GGC ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ “GGC” ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.10 บาทต่อหุ้น แม้ว่าผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท ประเมินภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 ฟื้นตัว


นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566  ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ  มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 ให้แก่      ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายจากกำไรสะสมส่วนที่ยังไม่ได้จัดสรร ซึ่งผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาสามารถเครดิตภาษีเงินปันผลได้ในอัตรา 20/80 (เสียภาษีในอัตรา 20%) ถึงแม้ว่า     ผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายทั้งสิ้น 4,744 ล้านบาท ลดลง 37% จากปีก่อน จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามราคาวัตถุดิบที่ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ปัจจัยค่าเงินที่แข็งค่าในแถบเอเชีย และสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการเตรียมพร้อม วางแผนการดำเนินงานธุรกิจ เพื่อรับมือกับอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ไว้ ทำให้ไตรมาส 2/2566 นี้ ยังคงสามารถปิดกำไรสุทธิเป็นบวกได้ที่ 7 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มตลาดและธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 คาดว่า ความต้องการใช้ เมทิลเอสเทอร์ หรือ B100 น่าจะทรงตัว เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 นี้ จะเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลสำหรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าไม่สูงมากนัก แต่คาดว่า อาจจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 ที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ขณะที่ความต้องการใช้ แฟตตี้แอลกอฮอล์  มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากครึ่งแรกของปี 2566 แม้ว่าจะยังมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ตลาดโลกต่างๆ โดยคาดว่า กลุ่มผู้ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล (Home and Personal Care) โดยเฉพาะผู้ผลิตครีมบำรุงผิว อาจจะเริ่มกลับมาซื้อ แฟตตี้แอลกอฮอล์ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าก่อนเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาสและเทศกาลวันปีใหม่


ในฝั่งความต้องการใช้ กลีเซอรีน มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นสอดรับกับการที่เริ่มเข้าสู่ฤดูกาล High Season ของกลุ่มผู้ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย เช่นเดียวกันกับเอทานอล ที่คาดว่า มีแนวโน้มความต้องการใช้ที่ฟื้นตัว เนื่องจากจากไตรมาสที่ 4 ของปีเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว คาดว่า ส่งผลให้มีการใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นด้วย

 อุปสงค์ความต้องการใช้เมทิลเอสเทอร์ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ส่วนอุปทานของตลาดเมทิลเอสเทอร์ยังคงทรงตัว เพราะไม่มีการผลิตเพิ่มเข้ามา โดย GGC ประเมินอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของอุตสาหกรรมจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 50% จากระดับราคาเป็นไปตามกลไกของตลาดราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ (CPO-DIT)

ส่วน แฟตตี้แอลกอฮอล์จากธรรมชาติ (Natural Fatty Alcohols) คาดว่าความต้องการใช้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งแรกของปี 2566 แม้ว่าจะยังมีปัจจัยกดดันต่อกำลังซื้อจากความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย และความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาซื้อสินค้าเพื่อเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังมากขึ้น หลังจากราคาวัตถุดิบน้ำมันปาล์มดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่เริ่มมีการสตอกสินค้า เพื่อสำรองไว้ใช้ในการผลิตสินค้าสำหรับงานกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 ในช่วงวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม 2566 อีกทั้งในช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี เป็นช่วงฤดูกาล High Season ของกลุ่มผู้ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล (Home and Personal Care) โดยเฉพาะผู้ผลิตครีมบำรุงผิวที่มีความต้องการใช้ Long Chain แอลกอฮอล์ในช่วงฤดูหนาวมากขึ้น และผู้ผลิตน้ำหอมที่มีความต้องการใช้ Short Chain แอลกอฮอล์ เพื่อเตรียมสำหรับใช้ในการผลิตสินค้าก่อนเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลวันปีใหม่ ส่งผลให้ภาพรวมความต้องการซื้อ  ในตลาดผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


ขณะที่อุปทานโดยรวมของอุตสาหกรรมแฟตตี้แอลกอฮอล์ คาดว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย หยุดดำเนินการผลิตชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุง และมีการลดกำลังการผลิตลง ให้สอดคล้องกับอุปสงค์ที่ลดลงจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และราคาขายคาดว่ามีแนวโน้มทรงตัว เป็นไปตามราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPKO) ที่ทรงตัว

ส่วน กลีเซอรีน มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นสอดรับกับความต้องการ ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูกาล High Season ของกลุ่มผู้ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ส่วนนอุปทานโดยรวมปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์หลายราย กลับมาดำเนินการผลิตตามปกติ

ขณะที่ เอทานอล ความต้องการมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากจากไตรมาสที่ 4 ของปีเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้มีการใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น ส่วนอุปทานของตลาดเอทานอลแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากยังไม่มีการขยายกำลังการผลิตจากผู้ผลิตรายเดิม และผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่ตลาด ส่วนราคาขายอาจจะมีการปรับตัวลงเล็กน้อย จากราคาวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล อาทิ มันเส้นที่เริ่มปรับตัวลดลง

สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้ 4,744 ล้านบาท ลดลง 37% (YoY)และมี Adjusted EBITDA จำนวน 144 ล้านบาท ลดลง 82% (YoY) ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจาก Stock Gain & NRV จำนวน 5 ล้านบาท  มีกำไรสุทธิ 7 ล้านบาท (0.01 บาท/หุ้น) ลดลง 415 ล้านบาท หรือ 98% (YoY) ส่วนของผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้ 9,406 ล้านบาท ลดลง 37% (YoY)   EBITDA  297 ล้านบาท ลดลง 78% มีกำไรสุทธิ  47 ล้านบาท ลดลง 862 ล้านบาท หรือลดลง95% -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย