กรุงเทพฯ 13 ก.ย.-ประธานที่ปรึกษาฯ หอการค้าไทยเผย หลังเปิดประเทศนักท่องเที่ยวเพิ่มมาก ส่งผลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.65 ยังดีต่อเนื่อง 3 เดือนแตะ 43.7 ถือเป็นดัชนีที่สูงสุดในรอบ 8 เดือน แม้ขณะนี้หลายพื้นที่จะเจอปัญหาน้ำมาก แต่ไม่กระทบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนสิงหาคม 2565 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 43.7 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศ การยกเลิกระบบ Thailand Pass ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อาจสูงกว่า 10 ล้านคนในปีนี้เป็น 12 ล้านคน รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ ทำให้ภาคธุรกิจในประเทศสามารถเดินหน้าได้ มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนทั้งโครงการคนละครึ่งเฟส5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้ดี รวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรมีราคาดีขึ้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 37.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 40.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 52.3 โดยทางศูนย์พยากรณ์ฯ มองว่า จากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะสามารถปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้ตามกรอบที่ประเมินไว้ ร้อยละ 3-3.5
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศมองว่า ไม่มีผลกับการขยายตัวของเศรษฐกิจเนื่องจากพื้นที่ทางการเกษตรไม่ได้รับความเสียหาย การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นแรงส่งสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากรายได้ของประชาชนจะดีขึ้นและภาวะเศรษฐกิจของประเทศถือเป็นเศรษฐกิจในช่วงขาขึ้นและฟื้นตัวแล้วเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย