ย้ำ กรมพัฒนาชุมชน สร้างโอกาส-รายได้ ให้ปชช.

กรมการพัฒนาชุมชน 11 ต.ค.-มท.1 ตรวจเยี่ยมกรมการพัฒนาชุมชน เน้นย้ำ ส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างโอกาส รายได้ ให้ประชาชนมีความสุข พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการกรมการพัฒนาชุมชน โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมให้การต้อนรับ

นายอนุทิน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนเป็นส่วนราชการสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่ประชาชน ทำให้คนไทย “อยู่ดี มีสุข และมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุข” โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางตามพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งหน้าที่หลักของกรมการพัฒนาชุมชน คือ การทำให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสในการพัฒนาฝีมือ ได้ใช้ภูมิปัญญาไทยมาช่วยสร้างโอกาส สร้างรายได้ สร้างอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว ช่วยทำให้รายได้หมุนเวียนกลับสู่ประเทศไทย เพราะผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่กรมการพัฒนาชุมชนสนับสนุนนั้น มาจากวัตถุดิบในประเทศ ประกอบรวมกับภูมิปัญญาของคนไทย นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์หรือสินค้า ส่งผลต่อเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้พึ่งพาตนเองได้ เริ่มตั้งแต่การสร้างค่านิยมให้คนไทยมาร่วมกันใช้สินค้าไทย ดังนั้น จึงเป็นงานสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันสร้างความต้องการซื้อสินค้าไทย (Demand) ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย


“งานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี ที่จัดขึ้นโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยในปีนี้ สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทยได้อย่างมหาศาล เพราะเราให้ความสำคัญกับการส่งเสริม และพัฒนาอาชีพ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าชุมชน หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า OTOP ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีความอยู่ดี กินดี และทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และสามารถดูแลครอบครัวของตนได้อย่างมีความสุข และสร้างชุมชนให้เข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น สิ่งสำคัญต่อไปคือการทำให้คนที่ซื้อสินค้า OTOP จะเป็น “Soft power” ในการนำมาซึ่งประโยชน์ใช้สอย ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อสินค้าเหล่านั้นมาเพราะความสงสาร” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอฝากกรมการพัฒนาชุมชนเป็นอีกแรงสำคัญให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนในอิสราเอล ลงไปดูแลถามไถ่ครอบครัว อย่างน้อยได้ลดความวิตกกังวล บรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวของผู้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งบริบทการทำงานของข้าราชการทุกคนต้องรวดเร็วว่องไว พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนปรับตัวอยู่เสมอตลอดเวลา

“ขอให้ข้าราชการ ยึดหลักการทำงาน ทันโลก ทันสมัย และ ทันท่วงที ในการขับเคลื่อน 10 นโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ให้ประสบความสำเร็จ และขอให้ประชาชน ผู้นำกลุ่ม องค์กร และภาคีเครือข่าย ที่ร่วมกันรับฟังนโยบายในวันนี้ ได้มั่นใจว่า กระทรวงมหาดไทยจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน ให้พี่น้องคนไทยมีความสุข และที่สำคัญตนจะทำให้กรมการพัฒนาชุมชนเป็นกรมที่เป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งของกระทรวงมหาดไทย ขอให้ทุกคนภูมิใจในความเป็นกรมการพัฒนาชุมชน ขอให้ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ท้ายสุดจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชนในประเทศอย่างยั่งยืน” นายอนุทิน ฯ กล่าวในช่วงท้าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย