อดีตนายกฯ อังกฤษหนุนตั้งศาลสากลไต่สวน “ปูติน”

ลอนดอน 19 มี.ค.- อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ 2 คน คือ กอร์ดอน บราวน์ และ เซอร์ จอห์น เมเจอร์ สนับสนุนให้ตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้นไต่สวนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กรณีรุกรานยูเครน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษทั้ง 2 คน รวมอยู่ในกลุ่มนักวิชาการ ทนายความ และนักการเมือง ประมาณ 140 คน ที่ลงนามในคำร้องให้ตั้งระบบยุติธรรมแบบเดียวกับศาลนูเรมเบิร์กที่ตั้งขึ้นไต่สวนอาชญากรสงครามนาซี หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรีบราวน์ วัย 71 ปี เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์เดลีเมลว่า การตั้งศาลระหว่างประเทศจะช่วยปิดช่องโหว่ในกฎหมายสากลที่ปูตินสามารถใช้หลบเลี่ยงความยุติธรรมได้ เรื่องนี้ต้องรีบดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวยูเครนว่า ทุกคนตั้งใจทำจริง ไม่ใช่เพียงคำพูดปลอบใจ และต้องทำให้พรรคพวกของปูตินตระหนักว่า หากไม่รีบออกห่างจากปูติน ก็จะถูกดำเนินคดีและคุมขังเช่นเดียวกัน คำร้องนี้มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้วราว 740,000 คน หลายคนหวังว่า จะช่วยเสริมการทำงานของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี (ICC) ที่กำลังไต่สวนปูติน ข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน แต่ถูกมองว่ามีอำนาจจำกัดเพราะไม่สามารถดำเนินคดีได้ หากไม่มีการส่งเรื่องมาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ที่รัสเซียมีสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ในฐานะสมาชิกถาวร.-สำนักข่าวไทย

อินเดียแจงเรื่องนำเข้าน้ำมันรัสเซีย

นิวเดลี 19 มี.ค.- เจ้าหน้าที่อินเดียชี้แจงเรื่องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศว่า อินเดียจะนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในปีนี้ หลังจากถูกวิจารณ์เรื่องนำเข้าจากรัสเซียที่ถูกหลายประเทศคว่ำบาตรเพราะรุกรานยูเครน เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียที่ขอสงวนนามชี้แจงกับรอยเตอร์ว่า อินเดียนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางมากที่สุด ประกอบด้วยอิรักร้อยละ 23 ซาอุดีอาระเบียร้อยละ 18 และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ร้อยละ 11 ส่วนสหรัฐนั้น อินเดียนำเข้ามากเป็นอันดับ 4 โดยในปีนี้จะนำเข้าเพิ่มอีกร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 8 ขณะที่รัสเซียครองส่วนแบ่งน้อยในตลาดน้ำมันอินเดีย แต่หลังจากรุกรานยูเครน รัสเซียได้เสนอขายน้ำมันแบบมีส่วนลดเพื่อลดผลกระทบจากการถูกคว่ำบาตร อินเดียนออยล์คอร์ปที่เป็นโรงกลั่นอันดับหนึ่งของอินเดียเพิ่งสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซีย 3 ล้านบาร์เรลผ่านการประมูล และฮินดูสถานปิโตรเลียมคอร์ปสั่งจอง 2 ล้านบาร์เรลให้ส่งมอบเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียอีกคนกล่าวว่า อินเดียพร้อมรับข้อเสนอที่มีการแข่งขันจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ราคาน้ำมันโลกทะยานขึ้น จนทำให้อัตราเงินเฟ้ออินเดียสูงขึ้น ฐานะการคลังตึงตัว และกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวด้วยว่า แม้แต่ยุโรปเองก็ยังนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียอยู่ มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และไม่ตัดธนาคารรัสเซียที่ทำธุรรรมด้านนี้ออกจากสมาคมโทรเลขทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลกหรือสวิฟต์ (SWIFT) ดังนั้นการทำธุรกรรมด้านพลังงานที่ชอบด้วยกฎหมายจึงไม่ควรถูกนำมาเป็นเรื่องทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นจะย้ำกับอินเดียให้เป็นหนึ่งเดียวเรื่องยูเครน

มุมไบ 19 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นจะย้ำกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียระหว่างเยือนอินเดียในวันนี้ ให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันในเรื่องยูเครน นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวก่อนเดินทางออกจากญี่ปุ่นว่า เนื่องจากเหตุการณ์รัสเซียรุกรานยูเครนเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการเยือนอินเดียครั้งนี้ เขาจึงอยากจะย้ำถึงความสำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวในระดับสากล และย้ำเรื่องญี่ปุ่นและอินเดียจะทำงานร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ญี่ปุ่นและอินเดียเป็นสมาชิกของการเจรจาด้านความมั่นคงภาคี 4 ฝ่ายหรือควอด (Quad) ที่มีสหรัฐและออสเตรเลียรวมอยู่ด้วย ญี่ปุ่นออกมาตรการคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรในรัสเซียจำนวนหนึ่ง หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน แต่อินเดียเป็นสมาชิกควอดประเทศเดียวที่ไม่ประณามรัสเซีย หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานคาดการณ์ว่า นายกรัฐมนตรีคิชิดะจะประกาศแผนการลงทุนเป็นเวลา 5 ปี มูลค่า 5 ล้านล้านเยน (ราว 1.39 ล้านล้านบาท) ในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ญี่ปุ่นสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมืองของอินเดีย และโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีหัวกระสุนของญี่ปุ่น ส่วนเมื่อปี 2563 ทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาและการบริการต่างฝ่าย (ACSA) ให้กองทัพทั้งสองฝ่ายสามารถจัดหาเสบียงอาหาร เชื้อเพลิง และสิ่งของอื่น ๆ ต่างตอบแทนกัน.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” ปราศรัยที่สนามกีฬามอสโก

มอสโก 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียยกย่องทหารรัสเซียที่กำลังสู้รบในยูเครน ระหว่างปราศรัยต่อประชาชนที่เนืองแน่นอยู่ที่สนามกีฬาในกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีปูตินซึ่งไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะเท่าใดนัก นับตั้งแต่สั่งการให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปรากฏตัวในสนามกีฬาลุจนีกีที่มีป้ายด้านหลังเวทีว่า “เพื่อโลกที่ปลอดจากลัทธินิยมนาซี” เขากล่าวกับฝูงชนที่โห่ร้องตอบรับเสียงกึกก้องว่า ทหารรัสเซียเคียงบ่าเคียงไหล่สู้รบและช่วยเหลือกัน เป็นความกลมเกลียวที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว พร้อมกับหยิบยกประโยคในคัมภีร์ไบเบิลมากล่าวถึงทหารรัสเซียว่า “ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการสละจิตวิญญาณของตนเองเพื่อมิตร” ปูตินย้ำข้ออ้างเดิมว่า ศัตรูในยูเครนเป็นพวกนาซีใหม่ การกระทำของเขาจึงเป็นไปเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้น ตำรวจกรุงมอสโกอ้างว่า มีคนมาร่วมฟังประธานาธิบดีปูตินกล่าวปราศรัยนาน 5 นาทีมากกว่า 200,000 คน ทั้งในและนอกสนามกีฬา บางคนสวมเสื้อพิมพ์คำว่า ซี (Z) ที่เป็นสัญลักษณ์บนรถถังและยานยนต์ทางทหารของรัสเซียในยูเครนเพื่อแสดงความสนับสนุนสงคราม นอกจากนี้ยังมีการร้องเพลงปลุกใจและการแสดงชื่อ Made in the U.S.S.R. ซึ่งเป็นตัวย่อของสหภาพโซเวียต โดยมีประโยคเปิดการแสดงว่า “ยูเครนและไครเมีย เบลารุสและมอลโดวา ทั้งหมดคือประเทศของฉัน” ขณะที่ข้อมูลของวิกิพีเดียระบุว่า สนามกีฬาแห่งนี้จุคนดูได้ 81,000 ที่นั่ง เป็นสนามฟุตบอลใหญ่ที่สุดในรัสเซีย และใหญ่อันดับ 9 ของยุโรป ด้านกลุ่มวิจารณ์รัสเซียอ้างว่า นักศึกษาและลูกจ้างหน่วยงานรัฐในหลายพื้นที่ของรัสเซียถูกบังคับให้เข้าร่วมการชุมนุมและการแสดงดนตรีเมื่อวานนี้ เนื่องในวันครบรอบ 8 ปีที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครน.-สำนักข่าวไทย

จีนมีคนตายเพราะโควิด 2 รายแรกนับจาก ม.ค.2564

ปักกิ่ง 19 มี.ค.- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สองรายแรกนับจากเดือนมกราคม 2564 ในขณะที่จีนกำลังรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่ง่าย ผู้เสียชีวิต 2 รายนี้อยู่ในมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศเพิ่มเป็น 4,638 คน ตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ทางตอนกลางของประเทศเมื่อปลายปี 2562 และไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เลยตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ส่วนผู้ติดเชื้อในชุมชนรายใหม่ จีนแจ้งวันนี้ว่า พบ 2,157 คน ส่วนใหญ่อยู่ในจี๋หลินที่ห้ามคนเดินทางโดยไม่ได้รับอนุญาต จีนใช้ยุทธศาสตร์ควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ ด้วยการตรวจหาเชื้อขนานใหญ่และล็อกดาวน์เข้มงวดทันทีในพื้นที่ที่ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้ควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 128,400 คน อย่างไรก็ดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ยอมรับเป็นครั้งแรกถึงภาระของการใช้ยุทธศาสตร์นี้ว่า จีนควรควบคุมไวรัสให้เป็นผลมากที่สุดโดยเสียค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำซีเรียเยือนอาหรับครั้งแรกตั้งแต่สงครามกลางเมือง 11 ปีก่อน

ดูไบ 19 มี.ค.- สื่อทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) รายงานว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียเดินทางเยือนยูเออีเมื่อวันศุกร์ เป็นการเยือนประเทศอาหรับครั้งแรกนับตั้งแต่ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2554 สำนักข่าวเอมิเรตส์หรือดับเบิลยูเอเอ็ม (WAM) รายงานว่า ประธานาธิบดีอัสซาดเข้าเฝ้าเชค มูฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยาน มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ซึ่งเป็นผู้ปกครองยูเออีโดยพฤตินัย หารือความสัมพันธ์ภราดรภาพระหว่างสองประเทศ ความพยายามเสริมสร้างความมั่นคง เสถียรภาพ และสันติภาพในภูมิภาคอาหรับและตะวันออกกลาง การหาทางรักษาอธิปไตยทางดินแดนของซีเรียและการถอนทหารต่างชาติออกจากซีเรีย การให้ความช่วยเหลือทางการเมืองและมนุษยธรรมแก่ซีเรีย เชคมูฮัมหมัดหวังว่า การเยือนครั้งนี้จะนำมาซึ่งความดีงาม สันติภาพ และเสถียรภาพขึ้นในซีเรียและทั้งภูมิภาค ด้านทำเนียบประธานาธิบดีซีเรียเผยแพร่ภาพประธานาธิบดีเข้าพบเชค มูฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มักตูม เจ้าผู้ครองนครดูไบ ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียูเออีด้วยในระหว่างการเยือนเป็นเวลา 1 วัน การเยือนครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณล่าสุดว่าซีเรียและยูเออีมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น หลังจากยูเออีตัดความสัมพันธ์กับซีเรียในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 และนักการทูตระดับสูงสุดของยูเออีเดินทางไปพบประธานาธิบดีอัสซาดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2554 และถูกสันนิบาตอาหรับระงับสมาชิกภาพ หลังจากเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศ และมีการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรง ประชาชนราว 500,000 คนล้มตาย ขณะที่อีกหลายล้านคนกลายเป็นคนพลัดถิ่น สถานการณ์ทวีความซับซ้อนเมื่อกลุ่มติดอาวุธ […]

“เซเลนสกี” วอน “ปูติน” คุยกันโดยตรง

เคียฟ 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนร้องขออีกครั้งให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเจรจาโดยตรงกับเขา ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในการบันทึกคลิปหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงเคียฟเมื่อกลางดึกวันศุกร์ และเผยแพร่ต่อประชาชนทั่วประเทศในวันนี้ว่า ยูเครนเสนอทางออกเพื่อสันติอยู่เสมอ และต้องการให้มีการเจรจาเรื่องสันติภาพและความมั่นคงที่เป็นประโยชน์และซื่อสัตย์โดยไม่ล่าช้า ถึงเวลาที่ต้องพบและพูดคุยกันแล้ว เขาอยากให้ทุกคนได้ยินสิ่งที่เขาพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกรุงมอสโก ถึงเวลาที่จะต้องทวงคืนอธิปไตยทางดินแดนและความยุติธรรมให้แก่ยูเครน ไม่เช่นนั้นรัสเซียจะเกิดความสูญเสียชนิดที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการเยียวยา ผู้นำยูเครนกล่าวต่อไปว่า กองกำลังรัสเซียจงใจขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเมืองใหญ่ ๆ ในยูเครนที่ถูกโจมตีทางตอนกลางและตะวันออกของยูเครนหวังสร้างหายนะด้านมนุษยธรรม เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ชาวยูเครนยอมร่วมมือ ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรัสเซียโจมตีโรงละครในเมืองมารีอูปอลที่ประชาชนใช้หลบภัยเมื่อวันพุธ มีคนได้รับความช่วยเหลือจากโรงละครแล้วมากกว่า 130 คน และมีคนมากกว่า 9,000 คนสามารถออกจากเมืองมารีอูปอลได้เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีคนเดินทางออกมาด้วยเส้นทางมนุษยธรรมได้อย่างปลอดภัยแล้วมากกว่า 180,000 คน.-สำนักข่าวไทย

“สี” เตือน “ไบเดน” จัดการเรื่องไต้หวันไม่ดีจะกระทบสัมพันธ์

ปักกิ่ง 19 มี.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเตือนประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐว่า จำเป็นต้องจัดการเรื่องไต้หวันอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับผลกระทบเชิงลบ สื่อทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสีกล่าวระหว่างสนทนาผ่านระบบวิดีโอทางไกลกับประธานาธิบดีไบเดนเมื่อวันศุกร์ว่า บางคนในสหรัฐกำลังส่งสัญญาณผิด ๆ ไปยังกลุ่มแยกดินแดนในไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง หากประเด็นไต้หวันไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม จะเกิดผลทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนย้ำกับประธานาธิบดีสีว่า นโยบายของสหรัฐเรื่องไต้หวันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และสหรัฐยังคงคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ด้านกระทรวงต่างประเทศไต้หวันแถลงขอบคุณผู้นำสหรัฐที่ย้ำเรื่องคงสถานภาพปัจจุบันเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน รวมถึงการสนับสนุนความมั่นคงของไต้หวันอย่างแข็งขัน พร้อมกับถือโอกาสนี้เรียกร้องให้จีนดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมและประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครน สื่อทางการจีนรายงานว่า ในการสนทนาดังกล่าวที่สหรัฐเป็นฝ่ายขอให้จัดขึ้น ประธานาธิบดีสีกล่าวถึงวิกฤตยูเครนว่าเป็นเรื่องที่จีนไม่อยากให้เกิดขึ้น องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตควรเจรจากับรัสเซียเพื่อแก้ไขต้นเหตุความขัดแย้ง ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า ในการสนทนาที่กินเวลาราว 2 ชั่วโมง ประธานาธิบดีไบเดนได้พูดถึงผลกระทบและผลที่จะติดตามมา หากจีนให้การสนับสนุนทางวัตถุแก่รัสเซียที่โจมตีเมืองและชาวเมืองยูเครนอย่างโหดร้าย.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐขับมือถือจีนอีกราย อ้างความมั่นคง

สหรัฐเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทางการจีนอีกรายเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ

อังกฤษอนุมัติใช้ Evusheld ให้คนภูมิต่ำป้องกันติดโควิด

ลอนดอน 17 มี.ค.-อังกฤษอนุมัติให้ใช้ยาเอวูเชลด์ (Evusheld) เพื่อป้องกันการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอ แต่ยังไม่มีข้อมูลมากพอว่าจะป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังแพร่อยู่ทั่วโลกหรือไม่ สำนักงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพหรือเอ็มเอชอาร์เอ (MHRA) ของอังกฤษแจ้งวันนี้ว่า ได้อนุมัติให้ใช้เอวูเชลด์ ซึ่งเป็นยาสูตรผสมของบริษัทแอสตราเซนเนกาที่ทำจากสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี ตามที่คณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์อิสระของรัฐบาลให้ความเห็นชอบ ผลการทดลองพบว่า ยาขนานนี้ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโควิดแบบมีอาการลงได้ถึงร้อยละ 77 และมีประสิทธิภาพอยู่นานอย่างน้อย 6 เดือน หลังจากฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงโดสเดียว เอ็มเอชอาร์เออนุมัติให้ใช้ตามอย่างสหรัฐที่อนุมัติให้ใช้กับผู้มีภูมิต้านทานอ่อนแอ หรือเคยมีผลข้างเคียงรุนแรงจากการรับวัคซีนต้านโควิด แต่ไม่ควรใช้กับผู้ติดเชื้อแล้ว หรือผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เอ็มเอชอาร์เอเตือนว่า ยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอจะประเมินได้ว่า ยาเอวูเชลด์มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้อย่างเต็มที่หรือไม่ หรือสามารถต้านทานเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ได้นานเพียงใด ขณะนี้กำลังประสานขอข้อมูลจากแอสตราเซนเนกาที่เคยอ้างเมื่อเดือนธันวาคมว่า ผลการทดลองในห้องทดลองปฏิบัติการพบว่า ยาสูตรนี้สามารถหยุดการทำงานของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้.-สำนักข่าวไทย

ชาวยูเครนบางส่วนกลับบ้านแม้สงครามยังไม่ยุติ

ลวีฟ 17 มี.ค.- ชาวยูเครนบางส่วนตัดสินใจกลับประเทศทั้งที่สงครามยังไม่ยุติ เนื่องจากรู้สึกว่าไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างประเทศ แม้ว่ารู้สึกขอบคุณที่ประเทศในยุโรปให้การต้อนรับอย่างดี สตรีวัย 60 ปีคนหนึ่ง กล่าวระหว่างปาดน้ำตาให้หลานชายขณะโดยสารรถไฟมาถึงเมืองลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครนว่า เธอและบุตรสาววัย 28 ปี หอบหิ้วหลานชาย 2 คน อพยพออกจากบ้านในคาร์คิฟ ทางตะวันออกของประเทศไปถึงโปแลนด์อย่างปลอดภัย และกลับมาที่เมืองลวีฟเมื่อวันพุธ ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 5 วัน เธอรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของโปแลนด์ และอาสาสมัครที่ดูแลอย่างดี แต่รู้สึกกลัวที่จะต้องเริ่มชีวิตใหม่ในต่างประเทศอย่างไร้ญาติขาดมิตร อีกทั้งยังมีอุปสรรคด้านภาษาเรื่องการรักษาหลานชายคนหนึ่งที่ป่วย ทำให้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ สหประชาชาติเผยว่า มีคนอพยพออกจากยูเครนแล้วราว 3 ล้าน ตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน แต่เอเอฟพีรายงานว่า ช่วงสัปดาห์นี้เห็นรถไฟ 3 ขบวนพาผู้โดยสารประมาณ 100-250 คนเดินทางจากเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์มายังเมืองลวีฟของยูเครนเป็นระยะทาง 90 กิโลเมตร บางส่วนเป็นอาสาสมัครต่างชาติที่จะมาช่วยยูเครนรบกับรัสเซีย บางส่วนขนสิ่งของความช่วยเหลือมาให้ แต่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรีที่ถือหนังสือเดินทางยูเครน.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” พูดเรื่องยูเครนและชาติตะวันตก

มอสโก 17 มี.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวปราศรัยล่าสุดเกี่ยวกับยูเครนและชาติตะวันตกเมื่อวานนี้ว่า การที่บรรดาประเทศตะวันตกยึดติดอยู่กับการครอบงำที่แตกสลายคือ ตัวขับเคลื่อนพื้นฐานที่ทำให้เกิดวิกฤติขณะนี้ เว็บไซต์รัสเซียทูเดย์หรืออาร์ที (RT) ซึ่งเป็นสื่อทางการรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินใช้การหารือกับผู้นำระดับภูมิภาคเรื่องมาตรการสนับสนุนทางสังคมและเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย พูดเรื่องความขัดแย้งกับยูเครน สาเหตุของความขัดแย้งและเป้าหมายของรัสเซียว่า การเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษเป็นทางเลือกเดียวที่รัสเซียเหลืออยู่ เพื่อยุติเหตุนองเลือดนานหลายปีทางภาคตะวันออกของยูเครน เพราะการจำกัดขอบเขตของรัสเซียไว้ที่สาธารณรัฐในภูมิภาคดอนบาสที่แยกตัวจากยูเครนจะเป็นเพียงการผลักดัน “แนวหน้า” ไปทางตะวันตกเท่านั้น ไม่สามารถปลดชนวนสถานการณ์ความขัดแย้งได้ พร้อมกับกล่าวหายูเครนว่า เตรียมเปิดฉากบุกครั้งใหญ่เพื่อรวบสาธารณรัฐที่แยกตัวไปกลับคืน ทำให้พลเรือนและเด็กเกือบ 14,000 คนถูกสังหาร อีกทั้งยังหาทางโจมตีคาบสมุทรไครเมียที่แยกตัวจากยูเครนในปี 2557 แล้วมารวมกับรัสเซียผ่านการลงประชามติ ยูเครนได้รับแรงยุจากสหรัฐและชาติตะวันตกให้เตรียมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดอนบาส แต่กองกำลังรัสเซียสามารถทำลายแผนการเหล่านี้ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวหายูเครนว่า ต้องการมีอาวุธทำลายล้างอย่างระเบิดนิวเคลียร์เพื่อใช้กับรัสเซีย มีเครือข่ายห้องทดลองปฏิบัติการที่ทำโครงการอาวุธชีวภาพ เช่น เชื้อโรคต่าง ๆ โดยได้รับคำแนะนำและสนับสนุนทางการเงินจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ รัฐบาลยูเครนที่มีตะวันตกเป็นเจ้านายได้เปลี่ยนยูเครนให้หันมาต่อต้านรัสเซียอย่างก้าวร้าว โดยไม่สนใจชะตากรรมของประชาชน และรับความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตกเพื่อให้การนองเลือดยืดเยื้อ ผู้นำรัสเซียระบุว่า ความปรารถนาของตะวันตกที่ต้องการคงไว้ซึ่งการครอบงำโลกคือ ต้นเหตุของวิกฤตในยูเครนและอีกหลายแห่งทั่วโลก วันนี้ทั้งโลกต้องสูญเสียให้แก่ความทะเยอทะยานของตะวันตกที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อคงไว้ซึ่งการครอบงำที่แตกสลาย ตะวันตกที่ห่วงแต่ผลประโยชน์และผลกำไรนำโลกเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาดและตื้นเขินมาตลอดหลายปี เช่น การใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่กำลังส่งผลกระทบต่อคนทั่วไปในโลกตะวันตก แต่กลับพยายามโทษว่าเป็นความผิดของรัสเซีย อาร์ทีปิดท้ายรายงานด้วยการยกคำกล่าวของปูตินขึ้นเป็นข้อความตัวใหญ่ว่า เขาต้องการให้ชาวตะวันตกทั่วไปได้ยินคำพูดของเขาเช่นกัน การบอกกล่าวซ้ำ ๆ ว่าความลำบากในขณะนี้เป็นผลจากการกระทำที่เป็นปรปักษ์ของรัสเซีย และทางการต้องนำเงินของประชาชนมารับมือกับภัยของรัสเซียนั้น […]

1 467 468 469 470 471 612