หุ้นไทยเช้านี้บวก 20.56 จุด รับข่าวคืบหน้าวัคซีนโควิด

8 ธ.ค. – ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังได้แรงบวกจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่องจากความคืบหน้าวัคซีนต้านโควิดและรอลุ้นข่าวดีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ครม. ดัชนีช่วงเที่ยงอยู่ที่ 1,470.39 จุด เพิ่มขึ้น 20.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 51,162.11 ล้านบาท เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่า 30.16 บาทต่อดอลลาร์ เงินบาทแกว่งตัวกรอบแคบ นักลงทุนส่วนใหญ่รอทิศทางกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนราคาทองในประเทศ พุ่งแรงถึง 400 บาท ตามราคาตลาดโลก ทองคำแท่งขายออก 26,650 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 27,150 บาท .- สำนักข่าวไทย

สิระ จ่อเรียกอัยการแจงปมไม่ฟ้องน้องธนาธร

“สิระ” จ่อเรียกอัยการแจง ปมไม่ฟ้อง “สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ติดสินบนฮุบที่หลวง ซัด “ธนาธร”ไม่ควรเสนอหน้าออกโรงต้านทุจริตเพราะน้องชายเป็นเสียเอง

เฟซบุ๊กรายงานที่สุดแห่งปี 2020

กรุงเทพฯ 8 ธ.ค.- เฟชบุ๊กรายงาน “ที่สุดของปี 2020” โควิด-19 การชุมชนุม สิ่งแวดล้อม ติดอันดับเรื่องที่คนสนใจมากที่สุด เฟชบุ๊กผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียรายใหญ่ รายงานสรุป “ที่สุดของปี 2020” (2020 Year in Review) ที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนได้ใช้งาน เฟชบุ๊ก เพื่อเชื่อมต่อถึงกันอย่างมีความหมายอย่างไรบ้าง โดยรายงานปีนี้ประกอบขึ้นจาก 20 เหตุการณ์สำคัญของปีที่จัดเรียงตามธีมของเนื้อหาหลักหกประเภท การตื่นตัวด้านสังคม ในปี 2020 นี้ เราเห็นถึงความตื่นตัวและการให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อผู้คนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ชุมชนผู้ใช้งานทั่วโลกของเฟชบุ๊กได้ยกเรื่องที่สำคัญต่อพวกเขาขึ้นมาพูดคุย เช่นกรณีการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ เป็นต้น โดยสามสัปดาห์หลังจากที่เขาเสียชีวิต บทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ Black Lives Matter นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า หรือเฉลี่ยเป็นการพูดถึงบน Facebook ถึง 7.5 ล้านครั้งในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการนำหัวข้อ #whatshappeninginthailand มาใช้อย่างมีวัตถุประสงค์และสร้างการมีส่วนร่วมของผู้คน หรือการพูดคุยแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับเหตุการณ์น่าสลดใจที่เบรุต ล้วนแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานชาวไทยให้ความสนใจกับเรื่องทางสังคมและกล้าที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านั้น  ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับชุมชน ผู้คนยังใช้ เฟชบุ๊กเพื่อช่วยเหลือชุมชน แม้ว่าทางกายภาพจะห่างไกลกันก็ตาม โดยจะเห็นได้จากการที่ผู้ใช้งานหันไปอุดหนุนสินค้าและบริการท้องถิ่น ดังที่สะท้อนให้เห็นว่ามี Stories ทั่วโลกกว่า 47 ล้านStories ที่ถูกสร้างขึ้นบน Instagram ติดสติกเกอร์ “Support Small Business” ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้คนกว่า 650,000 คน ในประเทศไทยเขียนโพสต์และคอมเมนต์ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์บน Facebook ในช่วงล็อกดาวน์เดือนเมษายน ก่อนที่จะถึงวันหยุดจริง  และเรื่องที่สร้างความเปลี่ยนแปลงกับวิถีชีวิตคนมากที่สุดคือ โควิด-19 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แฮชแทกที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ในประเทศไทย 5 อันดับแรกคือ #workfromhome #stayhome #stayathomechallenge #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ และ #socialdistancing ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนยังสามารถหาทางเชื่อมต่อถึงกันได้ในยุคของโรคระบาดทั้งๆ ที่ต้องเจอกับข้อจำกัดต่างๆ นอกจากนี้สติกเกอร์ Stay Home ของ Instagram ยังถูกส่งมากกว่า 100 ล้านครั้งทั่วโลกในช่วงสัปดาห์แรกของการเปิดตัว และธุรกิจต่างๆ ก็ใช้ประโยชน์จากสติ๊กเกอร์ Food Order บนแพลตฟอร์ม   เรื่องเพลงและดนตรี สำหรับประเทศไทยแล้ว ดนตรีถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของประเทศนั้น เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างบทสนทนาออนไลน์ โดย แบล็กพิงก์ เซเลน่า โกเมซ และเลดี้ กาก้า เป็นนักร้องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี2020 นอกจากนี้ นักร้องสาว คัง ซึล-กี และค่ายเพลงอย่าง SM Town ก็เกาะกระแสเข้ามาด้วย  เพลงไทยก็ไต่อันดับขึ้นมาบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของ  เฟชบุ๊ก เช่น Slot Machine นั้นติดเทรนด์ตลอดปี 2020 ขณะที่แฮชแทกที่ไวรัลในปีนี้ยังรวมไปถึง #เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น และ #ลิลลี่ได้หมดถ้าสดชื่น ด้วย  ผู้เป็นตำนาน หลายคนใช้  เฟชบุ๊ก เป็นพื้นที่เพื่อรำลึกผู้ที่จากไปแต่ยังทิ้งความทรงจำไว้เป็นตำนานบนโลกใบนี้ การเสียชีวิตของโคบี้ ไบรอันต์ เป็นหัวข้อที่มีการพูดถึงมากที่สุดบน  เฟชบุ๊ก ในปีนี้ทั่วโลก โดยโพสต์และ Stories 3 อันดับแรกมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ การจากไปอย่างกระทันหันของนักแสดงหนุ่ม แชดวิก โบสแมน ก็ถือเป็นอีกเรื่องน่าสลดของปี เมื่อมองการสวมบทบาทของเขาในหนัง แบล็คแพนเธอร์ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเท่าเทียมทางสีผิว  การตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนผู้ใช้งาน  เฟชบุ๊กได้ร่วมกันสร้างโลกที่ดีกว่าในปี 2020 นี้ โดยมีผู้คนกว่า 2.5 ล้านคนทั่วโลกร่วมบริจาคเงินกว่า 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟป่าในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าเป็นการระดมเงินช่วยเหลือครั้งที่ใหญ่ที่สุดของเฟชบุ๊ก.- สำนักข่าวไทย.

อนุทิน หนุนฟ้องผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลักลอบเข้าเมือง

“อนุทิน” ย้ำยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พร้อมหนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ติดเชื้อโควิคที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้หลาบจำ

ดีป้านำเสนอการศึกษารูปแบบใหม่

กรุงเทพฯ 8 ธ.ค. ดีป้านำเสนอการศึกษารูปแบบใหม่นายกรัฐมนตรีย้ำพัฒนาทักษะดิจิทัลผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียนเดินหน้าขับเคลื่อนการยกระดับกำลังคนของประเทศ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นายณัฐพลนิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นำเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) และคณะนักเรียนร่วมออกบูธนิทรรศการ เพื่อนำเสนอผลงานการศึกษาไทยยุค 4.0 ที่มุ่งพัฒนาทักษะดิจิทัลผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียนแก่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การพัฒนากำลังคนสู่ยุคดิจิทัลเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล พ.ศ. 2561-2564 โดยมุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาตนเองของประชากรทุกกลุ่ม ทั้งเด็ก เยาวชน วัยทำงาน ผู้สูงวัย ผู้พิการ และทุกระดับความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ระดับกลาง และระดับสูง ผ่านการส่งเสริมการสร้างบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Manpower) รวมถึงการเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลแก่ประชากรทั่วไป (Digital Citizen) นายณัฐพล กล่าวว่า ต้นแบบการศึกษาไทยในยุค 4.0 พร้อมกันนี้ ยังได้พัฒนากำลังคนและทรัพยากรมนุษย์ผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชนใน 3 กระบวนการหลัก ได้แก่ Reskill หรือการเสริมทักษะดิจิทัลสำหรับบุคลากร โดยมุ่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มโอกาสในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง Upskill หรือการยกระดับคุณภาพและความเชี่ยวชาญของกำลังคนด้านดิจิทัลที่อยู่ในอุตสาหกรรม และ New Skill หรือการเพิ่มทักษะใหม่ด้านดิจิทัลสำหรับวัยเรียนและผู้สูงอายุ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต “การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเรียนรู้ทักษะดิจิทัลแก่โรงเรียนได้ดำเนินการไปแล้ว 210 โรงเรียน โดยประเมินว่า ภายในระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะเป็นแหล่งผลิตนักเรียนและเยาวชนมากกว่า77,000 คน ส่งเสริมการพัฒนาทักษะครูไปแล้ว 3,811 คน ซึ่งครูกลุ่มนี้จะสามารถส่งต่อความรู้ให้แก่นักเรียนไม่น้อยกว่า 234,000 คน พร้อมกันนี้ ยังได้บูรณาการการทำงานกับพันธมิตรภาคเอกชน อาทิ ไมโครซอฟท์ กูเกิล ฯลฯ ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม CodingThailand.org ซึ่งมีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน อีกทั้งสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาไปแล้ว 17 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวไม่น้อยกว่า100,000 คนในปี 2565” ผู้อำนวยการใหญ่  ดีป้า กล่าว สำหรับดิจิทัลสตาร์ทอัพ และนักเรียนที่ร่วมนำเสนอผลงานในครั้งนี้ ประกอบด้วย INFOGRAPHIC THAILAND (บริษัท ไลค์ มี จำกัด) จัดแสดงเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ช่วยในการฝึกอบรมพนักงาน ทำให้พนักงานได้ลงมือฝึกปฏิบัติผ่านโลกเสมือนจริงในสถานการณ์จำลองหลากหลายรูปแบบ ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการฝึกปฏิบัติจริง ปัจจุบันนำไปใช้ในการฝึกอบรมช่างไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวงแล้วกว่า 200 คน พร้อมกันนี้ ยังมีแผนที่จะผลิตชิ้นงานด้าน VR, AR (Augmented Reality) และอื่น ๆ เพื่อให้คนไทยได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเรียนรู้ และลดความเสี่ยงจากการฝึกปฏิบัติจริง อาทิ VR training เรื่องการทำ CPR หรือ AR แสดงวิธีการช่วยชีวิตเบื้องต้น เป็นต้น Vonder (บริษัท วอนเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด) จัดแสดง Vonder Go เครื่องมือช่วยประเมินผลการเรียนรู้ในห้องเรียนผ่านรูปแบบเกมตอบคำถาม โดยคุณครูสามารถสร้างคำถามให้นักเรียนแข่งขัน หรือร่วมมือกันตอบคำถาม โดยมีระบบจับเวลา และวัดผลอย่างละเอียดเมื่อจบเกม ทำให้นักเรียนสนุกกับการเรียนรู้ยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า ช่วงต้นปี 2564 จะเปิดให้คุณครูใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายทั่วประเทศ ผู้แทนนักเรียนจากโรงเรียนชลประทานวิทยา รองชนะเลิศอันดับสองในการแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชนชิงชนะเลิศประเทศไทย ประจำปี 2562 แสดงการจำลองการแข่งขันหุ่นยนต์ซูโม่ผ่านการเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ให้ดันหรืองัดฝ่ายตรงข้ามให้ตกจากสนามแข่งขันภายในเวลาที่กำหนด โดย โรงเรียนชลประทานวิทยา ผลิตนักเรียนที่มีทักษะด้าน Coding และ Robotics จำนวนกว่า 5,000 คนตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และในอนาคตจะสร้างโรงเรียนให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ โดยเปิดให้นักเรียนและผู้ปกครองจากโรงเรียนอื่นมีโอกาสพัฒนาทักษะด้าน Coding และRobotics ได้-สำนักข่าวไทย.

“พล.อ.ประวิตร” ปัดตอบนายกฯ อยู่ 2 สมัย

ทำเนียบฯ 8 ธ.ค. – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ หรือ โหร คมช.ทำนายว่า รัฐบาลจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี และจะอยู่ยาวจากสถานการณ์ต่างๆ ว่า ให้ไปถามโหรดู สถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า  อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น  เรื่องนี้อยู่ที่ความเข้าใจของประชาชนร่วมกัน  ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมตั้งธงสาธารณรัฐ ก็เป็นเรื่องของกฎหมาย   “ส่วนนายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่ง 2 สมัยติดต่อกันหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ผมดำรงตำแหน่ง 2 สมัยไม่ไหว” พล.อ.ประวิตร กล่าว ต่อข้อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเดินหน้าทำงานการเมืองเต็มตัวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี  ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง     .- สำนักข่าวไทย     

จับตาเส้นทางแก้รัฐธรรมนูญ

รัฐสภายังคงเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กระบวนการยังมีอีกหลายขั้นตอน และต้องรอตกผลึกอีกหลายอย่าง ทั้งการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกระบวนการแก้ไขชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการทำประชามติ ติดตามจากรายงาน

กกต.เปิดยอดเงินบริจาคพรรคการเมือง ต.ค.63

กกต. 7 ธ.ค.-กกต.เปิดยอดเงินบริจาคพรรคการเมือง เดือนตุลาคม 2563 มีพรรคการเมืองได้รับเงินบริจาค 12 พรรค “พรรคภูมิใจไทย” บริจาคสูงสุด 4.6 ล้านบาท , ปชป.-ก้าวไกล-เสรีรวมไทย ยอดบริจาคหลักล้าน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ธ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่ข้อมูลการบริจาคเงินแก่พรรคการเมือง ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ประจำเดือนตุลาคม 2563 โดยมีพรรคการเมืองได้ที่รับเงินบริจาค 12 พรรคพรรคที่ได้รับเงินบริจาคสูงสุด คือ พรรคภูมิใจไทย รวมเงินบริจาค 4,610,000 บาทรองลงมา คือ พรรคประชาธิปัตย์ รวมเงินบริจาค 3,218,000 บาท , พรรคก้าวไกล รวมเงินบริจาค 2,517,000 บาท , พรรคเสรีรวมไทย รวมเงินบริจาค 1,180,000 บาท , พรรคประชากรไทย รวมเงินบริจาค 318,000 บาท […]

1 25 26 27 28 29 440