ภาครัฐ-เอกชนเห็นตรงกันเศรษฐกิจปี 66 ยังเติบโตต่อเนื่อง

อุบลราชธานี 26 พ.ย.-ภาครัฐและเอกชนเห็นตรงกันโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปี 66 เติบโตได้แน่ 3.5-4% โดยภาครัฐเตรียมแผนดันลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 5 ล้านล้านบาท และอาจไม่จำเป็นต้องใช้คนละครึ่งมากระตุ้นเศรษฐกิจ


นายอาคม​ เติมพิทยาไพสิษฐ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ปาฐกถาพิเศษ ฟื้นเศรษฐกิจไทย เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ที่ จังหวัดอุบลราชธานี ว่า​ มีความเป็นไปได้ที่​เศรษฐกิจ​ในปี​หน้าจะขยายตัวร้อยละ​ 3.5-4 และการส่งออกจะเติบโตร้อยละ​ 3-5 จากปีนี้ที่ส่งออกเติบโตร้อยละ​ 8​ ตามที่ภาคเอกชนคาด เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง​ ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565​ หลังผ่อนคลายการกลับมาเปิดประเทศทำให้การบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีขึ้น​ และได้อานิสงค์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า​ โดยมองว่า โครงการคนละครึ่งไม่จำเป็นต้องมีอีกเพราะเศรษฐกิจและการบริโภคสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ปีหน้าภาครัฐจะเร่งเดินหน้าการลงทุน​ ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์​ ลดต้นทุนการขนส่งให้ภาคเอกชนขณะนี้วางแผนเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไว้ที่ 5 ล้านล้านบาท​ ภายในระยะเวลา 8-10 ปี โดยจะเป็นการลงทุนทั้ง ในระบบสาธารณูปโภค​ พลังงาน​ ซึ่งเม็ดเงินในการระดมทุนจะมาจากการออกพันธบัตร เงินกู้และงบประมาณภาครัฐ และมาตรการของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนนั้น อยู่ระหว่างการระดมความคิดเห็น และจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวมาตรการเดิมที่เคยมี อาจจะลดลงได้


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เข้าใจหากรัฐบาลจะไม่มีโครงการคนละครึ่งอีกในช่วงปลายปี เพราะงบประมาณมีจำกัด ซึ่งงบประมาณต่างๆมาจากภาษีประชาชน และในช่วงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านั้น เรื่องปากท้องควรเป็นเรื่องแรกที่รัฐบาลใหม่จะต้องให้ความสำคัญ หากไม่เห็นความสำคัญของปากท้องอาจจะอยู่ได้ยาก โดยเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้เชื่อว่าจะดีขึ้นแล้ว และจะไม่เกิดสุญญากาศด้านนโยบายเศรษฐกิจ

ประเทศไทยเวลานี้ยังต้องเผชิญกับวิกฤติซ้อนวิกฤติหลายด้านทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นทุนที่สำคัญของผู้ประกอบการ และสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศได้ส่งผลกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายจังหวัด การทำงานที่มีความใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับภาคเอกชน มั่นใจจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิกฤติต่างๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงเครือข่ายของหอการค้าทั่วประเทศ มีส่วนในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และจากการทำงานที่ใกล้ชิดระหว่างภาคเอกชนกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ในรูปแบบของ กรอ. พาณิชย์ ทำให้การเจรจาการค้าเกิดผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ไปประเทศจีน และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การส่งออกในภาพรวมปีนี้ มั่นใจจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 8 สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ ร้อยละ 4

นอกจากนี้ หอการค้าไทยจะทำงานร่วมกับ BOI ในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมถึงซาอุดีอาระเบียที่มีการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว หอการค้าไทยพร้อมประสานให้มีการร่วมลงทุนระหว่าง 2 ประเทศได้ ซึ่งมีภาคธุรกิจหลายส่วนสนใจที่จะไปร่วมลงทุนในซาอุดีอาระเบียแล้ว รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากซาอุดีอาระเบียเข้ามายังประเทศไทยด้วย และจากเวทีการประชุมเอเปค ประเมินได้ว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในประเทศราว 6 แสนล้านบาท และการอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้กับชาวต่างชาติ ยังถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยในขณะนี้หอการค้าไทยยังอยู่ระหว่างการศึกษา และเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อให้ประชาชนในประเทศได้เข้าใจ ซึ่งการลงทุนของต่างชาติยังถือเป็นเรื่องจำเป็นของประเทศไทย ดังนั้น หอการค้าไทยคาดว่า GDP ของประเทศในปีหน้าจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.5-4 ในขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ ร้อยละ 3-5


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การปรับตัวของประเทศไทยและผู้ประกอบการไทย สู่ธุรกิจ BCG และการนำแนวทาง ESG มาใช้เพื่อความยั่งยืน” ว่า รัฐบาลไทยได้นำโมเดลเศรษฐกิจ BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว) มาเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงและมุ่งสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงเจตนารมณ์ไว้กับนานาชาติในปี 2564 เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ โดยโมเดล BCG มองไปไกลกว่าผลกำไรของภาคธุรกิจ แต่ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่สมดุลต่อสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภค และพนักงานในองค์กร ไม่ทิ้งใครไว้ด้านหลัง นอกจากนี้ โมเดล BCG จะเกี่ยวข้องกับครึ่งหนึ่งของการจ้างงานใน 4 สาขาอาชีพ ได้แก่ เกษตรและอาหาร สุขภาพและการแพทย์ พลังงานชีวภาพ และการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจ BCG จะเพิ่มเป็น 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 25% ของจีดีพีไทยในอนาคต

ภาคเอกชนได้ขานรับนโยบาย BCG ด้วยการขับเคลื่อนตามแนวคิด ESG หรือการลงทุนที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล โดยวันนี้ภาคธุรกิจต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้สอดคล้องกับทิศทางและสถานการณ์ดังกล่าว ไม่เช่นนั้นเราจะทำงานกับนานาชาติได้ยาก เพราะตอนนี้หลาย ๆ ประเทศเริ่มตั้งกำแพงภาษีเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่นในยุโรปที่จะทดลองใช้กำแพงภาษีตัวใหม่ที่เรียกว่า Carbon Boarder Adjustment Mechanism (CBAM) กับการนำเข้าสินค้า 5 ชนิดในปีหน้า ส่งผลให้สินค้าแต่ละชนิดต้องมีฉลากคาร์บอนฟุตปริ้นท์ไม่เกิดที่กำหนด มิเช่นนั้นต้องเสียภาษีเพิ่ม ที่น่ากลัวคือ ต่อไปกำแพงภาษีนี้จะเกิดขึ้นในอเมริกา แคนาดา และอีกหลายประเทศๆ รวมถึงอาจครอบคลุมสินค้าส่งออกหมวดอื่น ๆ ที่มีผลกระทบกับประเทศไทยมากขึ้น เช่น ภาคการเกษตร เพราะฉะนั้นถ้าจะค้าขายกับนานาชาติ ผู้ประกอบการไทยจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและแนวทางการทำธุรกิจ โดยตนไม่อยากให้ทุกคนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภาระ แต่อยากให้เห็นเรื่องความยั่งยืนเป็นโอกาสและแต้มต่อทางธุรกิจเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]