แนะเร่งใช้ “จ่ายคนละครึ่ง ระยะที่ 5” ครั้งแรกภายในวันนี้ 14 ก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังแนะคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เร่งใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันนี้14 ก.ย.นี้


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากข้อมูล ณวันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 เวลา 23.00 น. ยังคงเหลือจำนวนประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ประมาณ 1.92 ล้านคน ที่ยังไม่ได้เริ่มใช้จ่ายในโครงการ จึงขอเชิญชวนผู้ได้รับสิทธิดังกล่าวให้เร่งใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันพรุ่งนี้ (วันพุธที่ 14 กันยายน 2565)เวลา 22.59 น. เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ นอกจากนี้ ยังมีประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่4 (ประชาชนรายเดิมฯ) ที่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 อีกประมาณ 2.45 ล้านคน จึงขอเชิญชวนประชาชนรายเดิมฯ ดังกล่าวกดยืนยันสิทธิและเร่งใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ

สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแบบพบหน้า (Face-to-face)และ/หรือสามารถใช้สิทธิโดยการซื้ออาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการได้แก่ ช้อปปี้ฟู้ด ไลน์แมน แกร็บฟู้ดฟู้ดแพนด้าและทรูฟู้ด ได้อีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อได้เริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว จะสามารถใช้จ่ายครั้งต่อไปเมื่อใดก็ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 22.59 น. จนถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565


สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 และโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 โฆษกกระทรวงการคลังเผยว่าจากข้อมูลสะสม ณ วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 เวลา 23.00 น.มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 34.73 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสมทั้งสิ้น20,406.7ล้านบาทโดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้ 

1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 11.81ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสม2,352.9ล้านบาท 

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 817,431คน และมียอดใช้จ่ายสะสม162.4ล้านบาท


3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายเดิมฯจำนวน 21.96 ล้านคน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม17,767.8 ล้านบาท และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4(ประชาชนรายใหม่ฯ)จำนวน 147,902คน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 123.6 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 22.10ล้านคนและมียอดใช้จ่ายรวม17,891.4ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 9,067.2ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 8,824.2ล้านบาท 

สำหรับยอดใช้จ่ายสะสม แบ่งตามประเภทร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม6,798.0ล้านบาทร้านธงฟ้า4,000.4 ล้านบาท ร้าน OTOP 904.2 ล้านบาทร้านค้าทั่วไป 5,890.5 ล้านบาทร้านบริการ 282.5 ล้านบาทและกิจการขนส่ง 15.8 ล้านบาท โดยมีประชาชนที่ได้รับสิทธิทั้งสิ้น 24.02 ล้านราย ซึ่งเป็นประชาชนรายเดิมฯ ที่ได้รับสิทธิจำนวน 23.82 ล้านราย สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวน 9.36 แสนราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 1.94หมื่นราย

ทั้งนี้ การใช้จ่ายผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดใช้จ่ายสะสมของร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มียอดใช้จ่ายสะสม 568.1ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 292.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 275.8 ล้านบาท โดยใช้จ่ายกับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มจำนวน 7.84 หมื่นราย

นอกจากนี้โฆษกกระทรวงการคลังยังขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 อย่างเคร่งครัด และประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนให้ช่วยดำเนินการใช้สิทธิโดยไม่มีการใช้จ่ายจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการซึ่งอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย