GC เผยไตรมาส 2/66 ขาดทุน 5.59 พันล้านบาท 

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) เผยไตรมาส 2/66 ขาดทุนสุทธิ 5,591 ล้านบาท  รายได้รวม 146,731 ล้านบาท ใกล้เคียงกับในไตรมาส 1/66 แต่ปรับตัวลดลง 25% จากช่วงเดียวกันของปี 66 ตามยอดขายหดตัว เศรษฐกิจโลกชลอตัว 


จีซีแจ้ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเมิน  ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี2566 ยังคงมีความท้าทายจากสถานการณ์ต่างๆ ทั้งการยืดเยื้อของสถานการณ์ความ ขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครนน เกิดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและพลังงานต่อประเทศรัสเซียซึ่ง ส่งผลกระทบต่อทั้งอุปทานและราคาพลังงานทั่วโลกและนำาไปสู่ภาวะเงินเฟ้อและความกังวลทางเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่ว โลก อีกทั้งความต้องการอุปโภคบริโภคหลังจากการเปิดประเทศของประเทศจีนตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 มานั้นยังไม่ฟื้นตัวมาก จากภาพรวมดังกล่าว IMF ได้ปรับประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP โลกในปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 3.0(ณ เดือนกรกฏาคม 2566) 

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่น่าจะยังสามารถเติบโตได้อย่างช้าๆ แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนจากปัญหาเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น บริษัทฯ คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในปี2566 อยู่ที่เฉลี่ย 75-85เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในปีหน้าทั้งสถานการณ์ขาดแคลนพลังงานของโลก การฟื้นตัวของอุปสงค์โดยเฉพาะ การเปิดประเทศของประเทศจีนและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในครึ่งปีหลัง การควบคุมกำาลังการผลิตของ โอเปกพลัส รวมถึงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจและแรงกดดันจาก สถานการณ์ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย


สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของโรงกลั่น บริษัทฯ คาดว่าสถานการณ์ราคาและส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ในปี 2566 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากในปี2565 บริษัทยังคงบริหารจัดการรูปแบบการผลิต และสัญญาขายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงติดตาม สถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารจัดการการให้เหมาะสม ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของโรงอะโรเมติกส์บริษัทฯ คาดว่าส่วนต่างของผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับแนฟทาในปี 2566 จะปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 380-400เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน   

โดยรายได้รวมในไตรมาส 2/66 รายได้และกำไร ปรับตัวลดลงโดยหลักจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นโดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่นที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลดลงสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบที่ลดลง โดยการลดลงของค่าการกลั่น (GRM) จากระดับ 10.3 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 5.7 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาสนี้  แม้ว่ารายได้จากธุรกิจปิโตรเคมีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณขายและอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้

บริษัทฯ รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 6,835 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 28% จากไตรมาส 1/66 โดยหลักจากการอ่อนตัวลงของผลประกอบการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น โดยเฉพาะโรงกลั่นปรับตัวลดลงเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์หลักปรับตัวลดลง ในขณะที่ธุรกิจอะโรเมติกส์อ่อนตัวลงโดยหลักจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่ปรับตัวลดลง 


นอกจากนี้ ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์มีผลประกอบการอ่อนตัวลงเนื่องจากเปิดประเทศเต็มรูปแบบของประเทศจีนมีการฟื้นตัวของอุปสงค์ได้ช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางมีผลประกอบการดีขึ้นโดยหลักจากธุรกิจฟีนอล และผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษยังคงอยู่ในระดับเดียวกับในไตรมาสก่อนหน้า 

ทั้งนี้ ธุรกิจปิโตรเคมีโดยรวมยังคงอยู่ในภาวะอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความกดดันจากปัจจัยทั้งในด้านภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ปลายทางของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และการเริ่มดำเนินการของกำลังการผลิตใหม่ในตลาดโดยเฉพาะจากประเทศจีน ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนโดยเฉพาะในธุรกิจปิโตรเคมีได้รับผลกระทบ ส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้ จำนวน 405 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 

และมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน ผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง รายการพิเศษอื่นๆ) จำนวน 2,620 ล้านบาท 

โดยบริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Loss Net NRV) รวม 2,659 ล้านบาท ผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 327 ล้านบาท ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็นขาดทุน 1,047 ล้านบาท บริษัทฯมีการบันทึกรายการพิเศษในไตรมาส 2/66 ได้แก่ กำไรจากการขายสินทรัพย์สุทธิของบริษัท allnex โดยเป็นการขายและเช่ากลับคืน ทำให้รับรู้กำไรจากรายการดังกล่าวสุทธิที่จำนวน 485 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท