จับมือ 30 พันธมิตเปิดกล่องของขวัญเพื่อ SMEs ปี66

กรุงเทพ 17 ม.ค.-ส.อ.ท. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภาคการเงินกว่า 30 องค์กร จัดกิจกรรม “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SMEs ปี 66” มุ่งให้ความรู้ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน การพัฒนาธุรกิจ การตลาด และนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ นำร่องกรุงเทพฯ 31 ม.ค.นี้ ก่อนสัญจรอีก 20 จังหวัดทั่วประเทศ


นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันวิสาหกิจนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต ( SMI ) กล่าวว่า จากสถานการณ์ของโลกที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากทั้งเทคโนโลยี, การแข่งขัน, สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ, การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ต้นทุนการผลิตที่กำลังจะปรับตัวสูงขึ้นทั้งจากพลังงานและค่าแรง จนสร้างผลกระทบต่อองค์กรทุกขนาดทุกระดับ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs 
       

ส.อ.ท. ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ จึงได้ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหาเครื่องมือและบริการต่างๆ ที่จะช่วยให้ SMEs สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจให้สามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ในส่วนภูมิภาคที่ขาดโอกาสหรือไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือจากภาครัฐได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งปัจจุบันกลุ่ม micro sme ที่เป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ที่ไม่มีความรู้ อาจถูกมิจฉาชีพหลอกลวง โดยเฉพาะการนำเรื่องบัญชีหรือภาษี มาเป็นข้อหลอกลวง ทำให้ SMEs ถูกหลอก เกิดความเสียหาย จึงได้มีแนวคิดในการรวบรวมบริการต่างๆ จากทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมและพัฒนา SMEs รวมถึงหลักสูตรความรู้ด้านบัญชีและภาษี ลงไปให้บริการในพื้นที่ โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า “เปิดกล่องของขวัญเพื่อ SMEs ปี 2566” โดยกำหนดจัดครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 31 ม.ค.66 และหลังจากนั้นจะสัญจรไปอีก 20 จังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะมี SMEs ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 2,000 ราย
        


นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวว่า บสย. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ภายใต้กระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อ ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อและแหล่งทุน จึงได้ขยายขอบเขตและบทบาทการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น ภายใต้แนวคิด TCG Fast & First รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs เคียงข้าง SMEs ก้าวเดินอย่างมั่นใจ เพื่อช่วยลูกค้าและลูกหนี้ บสย.ก้าวข้ามวิกฤต เยียวยาและฟื้นฟู พลิกฟื้นธุรกิจก้าวเดินใหม่อย่างมั่นใจสู่ความยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อผู้ประกอบการ SMEs ผ่านมาตรการ บสย.พร้อมช่วย ตลอดปี 66 ใน 3 มิติคือ มิติที่ 1 บสย.พร้อมช่วย “ค้ำประกันสินเชื่อ” พร้อมเป็นหลักประกัน เติมทุน เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ พรก. สินเชื่อฟื้นฟู ที่เป็นโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และโครงการบีไอ 7 ที่มีโครงการค้ำประกันหลากหลายคู่กับ

โครงการสินเชื่อของธนาคารต่างๆ ที่ออกมาช่วย SMEs ให้กลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้

มิติที่ 2 บสย.พร้อมช่วยเติมความรู้ทางการเงิน ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย.F.A. Center


 มิติที่ 3 บสย.พร้อมช่วยแก้หนี้ SMEs ลูกค้า บสย. ตามนโยบายรัฐบาลปีแห่งการแก้หนี้อย่างยั่งยืนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ผ่านมาตรการ 3 สี เพื่อช่วยลูกค้าแก้หนี้อย่างยั่งยืน 3 ระดับตามความสามารถในการผ่อนชำระ

นายโมกุล โปษยะพิสิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า SME D Bank จัดเตรียมบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” สำหรับสมาชิก ส.อ.ท. โดยได้เตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้่ยพิเศษวงเงินรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ กู้ได้สูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี ผ่อนสบายสูงสุดถึง 15 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 24 เดือน ที่สำคัญ มีโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อยื่นกู้สินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินตั้งแต่ 5-50 ล้านบาท หากได้รับอนุมัติและทำสัญญาภายในวันที่ 28 ก.พ.66 จะรับฟรี “บัตรเติมน้ำมัน” มูลค่าสูงสุดถึง 5,000 บาท
       

นอกจากนั้น SME D Bank ได้จัดเตรียมบริการ “ด้านพัฒนา” ผ่านโครงการ “SME D Coach” ให้คำปรึกษาธุรกิจครบวงจรจากโค้ชมืออาชีพ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถแจ้งความประสงค์รับบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” ได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ธนาคาร (www.smebank.co.th), LINE Official Account : SME Development Bank และสาขาของ SME D Bank ทั่วประเทศ เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357
      

นายชัยยศ ตันพิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK กล่าวว่าสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ธนาคารฯ แบ่งการสนับสนุนออกเป็น 3 เรื่อง คือ
1. การเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ด้วยวงเงินสินเชื่อฟื้นฟู
2. สนับสนุนการลงทุน ปรับปรุง หรือพัฒนาให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน ด้วยสินเชื่อเพื่อการปรับตัว
3. ให้เงินทุนทำธุรกิจสำหรับธุรกิจรายย่อย ด้วยสินเชื่อเอสเอ็มอีเอนกประสงค์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร