กทม. 19 ส.ค.-รองนายกฯ ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตยั่งยืน โดยขอให้กระทรวงการคลังและ สสว. ช่วยกันดูแลและเข้าถึงเงินทุนจากสถาบันการเงินภาครัฐ พร้อมร่วมเปิดงาน สสว. แห่งปี “SME – GP Day”19-21 ส.ค.นี้ เพื่อให้ MSME เข้าสู่ตลาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่า 1.3 ล้านล้านบาท
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน SME – GP Day ว่า รัฐบาลได้ให้สำคัญกับผู้ประกอบการ MSME ผ่านนโยบายต่าง ๆ อาทิ นโยบายหลัก ด้านที่ 5 การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย นโยบายเร่งด่วน ด้านที่ 6 การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีแผนแม่บทประเด็นผู้ประกอบการและวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ รวมทั้ง ร่างแผนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาผู้ประกอบการ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผ่านมาตรการด้านต่าง ๆ เพราะผู้ประกอบการ MSME เป็นฐานรากที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยกลุ่มเอสเอ็มอีไทยทุกกลุ่มทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนทำให้เอสเอ็มอีไทยขาดสภาพคล่องอย่างมาก ซึ่งได้กำชับให้กระทรวงการคลังที่กำลังดูแลสถาบันการเงินของรัฐให้ช่วยกันดูแลเสริมสภาพคล่องเร่งรัดให้ปล่อยเงินกู้เสริมสภาพคล่องในให้เอสเอ็มอีไทยอย่างเต็มที รวมถึงให้ สสว ไปช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกกลุ่มเอสเอ็มอีไทยมีความเข็มแข็งและสอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมของรัฐโดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่อนาคตคนทั่วโลกจะหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ดังนั้น กลุ่มเอสเอ็มอีไทยจะต้องเดินหน้าเข้าถึงในกลุ่มนี้ให้ได้ในอนาคต
รศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า ตลาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นอีกโอกาสทางการตลาดในประเทศที่สำคัญ มีมูลค่ารวมมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ในปีงบประมาณ 2564 หน่วยงานของรัฐสามารถจัดซื้อจัดจ้างจาก MSME เป็นวงเงินที่จัดหาได้รวม 528.611 ล้านบาท จากวงเงินที่จัดหาได้รวม 1.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ในปีงบประมาณ 2565 สสว. เตรียมความพร้อม ผู้ประกอบการ MSME ในการเป็นคู่ค้ากับหน่วยงานของรัฐ โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการทั่วไปให้มีการกระจายในระดับพื้นที่ จำนวน 1,000 ราย
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมมุ่งเป้า สำหรับสินค้าและบริการที่มีความยากในการผลิตต้องใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมสูง เพื่อลดการนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ กลุ่มอุตสาหกรรมการบิน กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รวม 500 ราย
ปัจจุบันมี MSME ที่ขึ้นทะเบียนในระบบ THAI SME -GP มากกว่า 136,000 ราย และตั้งเป้าว่าปลายปีนี้ จะมีผู้ประกอบการ MSME ลงทะเบียนในระบบไม่น้อยกว่า 140,000 ราย มีจำนวนสินค้าและบริการกว่า 1 ล้านรายการ ซึ่งในงานนี้ สสว. เชื่อมั่นว่า การพัฒนายกระดับผู้ประกอบการ MSME ให้เข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้มากขึ้น และก่อให้เกิดมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้จริง จะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ MSME ตามคำขวัญของโครงการ “THAI SME-GP รัฐพร้อมซื้อ SME พร้อมขาย”
หน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการ MSME สามารถเข้าชมงาน “SME – GP Day” รัฐพร้อมซื้อ SME พร้อมขายสินค้าและบริการมากมายกว่า 100 บูธ มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนให้ MSME เข้าสู่ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และพบกับบริการดี ๆ จากสถาบันการเงิน ระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ อาคาร ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี.-สำนักข่าวไทย