มอเตอร์เวย์สาย 6 พร้อมเปิดเส้นทางเลี่ยงเมือง 80 กม.ปลายปี 66

กรุงเทพ 11 ก.พ.- กรมทางหลวง มั่นใจเร่งรัดงานก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ยืนยันเปิดให้ประชาชนใช้งานฟรี ช่วงปากช่อง-ทางเลี่ยงเมืองโคราช ระยะทาง 80 กิโลเมตร ปลายปี 2566


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีการผยแพร่ข่าวว่าการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช ว่ามีความล่าช้ากว่ากำหนดเดิมมาก และจะก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนั้น
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน จึงขอชี้แจงรายละเอียด ขั้นตอนการก่อสร้างภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินเพิ่ม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องสรุปดังนี้

โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สาย บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ระยะทาง 196 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดนครราชสีมาประตูสู่ภาคอีสาน ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น บรรเทาความแออัดหนาแน่นของถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพในปัจจุบัน


ในปี 2559 คณะรัฐมนตรีอนุมัติกรอบวงเงินก่อสร้างงานโยธามอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช รวมทั้งสิ้น 69,970 ล้านบาท แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 40 สัญญา กรมทางหลวง ได้ทำการออกประกวดราคาทั้ง 40 สัญญา ในช่วงปี 2559-2560 วงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญารวม 59,410 ล้านบาท ต่ำกว่ากรอบวงเงินที่ ครม. อนุมัติ 10,560 ล้านบาท

งานส่วนใหญ่เริ่มลงมือก่อสร้างในปี 2560 ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 24 สัญญา และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 16 สัญญา ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคที่จำเป็นต้องแก้ไขแบบก่อสร้าง ทำให้ค่างานเพิ่มขึ้นมากกว่าวงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญา โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัด กำชับติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดใช้งานมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ตลอดเส้นทางโดยเร็ว โดยเน้นย้ำถึงคุณภาพของงานให้ได้ตามมาตรฐาน ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมภิบาลอย่างเคร่งครัด

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นต้องมีการปรับแก้แบบและเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งโครงการนี้ได้ออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 2551 แล้วมาก่อสร้างในปี 2560 สภาพพื้นที่จริงได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ต้องแก้ไขปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพของพื้นที่ในปัจจุบัน และต้องปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับโครงสร้างสาธารณูปโภค ข้อกำหนด หรือความจำเป็นของหน่วยงานที่โครงการตัดผ่าน รวมทั้งต้องทำการปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางอยู่ในปัจจุบัน


เมื่อต้องมีการปรับรูปแบบเพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคดังกล่าว ทำให้เกิดมีค่างานเพิ่มขึ้นมากเกินสัญญาก่อสร้าง ดังนั้นตั้งแต่ปี 2563 กรมทางหลวง จึงได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ รัดกุม เพราะเป็นประเด็นที่ซับซ้อน และเกิดขึ้นตั้งแต่การเริ่มก่อสร้างในปี 2560 จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรกทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ทั้งด้านวิศวกรรมงานทาง และโครงสร้างขนาดใหญ่ เพื่อยืนยันความถูกต้อง เหมาะสม ความแข็งแรง ของรูปแบบที่มีการแก้ไข และต้องประหยัดคุ้มค่า โดยมีหน่วยงานภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม อาทิ อาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำ สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่หน้างานจริงทุกสัญญาที่มีประเด็นปัญหา ชุดที่ 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านระเบียบกฎหมาย รวมทั้งการบริหารสัญญา เพื่อให้การดำเนินการต่อ มีความถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยมีหน่วยงานภายนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้ อาทิ อัยการสูงสุด กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ ร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นอกจากนี้กรมทางหลวง ยังได้ทำหนังสือหารือกรมบัญชีกลางอีก 2 ครั้ง เพื่อสอบถาม และขอแนวทางในการดำเนินการตามระเบียบว่าการพัสดุ กรณีที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหา เพื่อประโยชน์ทางราชการเป็นที่สุด

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณ ในส่วนของค่าก่อสร้างงานโยธาที่ยังไม่ได้ดำเนินการ จำนวน 12 สัญญา วงเงิน 4,970.710 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ภายในกรอบวงเงินทั้งโครงการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมที่ได้อนุมัติไว้ เมื่อปี 2559

สำหรับขั้นตอนกระบวนการหลังจากนี้ กรมทางหลวงจะต้องทำการแก้ไขสัญญา ตามวงเงินที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ตั้งแต่การแก้ไขแบบก่อสร้าง การตกลงราคาและเวลาทำการ รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งกรมทางหลวงจะดำเนินการทุกขั้นตอน อย่างรอบคอบ รัดกุม ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงทำการลงนามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมกับผู้รับจ้าง และเดินหน้าก่อสร้างทันทีในเดือนมีนาคม 2566 โดยคำนึงถึงคุณภาพของงาน การก่อสร้างที่ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และหลักการทางวิศวกรรม และมีความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการก่อสร้างเป็นสำคัญ

สำหรับงานทั้ง 12 สัญญา ที่ต้องเดินหน้าต่อ กรมทางหลวงได้พิจารณาวางแผนเร่งรัดการก่อสร้างให้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยขอความร่วมมือผู้รับจ้างให้เพิ่มชุดเครื่องจักร คน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มากขึ้น แต่เนื่องจากงานที่เหลือหลายสัญญา เป็นงานก่อสร้างสะพาน และงานโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณงานมากมีความยุ่งยากซับซ้อน ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างนาน เช่น สัญญาที่ 21 สัญญาที่ 22 ในช่วงสระบุรี-ปากช่อง ต้องใช้เวลาก่อสร้างเกือบ 2 ปี ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ให้เสร็จภายในเวลา 6 เดือน ตามที่เป็นข่าว

สรุประยะเวลาการก่อสร้างส่วนที่เหลือ ของแต่ละสัญญา ทั้ง 12 สัญญา ตามแผนงานที่เร่งรัดอย่างเต็มที่ ดังนี้

  • สัญญาที่ 1 ใช้เวลา 22 เดือน
  • สัญญาที่ 2 ใช้เวลา 12 เดือน
  • สัญญาที่ 4 ใช้เวลา 22 เดือน
  • สัญญาที่ 5 ใช้เวลา 9 เดือน
  • สัญญาที่ 18 ใช้เวลา 13 เดือน
  • สัญญาที่ 19 ใช้เวลา 12 เดือน
  • สัญญาที่ 20 ใช้เวลา 11 เดือน
  • สัญญาที่ 21 ใช้เวลา 23 เดือน
  • สัญญาที่ 23 ใช้เวลา 23 เดือน
  • สัญญาที่ 24 ใช้เวลา 4 เดือน
  • สัญญาที่ 34 ใช้เวลา 9 เดือน
  • สัญญาที่ 39 ใช้เวลา 9 เดือน

นอกจากการก่อสร้างงานโยธาแล้ว โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ยังมีงานติดตั้งระบบต่างๆ เช่น ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง M-Flow ระบบบริหารควบคุมจราจร ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าตามสายทาง ระบบโครงข่ายสื่อสารข้อมูลด้วยใยแก้วนำแสงตลอดเส้นทาง พร้อมทั้งงานอาคารสำนักงาน ศูนย์ควบคุม และองค์ประกอบต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ซึ่งกรมทางหลวงได้ทยอยส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับเอกชนคู่สัญญา PPP เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 คาดว่าจะสามารถเริ่มทดสอบระบบทยอยเปิดให้บริการบางส่วนในปี 2567 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568 ต่อไป

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวตอนท้ายว่า ขอขอบคุณ ท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติวงเงินเพิ่ม และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้กำชับ ติดตาม เรื่องนี้มาโดยตลอด ต่อจากนี้กรมทางหลวงจะเดินหน้าเร่งรัดก่อสร้างมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยในปลายปี 2566 นี้ ยืนยันว่าการก่อสร้างสัญญาที่ 39 ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างต่ออีก 9 เดือน ที่ อ.ขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา แล้วเสร็จสมบูรณ์แน่นอน จะทำให้ประชาชนสามารถทดลองใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ฟรี ตั้งแต่ อ.ปากช่อง ถึงสุดปลายทางที่ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (สัญญาที่ 40) ยาวต่อเนื่องเป็นระยะทาง 80 กิโลเมตร ด้วยความสะดวก ปลอดภัย อย่างแน่นอน รวมทั้งทยอยเปิดทดลองใช้งานช่วงอื่นที่แล้วเสร็จในปี 2567 และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบตลอดเส้นทางทั้ง 196 กิโลเมตร ในปี 2568

ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ และเปิดประตูการค้าของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยได้อย่างสมบูรณ์เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย