ก.เกษตรฯ ยืนยันทุเรียนส่งออกไปญี่ปุ่นไม่ใช่ทุเรียนอ่อน

กรุงเทพฯ 17 พ.ค.-กรมวิชาการเกษตร
แจ้งบริษัทส่งออกทุเรียนชี้แจงผู้บริโภคที่อ้างพบทุเรียนอ่อนในญี่ปุ่น   ยืนยันเป็นทุเรียนแก่แต่ยังไม่สุกพร้อมรับประทาน
 ระบุต้องสร้างการรับรู้วิธีสังเกตทุเรียนสุกแก่ผู้นำเข้าและผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นด้วย


นายสุวิทย์  
ชัยเกียรติยศ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร
 เปิดเผยกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กโพสต์ภาพทุเรียนส่งออกจากไทยไปประเทศญี่ปุ่นพบทุเรียนอ่อนจำนวนมากจนห้างที่นำไปขายโดนลูกค้าตำหนิและขอคืนเงิน
ว่า  กรณีที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อทุเรียนสดจากห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่น  พบว่าเป็นทุเรียนแก่ที่ยังดิบอยู่  ต้องรอให้สุกก่อนโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3
5 วันจึงจะรับประทานได้ 
ซึ่งต้องมีการสร้างการรับรู้วิธีการสังเกตลักษณะความสุกแก่ของทุเรียนให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าทุเรียนจากประเทศไทยและผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่น
 โดยวิธีการสังเกตที่ง่ายสุดคือหากทุเรียนสุกพร้อมที่จะรับประทานจะเริ่มมีกลิ่นออกมาจากผลของทุเรียน
 อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาภาพลักษณ์การส่งออกผลไม้ของไทยซึ่งไม่เฉพาะเพียงแค่ทุเรียน 
ขอให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเพิ่มความระมัดระวังในการคัดคุณภาพของสินค้าและปฏิบัติตามเงื่อนไขการนำเข้าของประเทศคู่ค้าอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช  กรมวิชาการเกษตร
ได้ตรวจสอบรหัสของผู้ส่งออกตามที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่าเป็นสินค้าของบริษัทรายหนึ่งจึงได้ทำหนังสือแจ้งเตือนเพื่อให้บริษัทที่ส่งออกทุเรียนล็อตดังกล่าวปรับปรุงระบบการผลิตและการควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามประกาศกรมวิชาการเกษตร  เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ  และเงื่อนไขการจดทะเบียน
เป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.
2556  
โดยควบคุมคุณภาพของผลทุเรียนสดตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เรื่อง มาตรฐานทุเรียนของประเทศไทย พ.ศ.
2545
เพื่อป้องกันการปฏิเสธสินค้าในอนาคต 
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศไทยทั้งหมดในภาพรวม  และมีผลต่อการพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกทุเรียนสดไปนอกราชอาณาจักร 
ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ขอให้บริษัทพิจารณาแก้ไขปรับปรุงระบบการผลิตทุเรียนสดให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนด 
พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวกลับมาให้กรมวิชาการเกษตรทราบด้วย


อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวอีกว่า การส่งออกทุเรียนผลสดไปนอกราชอาณาจักรผู้ส่งออกต้องยื่นคำขอและจดทะเบียนผู้ส่งออกกับกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช  กรมวิชาการเกษตร 
เพื่อขอรับใบรับรองสุขอนามัยพืชแนบไปกับสินค้าก่อนส่งออก  โดยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช  กรมวิชาการเกษตร
จะทำการตรวจสอบศัตรูพืชทุเรียนที่โรงคัดบรรจุของผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับการรับรอง
GMP ซึ่งเป็นสถานที่รับผลทุเรียนสดและคัดผลทุเรียน  

สำหรับปี 2559
ประเทศไทยส่งออกทุเรียนผลสดไปญี่ปุ่นปริมาณ 
89,415 กิโลกรัม  คิดเป็นมูลค่ารวม 8,139,166 บาท  และเดือนเมษายน พฤษภาคม 2560 ปริมาณ 26,765 กิโลกรัม 
รวมมูลค่า
3,690,301 บาท-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย