นนทบุรี 26 มี.ค.-อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประเมินแม้มีปัจจัยเสี่ยงภายนอกอยู่บ้าง แต่มั่นใจการส่งออกครึ่งปีหลัง ยังเติบโตดีอยู่ เตรียมประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกทบทวนตัวเลขการส่งออกไทยในช่วงปลายเดือน พ.ค.66 อีกครั้ง ยังมองว่ายอดส่งออกตลอดปีเป็นบวกร้อยละ 1-2
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกอาจยังไม่สดใสนัก แต่ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น โดยปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐล้มเป็นปัญหาแทรกซ้อนขึ้นมาจากเศรษฐกิจโลก จึงต้องมีการหารือพูดคุยกับภาคเอกชนเพิ่ม โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนข้อมูลแลกเปลี่ยนใกล้ชิด ซึ่งกรมฯ ได้มีการเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร (ThaiFex) ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 66 จะมีการเรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ประเมินตัวเลขการส่งออกอีกครั้ง ซึ่งเวลานี้ในแต่ละตลาดเริ่มมีการทบทวนประเด็นที่จะส่งผลกระทบกับการส่งออกแล้ว แต่ตัวเลขการส่งออกในภาพรวมยังคงไว้ที่ ร้อยละ 1-2
นอกจากนี้ ขณะที่ปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐล้ม เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นในตลาดสหรัฐ จนทำให้เกิดความตื่นตระหนก แต่สถาบันการเงินดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTB) โดยเฉพาะในยุโรปที่มีการออกระเบียบที่ปฎิบัติที่มีความยุ่งยาก ทำให้ต้องมีการปรับตัวและใช้ความพยายามสูงขึ้น หากต้องการทำการค้ากับประเทศเหล่านั้น ผู้ประกอบการไทยจึงต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ปรับตัวได้ทัน
“ยอมรับว่าภาคการส่งออกไทยเท่าที่กรมฯพูดคุยจะกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่าแบงก์ล้มในสหรัฐหรือการทำสงครามยืดเยื้อของ 2 ประเทศรัสเซียและยูเครน เพราะหากอัตราแลกเปลี่ยนไม่นิ่งการทำการค้าจะผันผวนตามไปด้วย ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยจะต้องเร่งหาตลาดใหม่ๆทดแทน ยิ่งขณะนี้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเมล็ดพลาสติกกำลังประสบปัญหาทางจีนชะลอการนำเข้า เรื่องจากจีนผลิตได้เอง ทำให้สินค้ากลุ่มเมล็ดพลาสติกไทยจะต้องเร่งหาใหม่ทดแทน แต่กลุ่มสินค้าไทยที่ยังเติบโตตีอเนื่อง คือ อาหารสดและแปรรูปรวมถึงผลไม้ไทย ยังมีความต้องการในตลาดโลกค่อนข้างมาก”นายภูสิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย