กรุงเทพฯ 1 พ.ย.-ปลัดกระทรวงพลังงานระบุ 7 พ.ย.ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินจะลดลงยกแผง หรือจะลดเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 ในอัตรา 2.50 บาท/ลิตร รอความชัดเจนด้านนโยบาย จาก รมว.พลังงาน ด้านรถร่วม จี้ช่วยเหลือราคาค่าก๊าซเอ็นจีวี
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่าในขณะนี้รอนโยบายจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ว่า จะให้มีการลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจาก ที่ ครม.วันที่ 31 ต.ค.66 เห็นชอบให้ปรับลดภาษีสรรพสามิตเบนซิน 1 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน เริ่ม 7 พ.ย. ส่วนเรื่องของการลดราคาน้ำมันก็ให้กระทรวงพลังงานไปบริหารจัดการ ซึ่งที่แน่ชัดตามนโยบาย รมว.พลังงานตั้งแต่ต้นคือลดราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร เริ่ม 7 พ.ย. โดยเมื่อภาษีเบนซินลดลงก็ทำให้ภาษีแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 90 สตางค์ต่อลิตร ก็จะต้องมีการลดจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ราว 1.40 บาทต่อลิตร
“เดิม รมว.พลังงาน มีนโยบายลดเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 91 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้จักรยานยนต์และเกษตรกร แต่เมื่อก.คลังระบุว่าต้องลดภาษีทั้งกลุ่มเบนซิน 1บาทต่อลิตร ทำให้ทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทภาษีลดลงไปด้วย ก็รอดูนโยบายที่ชัดเจนว่าจะลดอะไรอย่างไร แต่หากลดราคาตัวอื่นไปด้วยก็อาจจะมีผลต่อเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขณะนี้มีฐานะติดลบ” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐกล่าวว่า ได้จัดทำคาดการณ์หลังลดราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทว่า คาดว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้น อาจจะเพิ่มจากที่ยอดใช้ขณะนี้เฉลี่ยเกือบ 7 ล้านลิตร/วัน เป็น 10 ล้านลิตร/วัน หรือ 15 ล้านลิตร/วัน ซึ่งก็จะทำให้ยอดจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันลดลง 3 เดือนรวม ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท แต่หากมีการลดราคากลุ่มเบนซินอื่นๆตามลงไปด้วย ก็จะกระทบฐานะกองทุนฯเพิ่มขึ้น และในเร็วๆนี้ จะประชุมผู้ค้าน้ำมันเพื่อบริหารจัดการสตอกน้ำมันรองรับนโยบายลดค่าครองชีพของประชาชน
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด (29 ต.ค.)ยังติดลบกว่า 74,292 ล้านบาท โดยแยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ กว่า28,938 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 45,354 ล้านบาท โดย วันที่ 31 ต.ค.66 เงินกองทุนน้ำมันจัดเก็บจากแก๊สโซฮอล์ 91,95 ที่ 2.80 บาท/ลิตร และอัตราภาษีสรรพสามิตจัดเก็บที่ 5.85 บาท/ลิตร ส่วนภาษีเบนซินจัดเก็บที่ 6.50 บาท/ลิตร
นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑลกล่าวว่าวันที่ 2 พ.ย.66 เวลา 09.00 น. กลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะ จะนำรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ประมาณ 200-300 คันไปที่กระทรวงพลังงาน เพื่อยื่นหนังสือถึงพลังงาน เรื่องความเดือดร้อนจาราคา เอ็นจีวี ที่ปรับขึ้น โดยยื่น 4 ข้อเสนอดังนี้ คือ 1.ขอให้ราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 12.74 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ 2.ขอให้ขยายระยะเวลา ของการใช้บัตรส่วนลดฯ เพิ่มเติมอีก 2 ปี 3.ขอให้ยกเลิกการกำหนดปริมาณการเติมก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน และ 4.ขอให้มีบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงที่ใช้น้ำมันดีเซล ของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ.–สำนักข่าวไทย