ทส.เดินหน้านโยบายเชิงรุกยกกำลัง2+4

อุบลราชธานี 10 ธ.ค.63- ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ มอบนโยบายเชิงรุก ยกกำลัง 2+4 จ.อุบลราชธานี กำชับต้องช่วยเหลือประชาชนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่สร้างความเดือดร้อนเพิ่มเติม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมสรุปผลการดำเนินงานและรับฟังปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานที่ผ่านมาของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีพร้อมนำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบให้กับหน่วยงานในพื้นที่เป็นกรอบในการดำเนินงานในปีต่อไป โดยมี นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ และยังมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การทำงานของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องเป็นศูนย์การในการทำงานระดับพื้นที่ ให้ดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง และสร้างความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงในการแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด หัวใจสำคัญคือกระทรวงฯมาเพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่สร้างปัญหาเพิ่มให้ประชาชน จากนี้จะทำงานกันให้หนักขึ้นเป็นเท่าตัว และต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน ตามนโยบายของ รมว.ทส. ทส. ยกกำลัง 2 บวก 4 นอกจากนี้ได้เน้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมจากการเอ่อล้นของแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล การแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ ปัญหาฝุ่นควันมลพิษ การดูแลป่าไม้ ป่าชุมชน และการจัดหาที่ดินทำกินคทช. ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน พร้อมทั้งให้ทุกคนดูแลสุขภาพส่วนตัวให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป นอกจากนี้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังได้ปลูกต้นรวงผึ้ง บริเวณหน้าอาคารสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนที่จะชมการสาธิตการใช้เครื่องตรวจวัดฝุ่นละออง PM10 PM2.5 เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศอุตุนิยมวิทยา และรถหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่

5 ทำ 5 ไม่ ต้านภัยโรคมะเร็ง | 10 ธันวาคม วันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ

ปัจจุบันโรคมะเร็งในไทยมีแนวโน้มอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคมะเร็ง จึงแนะนำหลักการ 5 ทำ 5 ไม่ ร่วมต้านภัยมะเร็งเนื่องในวันต้านมะเร็งแห่งชาติ

กูเกิลเผยคำค้นหายอดนิยม 2020

กรุงเทพฯ 9 ธ.ค. -กูเกิลประกาศคำค้นหายอดนิยมประจำปี 2563 โดยแสดงให้เห็นถึงภาพรวมของทั้งปีที่ผ่านมา  สถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการดำเนินธุรกิจของประชาชนทั้งประเทศ ส่งผลให้คนไทยตอบรับกับโครงการที่รัฐบาลมีนโยบายออกมาช่วยเยียวยาประชาชนทั้งเพื่อลดรายจ่ายและช่วยฟื้นฟูกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ 5 ใน 10 ของคำค้นหายอดนิยมปีนี้มาจากโครงการของรัฐบาล ได้แก่ “เราไม่ทิ้งกัน” “คนละครึ่ง” “เยียวยาเกษตรกร” “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “ลงทะเบียนรับเงินค่าไฟ”   ตลอดปีนี้ผู้คนยังคงให้ความสนใจค้นหาข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดย “โควิด-19” ติดอันดับ3 และนับเป็นครั้งแรกที่การค้นหาด้านการศึกษาติดอันดับ 2 ใน 10 ได้แก่ “DLTV” และ “สมัครสอบ ก.พ.” ส่วนการค้นหาข่าวการเมืองที่ทั่วโลกต่างจับตามอง โดย “US Election 2020” ก็ติดอยู่ในโผคำค้นหายอดนิยมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความสนใจค้นหาของผู้คนในการทำกิจกรรมผ่านออนไลน์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้อย่างชัดเจน โดย “เรียนออนไลน์” “ลอยกระทงออนไลน์” “ยื่นภาษีออนไลน์” “เวียนเทียนออนไลน์” และ “อบรมใบขับขี่ออนไลน์” ติดโผอันดับ  1 -5 ตามลำดับ   ด้านข่าวเด่นในปีนี้ ผู้คนให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นค่อนข้างหลากหลาย โดยการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดและสุขภาพติดอันดับ 1 คือ “โควิค-19” ด้าน “ไวรัส RSV” ติดอันดับที่ 4 ส่วนข่าวด้านการเมืองระดับโลกติดอันดับที่ 2 คือ “US Election 2020” ด้านข่าวคดีสะเทือนขวัญและอุบัติเหตุที่คนไทยทั้งประเทศให้ความสนใจติดตามค้นหาติดอันดับ 4 ใน 10 ได้แก่ “ข่าวน้องชมพู่” “กราดยิงโคราช” “โจรปล้นทอง” และ “รถไฟชนรถบัส” รวมทั้ง ข่าวปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ได้แก่ “สุริยุปราคา 2563” และข่าวภัยธรรมชาติ “พายุเข้าไทย” ก็ติดอันดับในปีนี้ด้วยเช่นกัน ด้านหมวดสถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องระงับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงปีนี้ ส่งผลให้คนไทยหันมาสนใจค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่มีบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติเป็นภูเขาและมีอากาศที่เย็นสบายแทน ได้แก่ “เชียงใหม่” “เชียงราย” “เขาค้อ” และ “กาญจนบุรี” ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศแบบทะเลและชายหาดที่สวยงามที่ติดโผในปีนี้ ได้แก่ “สุราษฎร์ธานี” “พัทยา” “หัวหิน” “ประจวบคีรีขันธ์” “ระนอง” และ “ระยอง”  ส่วนในหมวด “วิธี” ปีนี้ คนไทยให้ความสนใจค้นหาวิธีต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำรงชีวิตในยุคนิวนอร์มอลและเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยมี “วิธีใช้คนละครึ่ง” ติดโผอันดับ 1 ส่วน “วิธีลงทะเบียนค่าไฟ” “วิธีทำหน้ากากอนามัย” “วิธีทำเจลล้างมือ” “วิธีลงทะเบียนรับเงิน 5,000” “วิธีลงทะเบียนเยียวยาเกษตรกร” และ “วิธีแก้เครียด” ก็ติดโผอันดับที่ 2-7 เช่นกัน-สำนักข่าวไทย.

กทปส.เปิดงบปี64ที่1.1พันล้านบาทมุ่งลุยวิจัย5G

กรุงเทพฯ 9 ธ.ค. กทปส. เผยงบฯ วิจัย ปี 64 แตะ 1.1 พันล้านบาท ลุยงานวิจัย 5G เต็มสูบ เล็งผลักดัน “ดิจิทัลอีโคซิสเต็ม – วิทยุดิจิทัล” สร้างประโยชน์สาธารณะ นายนิพนธ์ จงวิชิต ผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) กล่าวว่า กรอบวงเงินการจัดสรรเงินจากกองทุน ประจำปี 2564 ภายใต้กรอบวงเงิน 1,100 ล้านบาท มีเงื่อนไขการอนุมัติงบฯ จากการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G โครงข่ายไร้สายประสิทธิภาพสูง สู่การพัฒนางานวิจัยเพื่อร่วมขับเคลื่อนใน 3 กลุ่มสำคัญ ดังนี้ ‘กิจการโทรคมนาคม’ การสนับสนุนการสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) ส่งเสริมงานวิจัยเพื่อสร้างความรู้ พร้อมปั้นบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้าน 5G ‘กิจการกระจายเสียง/โทรทัศน์’ การพัฒนาระบบวิทยุดิจิทัล และเทคโนโลยี 4K 8K ในกิจการโทรทัศน์ และ ‘คุ้มครองผู้บริโภค’ การสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบการสื่อสารต่าง ๆ ในกลุ่มผู้ด้อยโอกาส   นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับวงเงินดังกล่าวที่ กทปส. ได้ดำเนินการจัดสรรนั้น แบ่งออกเป็นประเภททุนต่าง ๆ โดยมีรายละเอียด คือ ทุนประเภทที่ 1 ทุนเปิดกว้าง (Open Grant) โครงการที่เกิดจากผู้ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนจากเงิน กทปส.  ภายใต้วงเงิน 400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ยื่นขอรับการส่งเสริมและสนับสนุน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม – 5 เมษายน 2564 ทุนประเภทที่ 2 ทุนที่คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ประกาศกำหนด โดยแบ่งการสนับสนุนออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ ทุนตามนโยบายของคณะกรรมการบริหารกองทุน และ ทุนต่อเนื่อง ซึ่งครอบคลุมวงเงิน 700 ล้านบาท ในปี 2563 กทปส. ได้ดำเนินการจัดสรรงบฯ 2,900 ล้านบาท ผลักดันโครงการต่าง ๆ ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญดังนี้ 1. ด้านบริการเพื่อสังคม (USO) การดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง 2. ด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) การศึกษาวิจัยและพัฒนาทรัพยากรสื่อสาร 3. ด้านพัฒนาศักยภาพบุคลากร (HRD) การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 4. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (Consumer Protection) ครอบคลุมด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อาทิ ‘มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์’ (μTherm-FaceSense) นวัตกรรมตรวจวัดอุณหภูมิสัญชาติไทย ที่แม่นยำเทียบเท่าต่างชาติ ‘ศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีวีอาร์’ (VR) การพัฒนาศูนย์เรียนรู้และหลักสูตรเทคโนโลยีเสมือน หนุนปั้นบุคลากรรับเทรนด์ดิจิทัล โครงการพัฒนา ‘คลาวด์ แอนด์ เอดจ์ คอมพิวติ้ง’ (Cloud & Edge Computing) สำหรับภาคอุตสาหกรรมไทยในยุคดิจิทัล ฯลฯ-สำนักข่าวไทย.

ชูแผนวิจัย Quick win หนุนไทยเป็นศูนย์กลางสุวรรณภูมิศึกษา

กทม. 9 ธ.ค.63 – สกสว. พร้อมเดินหน้าวิจัยแผนงานสุวรรณภูมิศึกษา ช่วยตอบคำถามการเกิดขึ้น และวิวัฒนาการของแผนดินสุวรรณภูมิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)  จัดประชุมหารือจัดทำแผนงานสุวรรณภูมิศึกษา โดยมีนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และหน่วยงานในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เข้าร่วมให้ข้อเสนอแนะพัฒนาแผนวิจัย รศ.ดร.ณัฐมา พงศ์ไพโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ด้านวิเทศสัมพันธ์  กล่าวว่า จากการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 มีความเห็นให้  สกสว.และ สอวช. ส่งเสริมงานวิจัยเรื่อง สุวรรณภูมิ – ทวารวดี – ศรีวิชัย ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. โดยมอบหมาย สกสว. บรรจุประเด็นเพิ่มเติมในแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2564 และจัดงบประมาณสนับสนุน นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังมีแผนงานตั้งศูนย์สุวรรณภูมิศึกษา ซึ่งเป็น […]

มหกรรมการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

กทม. 9 ธ.ค.63 – กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ ฯ จัดงานมหกรรมการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ  เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพ และการป้องกันประเทศ ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมการวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ สู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อศักยภาพของกองทัพและการปกป้องประเทศ (Thailand’s Armament and National Defense Research and Industry) ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โดยเป็นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพและระบบป้องกันประเทศให้ทันสมัย มีความพร้อมในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ปลอดพ้นจากการคุกคามทุกรูปแบบส่งเสริมและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การพัฒนาตนเองในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ สามารถบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศได้นั้น กองทัพบกจึงร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมดำเนินโครงการวิจัยทางด้านยุทโธปกรณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557-2563 นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ  กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ดำเนินการพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านยุทโธปกรณ์เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาและโจทย์ความต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ของกองทัพในอนาคต เป็นระยะเวลา 5 ปี รวม 113 […]

ศาลปกครองสูงสุด เรียกไต่สวนรอบ 2 ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ศาลปกครองสูงสุด เรียกไต่สวนรอบ 2 หลังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย อุทธรณ์คดีประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 18 ธ.ค.นี้

คนไทยในต่างประเทศขอใช้สิทธิออกเสียงประชามติ

ตัวแทนนักเรียนไทยในต่างประเทศยื่นกมธ.ประชามติ ขอให้แปรญัตติรับรองสิทธิคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ให้สามารถออกเสียงประชามติ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

ทส. ร่วมต้านทุจริต มุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน

กทม. 9 ธ.ค.63 – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ประกาศเจตนารมณ์ ร่วมต้านทุจริต มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมประกาศเจตนารมณ์การต่อต้านการทุจริต ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ภายใต้แนวคิด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ใสสะอาดร่วมต้านทุจริต (MNRE Zero Tolerance) ณ ห้องประชุมศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องเงิน แต่หมายรวมถึงการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ถูกต้องร่วมด้วย ดังนั้น ขอให้ข้าราชการในทุกระดับดำรงตนด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นคนดี มีคุณธรรม ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ อดทน กล้ายืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชน เพื่อให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นความหวังและที่พึ่งในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกำหนดมาตรการ […]

1 22 23 24 25 26 440