทำการตลาด กล่าวว่า โครงการนี้สามารถช่วยให้เข้าถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและเครื่องมือต่างๆ และได้รับความรู้ที่จากการฝึกอบรม ซึ่งไม่เพียงเสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่รู้จักในระดับประเทศช่วยให้มีฐานลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น.-516-สำนักข่าวไทย