คาดราคาปาล์มไทยขยับขึ้น หลังอินโดนีเซียลดส่งออก

นนทบุรี 18 ม.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายในติดตามแนวโน้มสถานการณ์ปาล์มน้ำมันตลาดโลก พบอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกเบอร์หนึ่งโลก สั่งปรับลดสัดส่วนการส่งออก และเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงาน คาดส่งผลราคาในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นแน่ แถมส่งผลดีต่อราคาในประเทศของไทยด้วย แนะเกษตรกรอย่าเร่งตัด ขอให้ตัดสุก จะได้น้ำหนักและราคาดีขึ้น ส่วนปัญหารอคิวจบแล้ว หลังลงไปแก้ปัญหา ล่าสุดโรงงานสกัดเปิดรับซื้อทุกโรง


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในตลาดโลกตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้ติดตามอย่างใกล้ พบว่า อินโดนีเซียที่เป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มอันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศปรับมาตรการกำกับดูแลการส่งออก จากเดิมที่กำหนดให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มในประเทศ 1 ส่วน จึงจะสามารถส่งออกน้ำมันปาล์มได้ 8 ส่วน เป็นให้จำหน่ายน้ำมันปาล์มในประเทศ 1 ส่วนต่อการส่งออกเหลือ 6 ส่วน มีผลตั้งแต่มกราคม 2566 เนื่องจากในช่วงต้นปี ผลผลิตจะออกน้อย และปีนี้คาดว่าจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงานเป็น B35 ที่กำหนดจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จึงคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกจะมีแนวโน้มขยับสูงขึ้น และจะส่งผลทำให้ราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศไทยปรับสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มที่อินโดนีเซียปรับลดสัดส่วนการส่งออกน้ำมันปาล์มลงมา และผลักดันให้มีการใช้น้ำมันปาล์มในภาคพลังงานเพิ่มขึ้น จะส่งต่อราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จากปริมาณซัพพลายที่ลดลง และจะส่งผลต่อเนื่องถึงราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในไทย จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่าเร่งตัดปาล์ม ขอให้ตัดปาล์มสุก เพื่อให้ได้น้ำหนักและราคาดีขึ้น


สำหรับสถานการณ์รถบรรทุกติดคิวหน้าโรงงาน ปัจจุบันได้ผ่อนคลายลงมากแล้ว และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ หลังจากที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ ได้เปิดรับซื้อตามปกติทุกโรงงานแล้ว ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันในแหล่งผลิตสำคัญเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยตั้งแต่ 0.10-0.60 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งเป็นผลมาจากการที่กรมฯ ได้ลงพื้นที่ไปประชุมหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับโรงงานสกัด ลานเท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อสรุปให้โรงสกัดทุกโรงเปิดรับซื้อและเดินเครื่องเต็มกำลัง และให้แจ้งแผนปรับปรุงปิดโรงงาน ซ่อมเครื่องจักรก่อนล่วงหน้า

หลังจากนี้ กรมฯ จะเดินหน้าตรวจสอบสถานการณ์การซื้อขายอย่างใกล้ชิดต่อไป หากพบเห็นผู้ประกอบการโรงสกัดและลานเทรายใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ หรือกดราคารับซื้อ จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด และหากเกษตรกรพบเห็นการกดราคา หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

แก้ปัญหาปากท้อง

นายกฯ สั่งการ ครม. เร่งแก้ปัญหาทุกมิติ เศรษฐกิจ-ปากท้อง

นายกฯ ขอบคุณ ครม.และทุกส่วนราชการ ร่วมเแจงอภิปรายฯ พร้อมนำข้อแนะนำของฝ่ายค้านมาแก้ไขปัญหา สั่งการ ครม. เร่งแก้เศรษฐกิจ ปากท้อง ปัญหาทุกมิติของประเทศและ ปชช.

ฮั้ว สว.

“ภูมิธรรม” ไม่หวั่นศาล รธน.รับวินิจฉัย ชงปมฮั้ว สว. ยันบริสุทธิ์ใจ

“ภูมิธรรม” ไม่หวั่น หลังศาล รธน.รับวินิจฉัย คำร้องแทรกแซงการทำงาน กกต. ปม ฮั้วเลือกสว. บอกรอคำวินิจฉัย ยันบริสุทธิ์ใจ-ทำตามหน้าที่-ไม่กังวล

จับแล้วคนร้ายชิงทอง 160 บาท พบมาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ

จับแล้วคนร้ายชิงทอง 160 บาท ภายในห้างสรรพสินค้าย่านบางปะอิน ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด 2 วัน เจอรถกระบะคนร้ายมาจอดดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ ตำรวจเตรียมแถลงวันนี้ (27 มี.ค.)

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง