กรุงเทพฯ 11 ต.ค.- เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก LINE FRIENDS ทุ่ม 500 ล้าน เปิดแคมเปญ ‘Embracing Happiness 2023’ ฉลองความสุขส่งท้ายปีทั่วประเทศ หลังเปิดประเทศเต็มทีกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 รับไฮซีซั่นที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 65 – 6 ม.ค.66 พร้อมแนะรัฐควรใช้มาตรการกระตุ้นกำลังและใช้จ่ายผ่านมาตรการรัฐก่อนสิ้นปี
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า หลังจากประเทศไทยเปิดประเทศเต็มทีและปัญหาการแพร่ระบาดหมดไป ทางกลุ่มบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้จับมือผนึก LINE FRIENDS คาแรคเตอร์ชื่อดังที่เป็นที่นิยมทั่วโลก จะร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ World phenomenon ทุ่มงบ 500 ล้านบาท เปิดแคมเปญ ‘Embracing Happiness 2023’ การผนึกกำลังครั้งสำคัญของ 2 Global players เชื่อมโยงโมเม้นท์แห่งความสุขสุดยิ่งใหญ่ให้คนไทย สร้าง Scalable impact ทั่วประเทศ เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ไตรมาส 4 ขับเคลื่อน Tourism ecosystem ทั้งDomestic และ International ต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ชู 3 กลยุทธ์ ส่งมอบประสบการณ์ความสุขให้ทุกคน ด้วยการนำ Global character จาก LINE FRIENDS ที่คนทั่วโลกหลงรักมาให้สัมผัสอย่างใกล้ชิดบนพื้นที่แห่งความสุขกว่า 7,000 ตร.ม. ใน 37 สาขาทั่วประเทศ โดยแคมเปญ ‘Embracing Happiness 2023’ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2565 – 6 ม.ค. 2566 คาดช่วยเพิ่มทราฟฟิกจากแคมเปญได้กว่า 30% ทั่วประเทศ โดยเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยผ่านแคมเปญ Embracing Happiness 2022 รองรับทัวริสต์ไทยและต่างชาติ สร้าง Tourism Ecosystem ที่จะช่วยเดินหน้าเศรษฐกิจทั้งในระดับ Domestic และ International เชื่อมั่นภาพรวมการท่องเที่ยวไทยและภาคค้าปลีกไทยจะกลับมาฟื้นตัวใน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาได้ 10 ล้านคนหรือมากกว่านั้น ตามเป้าที่ททท.วางไว้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 สาขาทั่วประเทศ โดยเมื่อช้อปครบ 3,500 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อในราคาพิเศษเพียง 390 บาท (ปกติมูลค่า 1,150 บาท) พร้อมสิทธิ์ลุ้นรับ รถยนต์ GWM HAVAL JOLION รุ่น ULTRA 1 คัน มูลค่ารางวัลละ 990,000 บาท, ตั๋วเครื่องบิน NOK AIR ไป-กลับภายในประเทศ 2 ที่นั่ง มูลค่ารางวัลละ 19,000 บาท รวมทั้งสิ้นกว่า 60 รางวัล, THE 1 BIZ สะสม-แลกคะแนน The 1 ได้ทันที เมื่อช้อปกับร้านค้าที่ร่วมรายการ ช้อปทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน แลก 1,000 คะแนน รับส่วนลด 100 บาท และในหมวดร้านค้าไอที และสถาบันศึกษา ช้อปทุก 50 บาท รับ 1 คะแนน
นายณัฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศเวลานี้ มองว่า กำลังเริ่มฟื้นตัว โดยกำลังซื้อของกลุ่มระดับกลางและบนยังมีอยู่มากขึ้น ดังนั้น จึงเห็นว่ารัฐบาลควรขยายระยะเวลาในเรื่องของการมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ผ่านโครงการต่างให้ต่อเนื่อง เช่น โครงการช้อปมีคืน ที่นำมาลดภาษี โดยรูปแบบอาจทำเหมือนโครงการเดิม เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปีที่คาดว่าจะดีขึ้นหลังจากผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จะทำให้มีเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจมากขึ้น และหลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการจากโควิด 19 ทำให้เกิดการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเชื่อว่ากำลังซื้อในปีนี้จะกลับมาใกล้เคียงกับในช่วงก่อนโควิด หากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่จะนำมากระตุ้นกำลังซื้อจะต้องนำมาใช้ให้ทันในช่วงไตรมาสที่ 4 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย