รมว.แรงงาน รับข้อเรียกร้องแรงงานนอกระบบ

7 ธ.ค.- รมว.แรงงาน รับข้อเรียกร้องแรงงานนอกระบบ ยันรัฐบาลจริงใจช่วยเหลือให้ประชาชนมีอาชีพ ได้ประโยชน์เต็มที่


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับข้อเรียกร้องจากประธานสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) ยื่นต่อรัฐบาล ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เรียกร้องนโยบายแรงงานนอกระบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมภายหลังโควิด – 19 คลี่คลาย ยันยัน รัฐบาลจริงใจช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีอาชีพ ได้ประโยชน์เต็มที่

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รับข้อเรียกร้อง เรื่อง “การฟื้นฟูแรงงานนอกระบบจากโควิด-19″จาก นายสมคิด ด้วงเงิน ประธานสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) และเครือข่ายแรงงานนอกระบบประมาณ 300 คน ณ ห้องกลุ่มงานคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ชั้นล่างอาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่เสนอกระทรวงแรงงานผ่านไปยังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มิได้นิ่งนอนใจ ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องแรงงานทุกกลุ่มเหมือนคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบถือเป็นกลุ่มแรงงานขนาดใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับมาโดยตลอดว่า ทำอย่างไรให้แรงงานนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบได้มากที่สุด วันนี้ที่ทำได้คือ นำแรงงานนอกระบบเข้ามาเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40


ในวันนี้เมื่อพี่น้องกลุ่มแรงงานนอกระบบได้รับความเดือดร้อน ผมฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้ลงมารับหนังสือข้อเรียกร้องด้วยตนเอง สำหรับข้อเรียกร้องต่างๆ ซึ่งหลายเรื่องได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ขาดการประชาสัมพันธ์
ได้แก่ กองทุนรับงานไปทำที่บ้าน การหารือกับกรุงเทพมหานครเพื่อคืนพื้นที่ทางการค้าเพื่อการประกอบอาชีพแก่แรงงานนอกระบบ การจ้างงานอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทยตำบลละ 2 คน การรักษาการจ้างงานแรงงานในระบบกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 การจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการขายสินค้าและบริการของแรงงานนอกระบบ การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้ดีขึ้น ส่วนโครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นคนคิดให้กระทรวงการคลังไปทำการบ้าน และนายกรัฐมนตรีได้เพิ่มจำนวนให้อีกเป็นเฟส 2 และเพิ่มจำนวนเงินให้อีก ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้าน การคุ้มครองทางสังคมที่เท่าเทียมและทั่วถึง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์วิกฤตจากโควิด-19

ส่วนข้อเรียกร้องที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ การสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกองทุนการประกอบอาชีพอิสระเพื่อให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงทุน ให้ฝ่ายเลขาฯ เชิญผู้แทนกระทรวงการคลังเข้ามาร่วมหารือ การขอลดเงินสมทบมาตรา 40 ในระบบประกันสังคม มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานบอร์ดร่วมพิจารณาความเป็นไปได้ ให้มีการประกันการมีงานทำ ให้ สปส.ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้ สปส.ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาหารือในรายละเอียดเพื่อให้ได้ข้อสรุปต่อไป เป็นต้น

สำหรับข้อเรียกร้องของสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย) ที่ขอยื่นต่อรัฐบาล ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อเรียกร้องนโยบายแรงงานนอกระบบที่ดีกว่าเดิม มีดังนี้


1) ขอให้รัฐสนับสนุนให้มีกองทุนประกอบอาชีพอิสระแรงงานนอกระบบ เพื่อให้แรงงานนอกระบบทุกกลุ่มได้เข้าถึงความช่วยเหลือด้านทุนการประกอบอาชีพ
2) ขอให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์การให้เงินกู้สำหรับกองทุนผู้รับงานไปทำที่บ้าน
3) คืนพื้นที่ทางการค้าขายเพื่อการประกอบอาชีพให้แก่แรงงานนอกระบบ
4) ให้หน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำโครงการจ้างงาน workfare เพื่อจ้างงานแรงงานที่ทำงานบริการสาธารณะ
5) ให้มีการประกันการมีงานทำแก่แรงงานนอกระบบอย่างน้อย 10 วันต่อเดือน โดยได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ
6) ให้รัฐรักษาการจ้างงานแรงงานในระบบกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโควิด–19 โดยอุดหนุนค่าจ้างในลักษณะร่วมจ่ายแบบ Co – Payment ในกิจการขนาดเล็ก (SMEs) เพื่อป้องกันการผลักแรงงานออกมาเป็นแรงงานนอกระบบเพิ่มขึ้น
7) โครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ต้องจัดสรรโควตาให้แก่แรงงานนอกระบบที่ได้รับผลกระทบจากโควิด–19 อย่างน้อยร้อยละ 30
8) ให้จัดสรรงบประมาณแก่กลุ่มแรงงานนอกระบบให้สามารถยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน สนับสนุนการลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการขายสินค้าและบริการของแรงงานนอกระบบ
9) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐทุกมาตรการ ทั้งเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง และอื่นๆ ต้องครอบคลุมสินค้าและบริการของแรงงานนอกระบบ
10) ต้องการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ดีขึ้นเพื่อให้สามารถประกอบอาชีพในตลาดแรงงานใหม่หลังโควิด–19 ได้
11) ต้องการคุ้มครองทางสังคมที่เท่าเทียมและทั่วถึง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสถานการณ์วิกฤตจากโควิด–19 รวมถึงวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
และ 12) ในการดำเนินการตามข้อเสนอทุกข้อ ต้องให้มีการมีส่วนร่วมและกำกับติดตามจากสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ ภาคประชาสังคม และภาคีวิชาการ เพื่อให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ