ไทยออยล์ชี้ค่าการกลั่นติดลบ “ชั่วคราว” คาดทั้งปี $7-8

กรุงเทพฯ 22 ก.ย.- “วิรัตน์” วางรากฐาน ส่งไม้ต่อ ซีอีโอ ไทยออยล์คนใหม่ ทรานส์ฟอร์มธุรกิจผ่านกลยุทธ์ 3V’s ชี้ค่าการกลั่นติดลบ “ชั่วคราว”คาดทั้งปี 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เตรียมประกาศโครงการร่วมทุน “CAP2” ปลายปีนี้ ไม่หวั่นเศรษฐกิจถดถอย มั่นใจ CFP เสร็จปี 2025 รายได้ดีเหตุ “ Golden Period” โรงกลั่น


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บมจ. ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รวมไปถึงปีหน้าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องคาดในกรอบ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเริ่มกลับมาสู่ช่วงระดับก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด ขณะที่สงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ยืดเยื้อ มีปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์  ทำให้ราคาพุ่งและผันผวนในระดับสูง

ส่วนค่าการกลั่นที่ ช่วงนี้อยู่ในภาวะติดลบ นั้น นายวิรัตน์ ชี้ว่าจะเห็นได้ว่า ธุรกิจนี้มีความไม่แน่นอนช่วงไตรมาส2 /65 นับเป็นช่วงสถิติค่าการกลั่นสูงสุด อย่างไรก็ตาม คาดว่า ช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ค่าการกลั่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่า  ครึ่งหลังของปีค่าการกลั่นยังเป็นบวก แต่จะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่ค่าการกลั่น(GRM)อยู่ที่ 10 เหรียญ/บาร์เรล และค่าการกลั่นรวม (GIM )อยู่ที่ประมาณ 17 เหรียญ/บาร์เรล และคาดทั้งปี 65 แล้วค่าการกลั่นจะอยู่ที่ราว 6-7 เหรียญ/บาร์เรล ส่วน GIM จะไม่ต่ำกว่า 7-8 เหรียญ/บาร์เรล นับว่าเป็นปีที่ดีมาก เมื่อเทียบกับช่วงโควิด-19 ที่ปี2564 ค่าการกลั่นอยู่ที่ราว 2.20 เหรียญ/บาร์เรล


“ในช่วง 1-2 ปีจากนี้เป็นปีที่ดีมากสำหรับธุรกิจน้ำมัน เพราะความต้องการใช้โตขึ้นมาก กำลังกลั่นของไทยออยล์ มากกว่า 100% น้ำมันเครื่องบินช่วงโควิด-19 ลดการกลั่นจากสัดส่วน 20 % เหลือ 6 % ขณะนี้ กลั่นเพิ่มเป็นกว่า 10 % และจากช่วงโควิดทั่วโลกไม่ขยายกำลังกลั่น เชื่อว่าช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP)ของบริษัทเสร็จ ในปี67-68 เป็นช่วงปีทองหรือ Golden period ของธุรกิจกลั่น จะสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อบริษัท เป็นช่วงที่ยังทำกำไรเอามาต่อยอดในธุรกิจได้ ”นายวิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ CFP เป็นโครงการที่เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นและขยายกำลังการกลั่นจาก 2.75 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 4 แสนบาร์เรล/วัน สนับสนุนกลยุทธ์  Value Maximization เพื่อสร้างเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง(High Value Product หรือ HVP) CFP มีความคืบหน้าอยู่ที่ 87% และคาดว่าจะสามารถทยอยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2567 และ สามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบในปี 2568

ส่วนอีก 2V ตามแผนกลยุทธ์ 3V’s   คือ  Value Diversification กลยุทธ์กระจายการเติบโตสู่ธุรกิจที่มีความมั่นคงของผลกำไร เช่น ธุรกิจไฟฟ้า การแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัพ   และ Value Enhancement  กลยุทธ์การขยายตลาดและกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ต่างประเทศในระดับภูมิภาค เน้นตลาดที่มีความต้องการสูง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย รวมถึงเพิ่มโอกาสการลงทุนในประเทศเหล่านี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น


นายวิรัตน์  ซึ่งจะเกษียณอายุ ในวันที่ 30 ก.ย. 65  กล่าวว่า เชื่อมั่น ว่า ซีอีโอคนใหม่จะสานต่องาน ที่ ไทยออยล์ ได้เตรียมแผนทรานส์ฟอร์มธุรกิจผ่านกลยุทธ์ 3V’s ดังกล่าว  และจะทำให้ ไทยออยล์สุ่อายุ 100 ปี จากปัจจุบัน 61 ปี อย่างยั่งยืนรายได้กำไรหลักไม่ใช่มาจากธุรกิจการกลั่นแต่จะมาจากธุรกิจใหม่ที่กำลังขยายตัว ทั้งปิโตรเคมี และอื่นๆ โดยวางแผนไว้ว่าภายในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 กำไรจะมาตาก โรงกลั่น 40% ปิโตรเคมี  40%ไฟฟ้า 10 %และธุรกิจใหม่ 10 %  โดยจะมีการลงทุนราว 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการลงทุนสร้าง New S-Curveเช่น ธุรกิจชีวภาพ ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (Bio-Jet), ชีวเคมี (Biochemicals),พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics),เทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่ การเดินทางและการขนส่ง เช่น โครงการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” ความบริสุทธิ์สูง (Green Hydrogen) และ เทคโนโลยีการดักจับ และ การใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS) การจัดตั้งCorporate Venture Capital (CVC)ร่วมลงทุนใน Start-ups ที่น่าสนใจทั่วโลก โฟกัส 3 กรอบธุรกิจ ได้แก่ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน, เทคโนโลยีด้านการทดแทนการใช้น้ำมันและและเทคโนโลยีสนับสนุนอุตสาหกรรมและการผลิต

ส่วนความคืบหน้าโครงการ CAP (PT Chandra Asri Petrochemical Tbk ) บริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไทยออยล์ได้ร่วมลงทุนตั้งแต่ปี64ทำให้สร้างรายได้และก้าวเข้าสู่ธุรกิจโอเลฟินได้อย่างรวดเร็วครอบคลุมธุรกิจปิโตรเลียม-ปิโตรเคมี  ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคตอีกด้วยบริษัทฯคาดว่าโครงการขยายกำลังการผลิต CAP2 กำลังผลิต 8.1-8.2 ล้านตัน จะมี Final Investment Decision (FID) ภายในไตรมาส 4 ปี 2565 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2569 โครงการนี้จะลงทุนรวม 5,000 ล้านเหรียญ  ซึ่งการลงทุนเช่นนี้ใช้เวลาก่อสร้างหลายปี จึงเป็นการเตรียมพร้อมอนาคตแม้ตลาดคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะถดถอย

โดยการลงทุนใน CAP นั้นไทยออยล์ถือหุ้นร้อยละ 15 ด้วยวงเงินลงทุน 913 ล้านเหรียญ กำลังผลิตปัจจุบัน 4.3 ล้านตัน/ปี ส่วน หากลงทุน CAP2 ทางไทยออยล์เตรียมวงเงินร่วมลงทุนอีก 270 ล้านเหรียญ เงินส่วนนี้มาจากขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แก่ถือหุ้นเดิม นักลงทุนสถาบันและรายย่อย ราคาเสนอขาย 53.50 บาทต่อหุ้น และเตรียมนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 30 กันยายนนี้ ช่วยยกระดับโครงสร้างเงินทุนห้แข็งแกร่งและมีความคล่องตัวมากขึ้นในการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตครั้งใหม่ตามแนวทาง New Round of Growth เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่ผู้นำด้านพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย