ไทยออยล์ชี้ค่าการกลั่นติดลบ “ชั่วคราว” คาดทั้งปี $7-8

กรุงเทพฯ 22 ก.ย.- “วิรัตน์” วางรากฐาน ส่งไม้ต่อ ซีอีโอ ไทยออยล์คนใหม่ ทรานส์ฟอร์มธุรกิจผ่านกลยุทธ์ 3V’s ชี้ค่าการกลั่นติดลบ “ชั่วคราว”คาดทั้งปี 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เตรียมประกาศโครงการร่วมทุน “CAP2” ปลายปีนี้ ไม่หวั่นเศรษฐกิจถดถอย มั่นใจ CFP เสร็จปี 2025 รายได้ดีเหตุ “ Golden Period” โรงกลั่น


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บมจ. ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รวมไปถึงปีหน้าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องคาดในกรอบ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเริ่มกลับมาสู่ช่วงระดับก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด ขณะที่สงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ยืดเยื้อ มีปัญหาเรื่องภูมิรัฐศาสตร์  ทำให้ราคาพุ่งและผันผวนในระดับสูง

ส่วนค่าการกลั่นที่ ช่วงนี้อยู่ในภาวะติดลบ นั้น นายวิรัตน์ ชี้ว่าจะเห็นได้ว่า ธุรกิจนี้มีความไม่แน่นอนช่วงไตรมาส2 /65 นับเป็นช่วงสถิติค่าการกลั่นสูงสุด อย่างไรก็ตาม คาดว่า ช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ค่าการกลั่นจะกลับมาเพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่า  ครึ่งหลังของปีค่าการกลั่นยังเป็นบวก แต่จะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่ค่าการกลั่น(GRM)อยู่ที่ 10 เหรียญ/บาร์เรล และค่าการกลั่นรวม (GIM )อยู่ที่ประมาณ 17 เหรียญ/บาร์เรล และคาดทั้งปี 65 แล้วค่าการกลั่นจะอยู่ที่ราว 6-7 เหรียญ/บาร์เรล ส่วน GIM จะไม่ต่ำกว่า 7-8 เหรียญ/บาร์เรล นับว่าเป็นปีที่ดีมาก เมื่อเทียบกับช่วงโควิด-19 ที่ปี2564 ค่าการกลั่นอยู่ที่ราว 2.20 เหรียญ/บาร์เรล


“ในช่วง 1-2 ปีจากนี้เป็นปีที่ดีมากสำหรับธุรกิจน้ำมัน เพราะความต้องการใช้โตขึ้นมาก กำลังกลั่นของไทยออยล์ มากกว่า 100% น้ำมันเครื่องบินช่วงโควิด-19 ลดการกลั่นจากสัดส่วน 20 % เหลือ 6 % ขณะนี้ กลั่นเพิ่มเป็นกว่า 10 % และจากช่วงโควิดทั่วโลกไม่ขยายกำลังกลั่น เชื่อว่าช่วงโครงการพลังงานสะอาด (CFP)ของบริษัทเสร็จ ในปี67-68 เป็นช่วงปีทองหรือ Golden period ของธุรกิจกลั่น จะสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อบริษัท เป็นช่วงที่ยังทำกำไรเอามาต่อยอดในธุรกิจได้ ”นายวิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ CFP เป็นโครงการที่เพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นและขยายกำลังการกลั่นจาก 2.75 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 4 แสนบาร์เรล/วัน สนับสนุนกลยุทธ์  Value Maximization เพื่อสร้างเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง(High Value Product หรือ HVP) CFP มีความคืบหน้าอยู่ที่ 87% และคาดว่าจะสามารถทยอยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2567 และ สามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบในปี 2568

ส่วนอีก 2V ตามแผนกลยุทธ์ 3V’s   คือ  Value Diversification กลยุทธ์กระจายการเติบโตสู่ธุรกิจที่มีความมั่นคงของผลกำไร เช่น ธุรกิจไฟฟ้า การแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ผ่านการลงทุนในสตาร์ทอัพ   และ Value Enhancement  กลยุทธ์การขยายตลาดและกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ต่างประเทศในระดับภูมิภาค เน้นตลาดที่มีความต้องการสูง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย รวมถึงเพิ่มโอกาสการลงทุนในประเทศเหล่านี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น


นายวิรัตน์  ซึ่งจะเกษียณอายุ ในวันที่ 30 ก.ย. 65  กล่าวว่า เชื่อมั่น ว่า ซีอีโอคนใหม่จะสานต่องาน ที่ ไทยออยล์ ได้เตรียมแผนทรานส์ฟอร์มธุรกิจผ่านกลยุทธ์ 3V’s ดังกล่าว  และจะทำให้ ไทยออยล์สุ่อายุ 100 ปี จากปัจจุบัน 61 ปี อย่างยั่งยืนรายได้กำไรหลักไม่ใช่มาจากธุรกิจการกลั่นแต่จะมาจากธุรกิจใหม่ที่กำลังขยายตัว ทั้งปิโตรเคมี และอื่นๆ โดยวางแผนไว้ว่าภายในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 กำไรจะมาตาก โรงกลั่น 40% ปิโตรเคมี  40%ไฟฟ้า 10 %และธุรกิจใหม่ 10 %  โดยจะมีการลงทุนราว 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการลงทุนสร้าง New S-Curveเช่น ธุรกิจชีวภาพ ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (Bio-Jet), ชีวเคมี (Biochemicals),พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics),เทคโนโลยีพลังงานรูปแบบใหม่ การเดินทางและการขนส่ง เช่น โครงการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” ความบริสุทธิ์สูง (Green Hydrogen) และ เทคโนโลยีการดักจับ และ การใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS) การจัดตั้งCorporate Venture Capital (CVC)ร่วมลงทุนใน Start-ups ที่น่าสนใจทั่วโลก โฟกัส 3 กรอบธุรกิจ ได้แก่ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน, เทคโนโลยีด้านการทดแทนการใช้น้ำมันและและเทคโนโลยีสนับสนุนอุตสาหกรรมและการผลิต

ส่วนความคืบหน้าโครงการ CAP (PT Chandra Asri Petrochemical Tbk ) บริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีชั้นนำในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไทยออยล์ได้ร่วมลงทุนตั้งแต่ปี64ทำให้สร้างรายได้และก้าวเข้าสู่ธุรกิจโอเลฟินได้อย่างรวดเร็วครอบคลุมธุรกิจปิโตรเลียม-ปิโตรเคมี  ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือในการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคตอีกด้วยบริษัทฯคาดว่าโครงการขยายกำลังการผลิต CAP2 กำลังผลิต 8.1-8.2 ล้านตัน จะมี Final Investment Decision (FID) ภายในไตรมาส 4 ปี 2565 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2569 โครงการนี้จะลงทุนรวม 5,000 ล้านเหรียญ  ซึ่งการลงทุนเช่นนี้ใช้เวลาก่อสร้างหลายปี จึงเป็นการเตรียมพร้อมอนาคตแม้ตลาดคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะถดถอย

โดยการลงทุนใน CAP นั้นไทยออยล์ถือหุ้นร้อยละ 15 ด้วยวงเงินลงทุน 913 ล้านเหรียญ กำลังผลิตปัจจุบัน 4.3 ล้านตัน/ปี ส่วน หากลงทุน CAP2 ทางไทยออยล์เตรียมวงเงินร่วมลงทุนอีก 270 ล้านเหรียญ เงินส่วนนี้มาจากขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แก่ถือหุ้นเดิม นักลงทุนสถาบันและรายย่อย ราคาเสนอขาย 53.50 บาทต่อหุ้น และเตรียมนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 30 กันยายนนี้ ช่วยยกระดับโครงสร้างเงินทุนห้แข็งแกร่งและมีความคล่องตัวมากขึ้นในการขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตครั้งใหม่ตามแนวทาง New Round of Growth เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่ผู้นำด้านพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]