ทำเนียบฯ 20 ก.ย.- ครม. ผ่านร่างแผนความปลอดภัยไซเบอร์ เตรียมรับมือและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ขณะที่ ITU มีความปลอดภัยไซเบอร์อันดับ 9 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างนโยบายและแผนปฏิบัติการว่าด้วยความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2565-2570 ที่คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) ได้จัดทำและเสนอมาเพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ ทั้งมิติการเสริมสร้างศักยภาพการป้องกัน มิติการรับมือและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ และมิติการตอบสนองต่อเหตุภัยคุกคามและฟื้นฟูระบบให้กลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างทันท่วงที
การจัดทำร่างนโยบายและแผนปฏิบัติการฯ นี้ มีเป้าหมายยุทธศาสตร์ 4 ด้านคือ 1.สร้างขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้านบุคลากร องค์ความรู้ และเทคโนโลยี (Capacity) นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เป็นนวัตกรรมของประเทศ 2.บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อรับมือและฟื้นคืนสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็ว 3.สร้างบริการภาครัฐและโครงสร้างพื้นฐาน ให้มีความมั่นคงปลอดภัยและฟื้นคืนสู่สภาพปกติ
4.สร้างศักยภาพของหน่วยงานระดับชาติให้มีคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อให้การบริหารจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับตัวชี้วัดความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก 2563 (Global Cybersecurity Index 2020) จัดทำโดย ITU องค์การชำนาญพิเศษเฉพาะเรื่องด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขององค์การสหประชาชาติ ให้คะแนนประเทศไทย ค่าชี้วัดรวม 86.50 เป็นอันดับ 9 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีค่าตัวชี้วัดด้านมาตรการทางกฎหมายของไทย อันเป็นจุดแข็งของประเทศ คือ คะแนน 19.11 จาก 20 หลังจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562
ในขณะที่ค่าตัวชี้วัดด้านอื่นๆ ได้แก่ มาตรการด้านองค์กร มาตรการด้านความร่วมมือ การพัฒนาศักยภาพขีดความสามารถ และมาตรการทางเทคนิค ได้คะแนนลดหลั่นมา คือ 17.64, 17.34, 16.84 และ 15.57 ตามลำดับ เมื่อได้จัดทำร่างนโยบายและแผนปฏิบัติการฯ และบังคับใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินการแล้ว ทำให้คะแนนค่าตัวชี้วัดด้านอื่นเพิ่มมากขึ้น อันจะสะท้อนถึงภาพลักษณ์ เสถียรภาพความมั่นคงทางไซเบอร์ของไทย.-สำนักข่าวไทย