ทำเนียบฯ 25 ก.ค.- ครม. ยิ้มแก้มบาน IMD จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทย ปี 66 ขยับสูงขึ้นในลำดับที่ 30 เชื่อมั่นดึงดูดการลงทุนเข้าไทย เป็นห่วง วิทยาศาสตร์ สุขภาพ การศึกษา อันดับลดลงต่อเนื่อง
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทย โดยสถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ปี 2566 ขยับเพิ่มให้ไทยอยู่ในลำดับ 30 ของโลก จากลำดับ 33 ในปี 2565 จาก 64 เขตเศรษฐกิจ และเป็นลำดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียน นับว่าคะแนนตัวชี้วัด 4 กลุ่ม ดีขึ้นในทุกด้าน ดังนี้
- 1. ด้านสมรรถนะทางเศรษฐกิจ ลำดับ 16 ปรับดีขึ้นจากลำดับ 34 ในปี 2565 จากการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศดีขึ้น หลังจากการชะลอตัวในช่วงโควิด-19 และการส่งออกเริ่มฟื้น ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5
- 2. ด้านประสิทธิภาพภาครัฐ ลำดับ 24 ปรับดีขึ้นจากลำดับ 31 ในปี 2565 จากการใช้จ่ายภาครัฐ การบริหารสถาบัน และกฎระเบียบธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ด้านนโยบายภาษีและกรอบการบริหารสังคมมีอันดับลดลง เพราะผลจากการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลดลง
- 3. ด้านประสิทธิภาพภาคธุรกิจ ลำดับ 23 ปรับดีขึ้นจากลำดับ 30 ในปี 2565 จากด้านผลิตภาพตลาดแรงงาน การเงิน และทัศนคติและการให้ค่านิยมมีอันดับดีขึ้น โดยผู้ประกอบการของไทยมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้น และความสามารถในการใช้เครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยีดีขึ้น รวมถึงการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์และมูลค่าของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นด้วย ขณะที่ด้านการจัดการอยู่ในอันดับคงที่ เนื่องจากความกังวลต่อความล้มเหลวในการประกอบธุรกิจ
- 4. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ลำดับ 43 ปรับดีขึ้นจากลำดับ 44 ในปี 2565 จากโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีมีการตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ และการพัฒนาประสิทธิภาพของความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น ขณะที่โครงสร้างพื้นฐาน ด้านวิทยาศาสตร์ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการศึกษา มีอันดับลดลงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรทางการศึกษา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถือว่าความสำเร็จนี้ เป็นผลงานร่วมกันของทุกคนในรัฐบาล รวมไปถึงส่วนราชการที่ช่วยกันเดินหน้าประเทศไทย จนมีความก้าวหน้าในทุกมิติ หวังให้รัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาบริหารประเทศจะได้พิจารณาดำเนินการต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย
