ก.ต.ท. สั่งระงับการประกอบธุรกิจชั่วคราว บล. เอเชีย เวลท์

กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – ก.ต.ท. สั่งระงับการประกอบธุรกิจ บล. เอเชีย เวลท์ ชั่วคราว หลังนำเงินลูกค้าไปชำระเป็นค่าซื้อหลักทรัพย์ โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอม 157.99 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ตามที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด แจ้งต่อ ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. ตรวจพบว่า บริษัทมีการนำเงินของลูกค้าที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไปชำระเป็นค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอมให้ดำเนินการดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 157.99 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินงานในลักษณะนี้อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทรัพย์สินของลูกค้าของบริษัท

คณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 เห็นว่าการดำเนินงานของบริษัทอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์ของประชาชนได้ จึงมีมติโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 143 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ดำเนินการดังต่อไปนี้


(1) นำเงินของลูกค้าที่บริษัทนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุญาต มาคืนภายในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565
(2) ระงับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว เว้นแต่เป็นการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงโดยรวมในเงินลงทุนของบริษัทหรือการดำเนินการตามภาระผูกพันที่ค้างอยู่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะนำเงินลูกค้ามาคืน และได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ประกอบธุรกิจได้ตามปกติ
(3) จัดให้มีระบบงานในการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ภายในวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565
(4) อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้าที่มีอยู่กับบริษัทได้ตามความประสงค์ของลูกค้า ภายในระยะเวลาที่ตกลงกับลูกค้า

นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก.ล.ต. โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ได้สั่งการให้บริษัทงดการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ด้วย เว้นแต่เป็นการซื้อขายเพื่อล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีฐานะอยู่เดิม จนกว่าบริษัทจะนำเงินลูกค้ามาคืน และได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ประกอบธุรกิจได้ตามปกติ รวมทั้งให้บริษัทดำเนินการตามข้อ (1) (3) และ (4) ที่กล่าวข้างต้นอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น-ใต้ฝนลดลง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า