กรุงเทพ 5 มี.ค. – บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ประกาศทิศทางและเป้าหมายสำหรับปี 2568 ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ Transformation for Future Growth มุ่งเน้นการเติบโตใน 3 ธุรกิจหลัก ตั้งเป้ารายได้รวมปีละมากกว่า 20,000 ล้านบาท
นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า ปี 2568 ยังเป็นปีแห่งความท้าทาย แต่แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยแผนดำเนินงานในปี 2568 GGC คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้และการเติบโตจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและคาดการณ์อัตรากำไร EBITDA Margin ใกล้เคียงปัจจุบันประมาณ 4% สำหรับแผนงานในระยะ 5 ปี (2568-2572) ได้เตรียมความพร้อมขยายและสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจระยะยาวด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท โดยจะลงทุนใน BioChemicals และต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 แพลตฟอร์ม คือ 1.Food and Feed กลุ่มอาหาร 2.Cosmetics and Personal Care เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว 3.Pharmaceuticals เภสัชภัณฑ์ยา และ 4.Industrail Applications การใช้ในเชิงอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ปัจจุบัน GGC ไม่มีหนี้สินทางการเงิน มีสถานะการเงินที่แข็งแรง จึงได้ทบทวนโครงการลงทุนสำคัญเพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาว ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ Transformation for Future Growth โดยดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน ด้วยการปรับเปลี่ยนกลุ่มธุรกิจหลักจากธุรกิจพลังงานชีวภาพ(BioEnergy)ไปสู่ธุรกิจเคมีชีวภาพ(BioChemical)ซึ่งยังมีความต้องการและมีแนวโน้มเติบโตในอนาคตรวมถึงเร่งแสวงหาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม(High Value Product)ที่ให้ผลตอบแทนสูงและตอบสนองความต้องการของตลาดเข้ามาเติมเพื่อให้ GGC รักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน เติบโตอย่างยั่งยืนด้วย 3 ธุรกิจหลักคือ 1.Portfolio Transformation:Transform BioEnergy to BioChemicals บริษัทมีมาตรการบริหารจัดการต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย ปรับโครงสร้างทางธุรกิจโดยมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพให้มากยิ่งขึ้น 2.Growth in BioChemicals by Capacity Expansion การขยายกำลังการผลิตของธุรกิจเคมีชีวภาพโดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์สำหรับของใช้ในบ้านและของใช้ส่วนตัวเนื่องจากความได้เปรียบในการเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวในประเทศ และ3.Growth in Specialty Platform with Asset Light Strategy การเติบโตไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบลดการถือครองทรัพย์สินเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ GGC ยังได้เริ่มต้นปรับปรุงกระบวนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม โดยเริ่มต้นในปี 2568 ซึ่งโครงการลงทุนสำคัญใช้ระยะเวลาในการศึกษาและก่อสร้างประมาณ 4 ปี ใช้ระยะเวลาในการทดลองตลาดและสร้างฐานลูกค้าประมาณ 3-5 ปี ซึ่งจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว GGC จะเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมได้ในปี 2572 เป็นต้นไป
นายกฤษฎา ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายรายได้รวมปีละ 20,000 ล้านบาทด้วย ว่า จะเห็นตัวเลขนี้ได้ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้และจะสัมฤทธิ์ผลตัวเลขรายได้ 20,000 ล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปีแน่นอนซึ่งปัจจุบัน GGC มีรายได้ปีละ 19,000 ล้านบาท.-513-สำนักข่าวไทย
