สภาผู้บริโภคปลื้มช่วยผู้บริโภคสำเร็จ เสนอ 8 ข้อปราบมิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์

กรุงเทพฯ 21 ก.ค.-สภาผู้บริโภค เผยภาพรวมปัญหาผู้บริโภคทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2566 ใน 3 ไตรมาส  (1 ต.ค.65  – 30 มิ.ย.66) ได้รับเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 13,065 กรณี คิดเป็นมูลค่าความสำเร็จในการคุ้มครองผู้บริโภค 34.8 ล้านบาท เร่งระดมความเห็นเสนอ 8 แนวทางแก้ปัญหา มิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์สร้างความเสียหายกว่า 7 หมื่นล้านบาท ในปี 2565


นส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค  กล่าวว่า หมวดปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนมากที่สุด ใน 3 ไตรมาสปี 66 ได้แก่ ด้านสินค้าและบริการทั่วไป จำนวน 7,905 กรณี คิดเป็นร้อยละ 60.51 ส่วนใหญ่เป็นกรณีบริการบันเทิงของเรื่องสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ในปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงผังคอนเสิร์ต การสมัครสมาชิกแล้วไม่ได้รับสิทธิตามที่ระบุ การจัดงานที่ไม่ตรงตามโฆษณา รวมถึงกรณีโดนหลอกจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งกรณีที่ผู้บริโภคโดนเอาเปรียบจากการใช้บริการบันเทิง สภาผู้บริโภคได้ติดต่อและประสานงานกับบริษัทที่ถูกร้องเรียน ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและแนวทางการชดเชยเยียวยาความเสียหาย รวมทั้งการเสนอให้บริษัทออกนโยบายที่ชัดเจนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกหลักเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติเรื่องการทำสัญญาระหว่างภาคธุรกิจกับผู้บริโภค ถึงข้อกำหนดสิ่งที่ต้องระบุในสัญญาและสิ่งที่ห้ามระบุในสัญญา ส่วนกรณีซื้อสินค้าออนไลน์ทางสภาผู้บริโภคได้ให้คำปรึกษาผู้บริโภคถึงช่องทางและแนวทางการแจ้งความ รวมถึงช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย

ปัญหาผู้บริโภคที่มีผู้ร้องเรียนมากเป็นอันดับที่ 2 คือด้านการเงินและการธนาคาร 1,768 กรณี หรือร้อยละ 13.53  โดยส่วนใหญ่เป็นกรณีการทำประกันภัยโควิด – 19  สภาผู้บริโภคได้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาให้ผู้บริโภคที่ยื่นฟ้องคดีด้วยตนเอง ในกรณีที่บริษัทฯ ที่ไม่สามารถจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนได้ และเตรียมฟ้องคดีให้กับผู้บริโภค ส่วนกรณียื่นฟ้องทิพยประกันภัยขอยื่นเป็นคดีกลุ่มอยู่ระหว่างศาลนัดไต่สวนผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย และบริษัททิพยประกันภัย สามารถติดตามความคืบหน้าได้ทางเพจสภาองค์กรของผู้บริโภค


อันดับที่ 3 ของการร้องเรียน คือปัญหาด้านบริการสุขภาพ  1,333 กรณี หรือร้อยละ 10.20 ส่วนใหญ่เป็นกรณีผู้บริโภคซื้อบริการสุขภาพเป็นคอร์สที่จะได้ใช้บริการตามจำนวนครั้งที่ตกลงไว้ และได้จ่ายค่าบริการล่วงหน้าไปแล้ว ยังใช้บริการไม่ครบตามกำหนด  สภาผู้บริโภคจะเป็นตัวแทนผู้บริโภคในการฟ้องร้องเป็นคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ซึ่งจะมีการนัดหมายเพื่อเตรียมข้อมูลและหลักฐานต่อไป ส่วนเรื่องร้องเรียนที่เหลือมีทั้งการร้องเรียนปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน รวมถึงเอสเอ็มเอส (SMS) หลอกลวง การร้องเรียนผลิตภัณฑ์ที่ใช้คำอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง และยังมีเรื่องรถรับส่งนักเรียนที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เป็นต้น

สำหรับผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน หรือพบปัญหาผู้บริโภค สามารถปรึกษา – ร้องเรียนกับสภาผู้บริโภคได้ที่ เว็บไซต์ www.tcc.or.th เฟซบุ๊กอินบ็อกซ์ สภาองค์กรของผู้บริโภค ไลน์ออฟฟิเชียล @tccthailand อีเมล complaint@tcc.or.th หรือโทรศัพท์ 02 239 1839

 ส่วนประเด็นปัญหา มิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและผู้บริโภคต่อเนื่อง ในปี 2565 มีกว่า7 มื่นล้านบาท สภาผู้บริโภค ได้จัดเวทีระดมความคิดและขอความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เมื่อเร็วๆนี้ และเสนอ 8 ข้อเสนอ “แก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงิน” ได้แก่ เสนอให้กระทรวง ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส )จัดตั้งศูนย์อำนวยการในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงิน เช่นเดียวกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.),ขอให้กระทรวงดีอีเอสแต่งตั้งผู้แทนผู้บริโภคอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566,ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. )ติดตามการปฏิบัติการของธนาคารให้เป็นไปตาม พ.ร.ก. หากไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตาม พ.ร.ก. ธนาคารควรต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น,ธปท.จะต้องควบคุมหลักเกณฑ์การโอนเงินระหว่างประเทศให้มีจำนวนเงินขั้นต่ำเสนอเรื่องการป้องกันจากการเปิดบัญชีออนไลน์ รวมถึงการเปิดบัญชีธนาคารผ่านร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากเปิดบัญชีง่ายทำให้มีบัญชีม้า และขอให้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  ควบคุมและจำกัดการเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถือ ต่อ 1 หมายเลขบัตรประชาชน ขอให้สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สร้างกลไกการแจ้งเตือนเมื่อผู้บริโภคโอนเงินไปยังบัญชีมิจฉาชีพที่มีการแจ้งระงับไว้แล้ว (บัญชีม้า) และตำรวจต้องดำเนินคดีกับมิจฉาชีพที่ถูกจับกุมจากกรณีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อให้เป็นตัวอย่าง. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร